ฮาเวียร์ เตบาส ประธานใหญ่ ลาลีก้า ยืนยัน บาร์เซโลน่า จะไม่สามารถเสริมตัวผู้เล่นเพิ่มในตลาดซื้อขายซัมเมอร์นี้ เพราะหากยอมปล่อยปละละเลยเรื่องการใช้เงินของสโมสร อาจส่งผลให้ลีกพวกเขาล่มสลายได้
บาร์เซโลน่า กับ ลาลีก้า มีปัญหาขัดแย้งกันอย่างยาวนานเรื่องการเงินนอกสนาม โดยล่าสุดคือกรณีลงทะเบียน กาบี้ เป็นนักเตะชุดใหญ่ ซึ่งสุดท้ายศาลตัดสินให้ยักษ์ใหญ่แดนคาตาลันชนะคดี
ย้อนไปช่วงซัมเมอร์ก่อน บาร์เซโลน่า เจอความกดดันจาก ลาลีก้า แต่สุดท้ายใช้คันโยกทางการเงินทำให้ลงทะเบียนนักเตะเข้าทีมได้ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ลาลีก้า ไม่ยอมให้ทำแบบนั้น และล่าสุดระหว่างการประชุมของ Financial Times เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา เตบาส ยืนยันเตรียมใช้นโยบายเดิม
“ตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา เราไม่อนุญาตให้ บาร์เซโลน่า เสริมตัวผู้เล่น และตลาดซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ พวกเขาก็จะไม่สามารถเสริมตัวผู้เล่นได้เช่นเดิม”
“จากการใช้คันโยกอันเลื่องชื่อ ทำให้ บาร์เซโลน่า มีรายได้เข้าสโมสรมากกว่าซัมเมอร์ก่อน 5 เปอร์เซ็นต์ แต่การทำแบบนี้ที่สโมสรอื่่นอาจเป็นปัญหาได้”
“เราต้องดำเนินการตามกฎของเราและบังคับใช้อย่างรวดเร็ว, ไม่มีสโมสรไหนสามารถใช้คันโยกเพื่อแสดงรายได้เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซนต์ได้”
“บาร์เซโลน่า คือสโมสรที่สำคัญมากกับ ลาลีก้า แต่เราจะไม่ปล่อยปละละเลยเรื่องการใช้เงินของพวกเขา เพราะนั่นอาจเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ได้”
“นั่นอาจทำให้ลีกของเราล่มสลายได้เลย, ประธานสโมสร บาร์เซโลน่า อาจบอกว่าผมแค้นเคืองพวกเขา แต่นั่นคือความจริง”
นอกจากนี้ เตบาส ยังแสดงความกังวลใจข้ามลีกอีกครั้งไปถึงกรณี แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำผิดกฎการเงิน
“เมื่อปี 2017 ที่การกระชุมในเมือง แมนเชสเตอร์, ผมได้วิจารณ์การใช้เงินของทั้ง เปแอสเช และ แมนฯ ซิตี้ ซี่งนั่นทำให้ ซีอีโอของ แมนฯ ซิตี้ รู้สึกโกรธ”
“นับตั้งแต่นั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย, ตอนนี้คดีเพิ่งได้เริ่มสอบสวนซึ่งผมคิดว่ามันใช้เวลานานเกินไป, แมนฯ ซิตี้ ทำผิดกฎเป็นร้อยข้อ ดังนั้นต้องมีการตัดสินให้ถูกต้อง”
เตบาส ถูกยิงถามเพิ่มเติม จากการเรียกร้องบ่อยครั้งว่าเป็นเพราะเขารู้สึกอิจฉา พรีเมียร์ ลีก หรือไม่
“ผมไม่รู้สึกอิจฉา พรีเมียร์ ลีก แต่อย่างใด, ในแง่ของการตลาดแล้ว พวกเขาคือสินค้าที่ดีที่สุดในโลก และเป็นเรื่องยากมากที่ ลาลีก้า จะเทียบเท่า เนื่องจากความแตกต่างระหว่างสองประเทศ”
“พวกเขามีประชากรมากกว่า 70 ล้านคน ส่วนเรามี 50 ล้านคน และยังไม่รวมชาติในเครือจักรภพ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเปรียบเทียบกัน”
“เราได้เรียนรู้จาก พรีเมียร์ ลีก ในแง่ของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางทีวี และเราตั้งความหวังว่าจะขึ้นไปเทียบเท่าระดับพวกเขา”
“แต่เราไม่มีความอิจฉา เพราะยังมีหลายอย่างที่ พรีเมียร์ ลีก ทำได้ไม่ดีนัก เช่นการอนุญาตให้เจ้าของทีมอัดฉีดเงินภายใต้สภาวะขาดทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลและไม่ควรเกิดขึ้น”
“บางที เรอัล มาดริด อาจสามารถใช้จ่ายเงินในระดับเดียวกับทีม พรีเมียร์ ลีก ได้ แต่พวกเขาไม่ทำแบบนั้น ส่วน บาร์เซโลน่า ทำแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว”
ผู้บริหารวัย 60 ปี ถูกยิงคำถามปิดท้ายว่า คิดถึงช่วงเวลาซึ่ง เรอัล มาดริด กว้านซื้อสตาร์สร้าง “กาแล็คติกอส” สร้างความคึกคักให้วงการฟุตบอลสเปนหรือไม่
“ผมไม่คิดถึง และไม่ต้องการช่วงเวลาแบบนั้นอีก, ผมไม่ต้องการเห็น เรอัล มาดริด ทุ่มซื้อใครก็ได้ที่ต้องการอย่างง่ายดาย เราต้องปรับตัวเข้ากับวงการฟุตบอลปัจจุบัน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเท่าเทียม”