เกมการแข่งขัน ระหว่าง ขุนพลแดนวิสกี้ ทีมชาติ สกอตแลนด์ กับ ขุนพลตราหมากรุก ทีมชาติ โครเอเชีย ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้ายของ กลุ้ม ดี โดยเล่นกันที่สนาม แฮมพ์เดน พาร์ค, เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ ในค่ำคืนวันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าภาพร่วม ทีมชาติ สกอตแลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ สตีฟ คล้าร์ก มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย คีแรน เทียร์นี่ย์ กองหลังสารพัดประโยชน์จากอาร์เซน่อล แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายจอมบุกจากลิเวอร์พูล และ เช อดัมส์ กองหน้าจอมขยันจากเซาธ์แฮมป์ตัน
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ทีมชาติ โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มาเตโอ โควาซิช กองกลางห้องเครื่องจากเชลซี ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกมจากเรอัล มาดริด และ บรูโน่ เพ็ตโควิช กองหน้าตัวจบสกอร์จากดินาโม ซาเกร็บ
นาที 3
เปิดฉากเกมขึ้นมา ทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะเป็นอย่างมาก เปิดเกมลุกแลกกันทันที แล้วเป็นเจ้าถิ่น สกอตแลนด์ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะได้เตะมุม แล้วโดนเคลียร์ทิ้งออกมา ก่อนจะเป็นทางฝั่งทีมเยือน โครเอเชีย ที่บุกสวนกลับมาได้ครอสเข้าเขตโทษ แล้วเป็น บรูโน่ เพ็ตโควิช ได้ขึ้นโขก แต่ไม่ตรงกรอบ หลุดกรอบออกไปไกล
นาที 5
เจ้าถิ่น สกอตแลนด์ เกือบได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะ จอห์น แม็คกินน์ ได้บอลที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะบรรจงหยอดบอลข้ามแนวรับไปยังหน้าเสาไกล กำลังจะถึงหัว เช อดัมส์ ได้ยิงจ่อ ๆ อยู่แล้ว แต่ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย อ่านเกมได้ดี โฉบมาชกทิ้งออกมาได้ทันเฉียดฉิว
นาที 10
สกอตแลนด์ บุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ สาดบอลยาวขึ้นมาให้ ลินดอน ไดค์ส ที่ถอยต่ำลงมา โหม่งชงต่อมาให้กับ เช อดัมส์ มีโอกาสได้ตั้งป้อมลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ แต่บอลพุ่งไปแฉลบ โดมาโกจ์ วิด้า กระดอนหลุดออกหลังไป เสียดายที่ผู้ตัดสินมองไม่ทัน ให้เป็นลูกตั้งเตะของโครเอเชีย
นาที 17 GOAL!!!
ทีมเยือน โครเอเชีย บุกมาออกนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะ โยซิป ยูราโนวิช หลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะครอสบอลโค้งเข้าเขตโทษ ลึกไปที่เสาไกลให้ อิวาน เปริซิช โหม่งชงกลับเข้ามาตรงกลางให้ นิโคล่า วลาซิช ได้พักอก แล้วล้มตัวตวัดยิงด้วยซ้าย หนีมือ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เบียดเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 22
ทีมเยือน โครเอเชีย บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ลูก้า โมดริช ได้บอลที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะตัดสินใจขอส่องเอง ตั้งป้อมตะบันด้วยขวานอกกรอบเขตโทษระยะประมาณ 18 หลา บอลพุ่งแรงและติดส่าย เกือบจะเสียบใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ เดวิด มาร์แชล ผู้รักษาประตูสกอตแลนด์ ผวาพุ่งไปปัดข้ามข้ามคานไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 24
สกอตแลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ขยันไล่บอล แย่งคืนมาได้ที่หน้าเขตโทษ ก่อนทำชิ่งกับเพื่อน ทะลุเข้ามาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วหักเข้ากลางมาให้ ลินดอน ไดค์ส ได้ไหลบอลสั้นย้อนหลังมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ จอห์น แม็คกินน์ สอดมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงกระดอนพื้นแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย ตามมาเซฟไว้ได้ทัน
นาที 33
สกอตแลนด์ ต้องเสียโควต้าการเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อ แกรนท์ แฮนลี่ย์ ปราการหลังตัวเก่ง เกิดอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ สตีฟ คล้ากร์ก กุนซือเจ้าถิ่น ต้องแก้เกมด้วยการส่ง สกอตต์ แม็คเคนน่า กองหลังจากน็อตติ้ง แฮมป์ฟอร์เรส ลงสนามมายืนป้องกันแนวรับแทน
นาที 40
ช่วงท้ายเกม ตราหมากรุก โครเอเชีย บวกสวนขึ้นมาได้จบสองครั้งติด เป็นจังหวะ โยซิป ยูราโนวิช ตะบันด้วยขวานอกกรอบเขตโทษ เหินข้ามคานไปนิดเดียว อีกนาทีถัดมา มาเตโอ โควาซิช จ่ายออกไปยังกราบซ้ายให้ อิวาน เปริซิช ได้เลี้ยงแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นตัดเข้าใน ก่อนจะซัดด้วยขวา ส่งบอลพุ่งเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปเหมือนเดิม
นาที 42 GOAL!!!
สกอตแลนด์ ได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ หลุดขึ้นมาเก็บบอลได้ทางซ้ายของ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก่อนจะครอสกลับเข้าไปในเขตโทษใหม่ แล้วเป็น แนวรับโครเอเชีย ที่สกัดบอลไม่ดี กลายเป็นตั้งให้ คัลลัม แม็คเกรเกอร์ วิ่งสอดมาซัดที่หน้าเขตกรอบ 18 หลา บอลพุ่งกระดอนพื้นหนีมือ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกหน้าต่าง อย่างสวยงาม
หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกสูสี เป็นทีมเยือน โครเอเชีย ที่เดินเกมรุก ดูวูวาบน่ากลัวกว่าอยู่พอสมควร แต่เจ้าถิ่น สกอตแลนด์ ก็ยังมีลูกฮึด สวนกลับมาได้ลุ้นอยู่หลายจังหวะเช่นกัน ก่อนสุดท้ายจะเสมอกันอยู่ที่ 1-1 !!!
นาที 50
เปิดฉากเกมครึ่งหลังมาแปปเดียว ทีมเยือน โครเอเชีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มาร์เซโล่ โบรโซวิช พลิกบอลขึ้นมาได้สวย ก่อนจะแทงทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ ยอสโก้ กวาร์ดิออล วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ แต่ยิงไม่ผ่าน เดวิด มาร์แชล ผู้รักษาประตูสกอตแลนด์ ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 56
โครเอเชีย บุกขึ้นมาตรงกลาง ลูก้า โมดริช เปิดบอลยาวจากกลางสนามขึ้นไปให้ อิวาน เปริซิช ทางกราบซ้าย เจ้าตัวแตะบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจะยิงเร็วด้วยขวาไปติดเซฟของ เดวิด มาร์แชล ผู้รักษาประตูสกอตแลนด์ อีกครั้ง แต่ผู้ตัดสินเป่าย้อนให้เป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็ไม่ได้ประตูอยู่ดี
นาที 59
สกอตแลนด์ มีโอกาสตอบโต้ขึ้นมาได้เสียวเหมือนกัน เป็นจังหวะ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ล็อคเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะเปิดลึกไปที่เสาไกลให้ จอห์น แม็คกินน์ ได้โฉบตัดหน้า ยอสโก้ กวาร์ดิออล วิ่งสอดมาดีดจ่อ ๆ ที่หน้าปากประตู แต่โดนไม่เต็ม บอลปลิ้นหลุดกรอบออกไป แบบน่าเหลือเชื่อ
นาที 62 GOAL!!!
โครเอเชีย มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะที่ บรูโน่ เพ็ตโควิช หลุดขึ้นมาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย พักบอลดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลย้อนหลังมาที่หน้าเขตโทษให้ มาเตโอ โควาซิช ป้ายต่อไปในเขตโทษฝั่งขวาตั้งให้ ลูก้า โมดริช ได้วิ่งมาอัดด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งแรงติดไซด์ก้อย ทะลุบล็อกของ สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง ผ่านมือ เดวิดมาร์แชล ผู้รักษาประตูสกอตแลนด์ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 70
เข้าสู่ช่วง 20 นาที สุดท้าย เจ้าถิ่น สกอตแลนด์ ไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนัก แต่ก็ยังเจาะแนวรับไม่เข้า จังหวะนี้ ได้ฟรีคิกทางกราบขวา สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง เปิดโด่งเข้าเขตโทษโดนสกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง คัลลัม แม็คเกรเกอร์ ได้วิ่งมาส่องไกลสวนกลับเข้าไป แต่ก็เหินข้ามคานออกไป
นาที 74
เข้าสู่ช่วง 15 นาที สุดท้าย เจ้าถิ่น สกอตแลนด์ ยังคงเจาะไม่เข้า เลยหันมาเน้นส่องไกลจากแถวสองแทน จังหวะนี้ ลินดอน ไดค์ส พยายามจะเลี้ยงลุยเข้าเขตโทษ แต่โดนสกัดมาเข้าทาง ไรอัน เฟรเซอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะส่องไกลอัดด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งออกหลังไปไกล แบบไม่ได้ลุ้นอีกครั้งหนึ่ง
นาที 77 GOAL!!!
โครเอเชีย มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ลูก้า โมดริช เปิดบอลปั่นโค้งมาที่เสาแรกให้ อิวาน เปริซิช สลัดหนี คีแรน เทียร์นี่ย์ โฉบมาโหม่งเช็ดบอล เปลี่ยนทางไปที่เสาไกล เสียบตาข่าย เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาที 80
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไรอัน เฟรเซอร์ กระชากแหวกขึ้นถึงหน้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดไปแฉลบบล็อกโครเอเชีย กระดอนไปมาที่เสาไกลขวามือเข้าทาง เช อดัมส์ ได้สอดมาทิ้งตัวชาร์จจ่อ ๆ ไปติดเซฟของ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย ทิ้งตัวใช้ขาเซฟไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 82
เจ้าถิ่น สกอตแลนด์ พยายามจะยิงไล่ขึ้นมาให้ได้ จังหวะนี้ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้ามาในเขตโทษ แล้วเป็น สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งคนเดียวเน้น ๆ แต่บอลก็ยังหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปอีก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ทีมชาติ โครเอเชีย บุกมาเอาชนะเจ้าถิ่น ทีมชาติ สกอตแลนด์ ไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 !!! คว้าสามคะแนนและลูกได้เสียสุดล้ำค่า แซงทีมชาติ สาธารณรัฐเช็ก ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 ของกลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ขณะที่ สกอตแลนด์ อยู่ที่โหล่ของกลุ่ม ต้องตกรอบไปเป็นที่เรียบร้อย