ไม่เหลือคราบทีมเทพ! ฝรั่งเศส เครื่องพังโดน เดนมาร์ก ตบคาถิ่นหมดสภาพ 2-0

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เดนมาร์ก กับ ฝรั่งเศส ที่สนาม ปาร์คเก้น, โคเปนเฮเก้น  ในศึก ยูฟ่า เนชั่น ลีก (ทีมชาติ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เดนมาร์ก จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักจากเกมล่าสุดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิล,อันเดรียส คริสเตนเซ่น,คริสเตียน อีริคเซ่น,โธมัส เดลานี่ย์ และ มิคเกล ดัมส์การ์ด

ขณะที่ ฝรั่งเศส จะมาสู้ด้วยระบบ 3-4-1-2 นำโดย เสาหลักขาประจำอย่าง อัลฟองส์ อเรโอล่า,วิลเลี่ยม ซาลิบา,ดาโยท อูปาเมกาโน่,ออเรลิยง ชูอาเมนี่,คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นต้น 

นาทีที่ 15

ช่วง10นาทีแรก ฝรั่งเศส ครองเกมได้มากกว่า และมีโอกาสได้จบสกอร์ด้วย อย่างลูกนี้ที่ เอ็มบัปเป้ กระชากบอลไปสุดเส้นหลัง ก่อนจะเปิดบอลยัดเข้ากลางให้ กรีซมันน์ ตวัดยิงหน้าประตู เดือนร้อน ชไมเคิล ต้องออกแรงเซฟ หวิดเสียประตู

นาทีที่ 33 เดนมาร์ก ขึ้นนำ 1-0

เดนมาร์ก หลังจากผ่านครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เริ่มครองบอลได้มากขึ้น จนในที่สุดพวกเขาก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดัมส์การ์ด เปิดบอลยาวไปหน้าประตูเหมือนำม่มีอะไร แต่ อูปาเมกาโน่ ดันไปปล่อยบอลตกพื้น กระดอนไปเข้าทาง ดอลเบิร์ก วิ่งมาสไลด์ยิงประได้ตูเฉยเลย

นาทีที่ 39 เดนมาร์ก หนีห่าง 2-0 

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ฝรั่งเศส เสียหายต่อเนื่อง โดน เดนมาร์ก ขยับหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เดลานี่ย์ เลี้ยงบอลหลุดไปหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายยัดให้ สคอฟ โอลเซ่น  ง้างเท้าวอลเลย์นอกกรอบ บอลพุ่งผ่านตัวบล็อก หนีมือ อเรโอล่า เข้าประตูไปอย่างสวย 

หมดครึ่งเวลาแรก

เดนมาร์ก – 2

ฝรั่งเศส- 0

นาทีที่ 52 

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ ไม่นาน ฝรั่งเศส ก็มาได้ลุ้นประตูตีไข่แตกอีกแล้ว จากจังหวะที่พวกเขาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล แล้วก็เป็น กรีซมันน์ ที่วิ่งมาซัดเรียดเล่นทาง แต่น่าเสียดาย ชไมเคิล อ่านออก เขาเลยพุ่งปัดออกหลังได้หวุดหวิด

นาทีที่ 67 

ฝรั่งเศส น่าได้ประตูตีไข่แตกจริงๆ จากจังหวะนี้ที่ เอ็มบัปเป้ ใช้ความเร็วแตะบอลหนีตัวประกบจนหลุดเข้าไปยิงติดเซฟ ชไมเคิล 2ครั้งติดๆ ในกรอบเขตโทษ  พลาดโอกาสทองอย่างน่าเสียดาย 

นาทีที่ 85

ก่อนหมดเวลา 5 นาที เดนมาร์ก เกือบยิงประตูเพิ่มได้อีกลูกเหมือนกัน จากจังหวะที่ เบรธเวท เบียดเอาชนะกองหลังของฝรั่งเศสได้ แล้วเทคตัวโหม่งโล่งๆ คนเดียวหน้าประตู แต่น่าเสียดาย บอลสุดท้าย ยังไม่ผ่านมือของ อเรโอล่า 

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น เดนมาร์ก ที่ใช้โอกาสไม่เปลือง เปิดบ้านเอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ ด้วยสกอร์รวม 2-0