เกมการแข่งขัน ฟุตบอลโอลิมปิก 2020 รอบรองชนะเลิศ ระหว่าง เจ้าถิ่น เจ้าภาพ ทีมชาติ ญี่ปุ่น เปิดสนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม, เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น ต้อนรับการมาเยือนของทัพกระทิงดุ ทีมชาติ สเปน เมื่อเย็นวันอังคารที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ทีมชาติ ญี่ปุ่น ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย มายะ โยชิดะ เซ็นเตอร์แบ็คตัวเก๋า วาตารุ เอนโดะ มิดฟิลด์ห้องเครื่องตัวคุมจังหวะเกม และ ทาเคฟุสะ คุโบะ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้วจากเรอัล มาดริด
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ทีมชาติ สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เปดรี้ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว ดานี่ โอลโม่ ตัวทำเกมริมเส้น และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 5
ช่วงต้นเกมมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ สเปน ที่ครองบอล โหมบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก หวังเอาประตูขึ้นนำไปก่อนให้ได้ไว ๆ จังหวะนี้ มาร์ก กูกูเรย่า สปีดดันสูงขึ้นมา เกี่ยวบอลเอาไว้ได้ที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น โค อิตาคูระ กองหลังญี่ปุ่น ที่โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยเลยไปที่เสาสองเข้าทาง มิเกล เมริโน่ ได้สอดมาโขกเน้น ๆ ยัดมุมแคบจ่อ ๆ แต่บอลก็พุ่งเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 17
ทีมชาติ สเปน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่นตามสไตล์ จังหวะนี้ ราฟา มีร์ กองหน้าฟอร์มแรง ได้บอลที่หน้าหัวกระโหลก ก่อนจะสับไกด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ พุ่งแรงไปติดบล็อกของ มายะ โยชิดะ ที่กระโจนมาขวางไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาที 25
เกมผ่านได้ครึ่งทางของครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมชาติ ญี่ปุ่น ที่เริ่มกลับเข้าสู่เกม ดึงเกมช้าเน้นความแน่นอน ได้เป็นฝ่ายตั้งเกมบุกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีจังหวะจบเน้น ๆ ให้เห็น ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ สเปน พยายามไล่กดดัน บีบแย่งบอลตั้งแต่กลางสนามถึงแดนหน้า สร้างความอึดอัดให้เจ้าภาพได้ไม่น้อยเลย
นาที 31
โอกาสลุ้นประตูแบบโจ่งแจ้งของเกมเป็นของทางฝั่งทีมชาติ สเปน จังหวะนี้ ดานี่ โอลโม่ เปิดบอลยาวเปลี่ยนแกนออกไปทางขวาให้ ออสการ์ กิล ที่เติมเกมสูงขึ้นมา ได้ตวัดบอลจากริมเส้นเข้าไปในเขตโทษให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล พยายามตวัดฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่จับ แต่ก็โดนใต้ลูกมากเกินไป สุดท้ายบอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบออกไปไกล
นาที 34
เจ้าถิ่น ญี่ปุ่น ได้ตอบโต้บ้าง เป็นจังหวะ ยูตะ นากายามะ ไหลบอลขึ้นหน้ายัดมาให้ ทาเคฟุสะ คุโบะ ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะเลี้ยงวนย้อนกลับหลังที่หน้าเขตโทษ แตะหาช่อง แล้วยิงด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ บอลพุ่งไปติดบล็อคกองหลังของสเปน กระดอนหลุดออกหลังไปเสียก่อน
นาที 39
ทีมเยือน สเปน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มิเกล เมริโน่ แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสไปให้ ราฟา มีร์ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะพยายามดีดเร็วด้วยขวาทันที แต่เป็น โคเซอิ ทานิ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่อ่านเกมได้ดี วิ่งออกมาปิดมุม เซฟช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน สเปน ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอยู่พอสมควรตามสไตล์ แต่ก็ยังยิงประตูขึ้นนำไม่ได้ ขณะที่เจ้าถิ่น ญี่ปุ่น ก็ยังสามารถเล่นได้ตามแผน เกมรับยังไม่พลาด สวนกลับมาก็ได้จบ ถึงแม้จะยังไม่คมก็ตาม สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0 !!!
นาที 52
เปิดฉากเกมครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ ญี่ปุ่น ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ เรโอะ ฮาตาเตะ ทำชิ่งหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดย้อนมาที่หน้ากรอบเขตโทษตรงกลางให้ ไดจิ ฮายาชิ ได้ลองซัดด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบ เจ้าตัวยิงได้ไม่ค่อยดี กดบอลไม่ลง สุดท้าย เหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นอะไร
นาที 55 VAR!!!
ทีมชาติ สเปน เกือบจะได้ลูกจุดโทษ เมื่อ มาร์ก กูกูเรย่า ดันสูงขึ้นมาทางซ้าย แล้วเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ มิเกล เมริโน่ โฉบมาเอาบอลได้ก่อนใคร กำลังจะได้ง้างเท้ายิง แต่โดน มายะ โยชิดะ พุ่งเข้าสกัดบอลล้มลงไป ผู้ตัดสิน เควิน ออร์เตก้า จากเปรู เป่าชี้ว่าเป็นลูกจุดโทษของกระทิงดุทันที ก่อนที่จะมีสัญญาณ VAR จากข้างสนาม กรรมการเดินไปดูอยู่นาน สุดท้ายกลับลงมาเปลี่ยนคำตัดสิน ริบจุดโทษคืนไป เพราะโยชิดะสกัดโดนบอลก่อนนิดนึง
นาที 62
ทีมชาติ สเปน ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษด้านซ้าย แล้วเป็น การ์ลอส โซเลร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา โยนบอลโด่งลึกไปยังเสาสองให้ทาง เอริค การ์เซีย ได้โหม่งยัดกลับเข้ามาตรงกลาง แต่บอลไปโดนเข่า แล้วกระดอนมาโดนแขนของ ฮิโรกิ ซากาอิ กระเด้งออกหลังไป ผู้เล่นสเปน โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ ผู้ตัดสิน เควิน ออร์เตก้า จากเปรู ก็ยังใจแข็ง ไม่ได้ว่าอะไร ให้เล่นต่อไป
นาที 69
ทีมชาติ สเปน บุกมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ การ์ลอส โซเลร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาแรงยังดี ได้บอลทางซ้าย ติดเครื่องเลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตัดสินใจซัดเร็วด้วยซ้ายทันที แต่เป็น มายะ โยชิดะ กองหลังกัปตันทีมของเจ้าถิ่น ที่ยังทันเกม ขยับมาขวางทางบอลเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 76
ทีมเยือน สเปน เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เปดรี้ ตักบอลไปในเขตโทษ บอลแฉลบบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น กระดอนไปเข้าทาง ราฟา มีร์ ได้ส้มหล่น พยายามพุ่งไปแหย่ขายิงจ่อ ๆ ที่หน้าประตู แต่เป็น โคเซอิ ทานิ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งออกมาปิดมุม ใช้ตัวบล็อกเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด จังหวะนี้ ทำเอานายด่านญี่ปุ่นเจ็บไปด้วย
นาที 79
เจ้าถิ่น ญี่ปุ่น ต่อบอลกันขึ้นมาทางซ้าย รึซึ โดอัน จ่ายบอลมาที่ ทาเคฟุสะ คุโบะ ลากบอลจี้เข้าใส่ ออสการ์ กิล ค่อย ๆ กินพื้นที่เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโยกหลอกเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย แล้วซัดเร็วยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่ทว่า อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ ผวาปัดทิ้งออกมาได้ทัน
นาที 88
ทีมชาติ สเปน ได้ทุ่มทางด้านขวาของกรอบเขตโทษ ราฟา มีร์ ได้บอลแล้วพลิกบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดด้วยขวายัดมุมแคบไปที่เสาแรก พุ่งไปตรงตัวของ โคเซอิ ทานิ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนปักหลักคุมเสาอยู่ รับไว้ได้ทัน
นาที 102
จบเกมเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ 30 นาที แล้วเป็นทางฝั่งทีมชาติ ญี่ปุ่น ที่ได้ลุ้นก่อน เป็นจังหวะ ยูตะ นากายามะ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเข้าไปที่เสาแรกให้ ไดเซ็น มาเอดะ วิ่งโฉบตัดหน้า เปา ตอร์เรส สอดมาโขกเน้น ๆ แต่บอลหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปนิดเดียว ชนิดได้เสียวสุด ๆ
นาที 105
ทีมชาติ สปน บุกขึ้นมาทางซ้าย มาร์ก กูกูเรย่า เติมสูงพาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะเงยหน้ามอง แล้วบรรจงครอสบอลโค้งไปที่เสาไกลให้ ราฟา มีร์ เทคตัวขึ้นโขกเหนือ โค อิตาคุระ ได้เต็ม ๆ แต่บอลเบาแถมไปตรงตัวของ โคเซอิ ทานิ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้สบาย
นาที 115 GOAL!!!
ทีมชาติ สเปน มาได้ประตูขึ้นนำจนได้ 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ลูกทุ่มทางกราบขวา มิเกล โอยาร์ซาบัล ได้บอลแล้วลากพาบอลมาถึงกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะตวัดสั้น ๆ ยัดเข้าในมาให้ มาร์โก อเซนซิโอ้ ได้พลิกมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยหนีมือของ โคเซอิ ทานิ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ สเปน ที่เฉือนเอาชนะทีมชาติ ญี่ปุ่น ไปได้ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 !!! ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับทีมชาติ บราซิล ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ขณะที่ทีมชาติ ญี่ปุ่น ต้องไปชิงที่สามกับทีมชาติ เม็กซิโก