วิลเลี่ยน โชเซ่ หัวหอกของ โรอัล โซเซียดัด เผยว่าเขาได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนที่ต้นสังกัดจะยอมปล่อยเขาออกไปให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ยืมใช้งาน
แข้งเลือดแซมบ้าย้ายจาก เดปอร์ติโบ มัลโดนาโด้ ในประเทศอุรุกวัย มาอยู่กับทีมดังแดนกระทิงเมื่อปี 2016
จากนั้นแข้งวัย 29 ได้ย้ายไปอยู่กับ “หมาป่า” ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อช่วงต้นปี และทำไปได้แค่ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์เท่านั้น จาก 17 นัดในพรีเมียร์ลีก
อย่างไรก็ดี โชเซ่ เปิดเผยว่าเคยได้รับความสนใจจากทีมใหญ่อย่าง “ไก่เดือยทอง”, “ต่างดาว” และ “ปีศาจแดง” มาก่อน แต่ต้นสังกัดไม่ยอมปล่อยเขาออกไปจากทีม
“ตอนผมเซ็นสัญญาฉบับล่าสุดกับ ลา เรอัล, เมื่อต่อสัญญาเสร็จปุ๊บ ผมก็ได้คุยกับ โรเบร์โต โอลาเบ แล้วได้รู้ว่ามีทีมจากพรีเมียร์ลีกและลาลีก้าสนใจอยู่” เขากล่าวตามรายงานของ Diario Sport
“ผมได้คุยกับ โรเบร์โต แล้วเขาก็บอกผมว่าถ้ามีทีมใหญ่, ทีมระดับแชมเปี้ยนส์ลีก, ให้ความสนใจ พวกเขาจะยอมปล่อยผมออกไป”
“ข้อเสนอแรกมันมาจาก ท็อตแน่ม (ฮ็อตสเปอร์) ทีมใหญ่ในพรีเมียร์ลีกที่เคยเล่นแชมเปี้ยนส์ลีก ผมเคยฝันอยากเล่นในพรีเมียร์ลีก และมันก็เป็นโอกาสที่ดีมากๆสำหรับผม”
“จากนั้น บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ก้าวเข้ามา ผมมองว่ามันเป็นโอกาสที่พลาดไม่ได้ คุณต้องฉวยโอกาสนี้ไวเและผมก็เห็นว่ามันเป็นโอกาสที่ดี”
“แต่สุดท้ายทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่หวัง และปีนี้พวกเขาก็ปล่อยผมไปอยู่กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อไม่กี่เดือนก่อนพวกเขาถึงไม่ยอมปล่อยผมไปอยู่กับ ท็อตแน่ม ด้วยราคา 23 ล้านยูโร แล้วดันมายอมปล่อยออกไปตอนนี้”
นอกจากนี้ โชเซ่ ยังยอมรับว่าไม่ต้องการอยู่กับ โซเซียดัด อีกต่อไป โดยคาดกันว่าจะมีการย้ายทีมเกิดขึ้นในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
“แผนของผมไม่ใช่การค้าแข้งที่นี่อีกต่อไป” เขากล่าวเสริม
“ผมอยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้ว และผมต้องการสิ่งใหม่ๆ ผมอยากจะย้ายออกไปจากที่นี่”