เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) เปิดสนาม อะคาเดมี่ สเตเดี้ยม (สนามซ้อม) ต้อนรับการมาเยือนของทีม แบล็คพลู (อังกฤษ) ในศึกฟุตบอลอุ่นเครื่องกระชับมิตรระดับสโมสรช่วงปรีซีซั่น เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย รูเบน ดิอาส ปราการหลังตัวเก่ง แฟร์นันดินโญ่ กองกลางห้องเครื่อง และ ริยาด มาห์เรซ กองหน้ากึ่งปีกตัวทำเกม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน แบล็คพูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ นีล คริตช์ลี่ย์ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย จอช โบว์เลอร์ กองกลางห้องเครื่อง ลุค การ์บัตต์ ปีกตัวจี๊ด และ โอลิเวอร์ ซาร์คิช กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 3 GOAL!!!
เริ่มเกมมาได้แค่แปปเดียว เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่ 1-0 !!! เป็นจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน เลี้ยงจี้เข้าไปในเขตโทษตรงกลาง ก่อนจะเลี้ยงวนหาช่อง แล้วซัดหักข้อด้วยขวาไปแฉลบบล็อกกระดอนเข้าทาง ซามูเอล เอโดซี่ ได้วิ่งมาซัดด้วยขวาจ่อ ๆ ระยะเผาขน สวนตัว สจ๊วต มัวร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 10
ทีมเยือน แบล็คพลู พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางซ้าย ลุค การ์บัตต์ หลุดขึ้นมาครอสบอลเลียดอ้อมแนวรับไปที่หัวกระโหลกให้ โอลิเวอร์ ซาร์คิช วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ลอยโด่ง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเอง อย่างน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 16
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน ชูเอา คันเซโล่ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางกราบขวา ก่อนจะจ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษให้ โคล พัลเมอร์ ที่ยืนหันหลังให้ประตูอยู่ ได้พลิกบอลกลับตัวมาซัดด้วยซ้าย บอลแฉลบแนวรับทีมเยือน หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 21 GOAL!!!
ทีมเยือน แบล็คพลู มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ เชเน่ ลาเวรี่ เลี้ยงจี้มาที่หน้าเขตโทษด้านซ้าย ล็อกหนี รูเบน ดิอาส กระชากเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโดน รูเบน ดิอาส ตามมารวบจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทีมเยือนทันที แล้วเป็น ลุค การ์บัตต์ รับหน้าที่สังหาร ซัดด้วยซ้ายเข้าไป ไม่พลาด
นาที 23
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกขึ้นมาทางขวา ริยาด มาห์เรซ เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ ชูเอา คันเซโล่ เติมมาตะบันด้วยขวาเต็มข้อแบบไม่จับ บอลพุ่งแรงเป็นจรวด เหินข้ามคานออกไป แบบไม่ได้ลุ้นเลย
นาที 26
ชูเอา คันเซโล่ ดันมาถึงกลางสนาม ก่อนจะเปิดบอลยาวข้ามแนวรับไปยังพื้นที่ว่างหน้าเขตโทษให้ เบน ไนท์ ที่สปีดทำลายกับดักล้ำหน้า กำลังจะถึงบอล ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่เป็น สจ๊วต มัวร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่อ่านเกมได้ดี วิ่งออกมาอย่างไกล ตัดบอลคว้าเอาไว้ได้ก่อนเฉียดฉิว
นาที 30
ทีมเยือน แบล็คพูล โต้กลับเร็วขึ้นมาทางขวา ซอนนี่ คาเล่ พาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะลากจี้เข้าไปในเขตโทษ แล้วโยกไปซัดเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก แต่จังหวะสุดท้าย บอลก็ยังไปติดบล็อกของ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ขวางออกหลังไปได้ทัน ได้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 33
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจาะทางขวาอีกครั้ง จังหวะนี้เป็น ริยาด มาห์เรซ พาบอลพลิ้วหลุดเข้าถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะตวัดเข้ากลางไม่โดนใครเลยมาเข้าทาง ซามูเอล เอโดซี่ ในเขตโทษฝั่งซ้าย ได้โยกเข้าใน แล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลไม่หนีมือเท่าไหร่ สจ๊วต มัวร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งปัดทิ้งได้ทัน
นาที 39
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมา แล้วเป็น ชูเอา คันเซโล่ พาบอลมาเอง ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ โคล พับเมอร์ หลุดเดี่ยวทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาได้สวย แต่จังหวะดันตกม้าตาย ซัดด้วยขวา ไต่หลังเท้า ปลิ้นหลุดเสาแรกขวามือ หลุดออกหลังไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 40
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ เบนฌาแม็ง เมนดี้ เติมเกมสูงขึ้นมารับบอลทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย พยายามจะเปิดแต่โดนขวาง ไหลย้อนกลับหลังมาที่มุมกรอบเขตโทษให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้แต่งบอลหนึ่งที แล้วปั่นด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวย หลุดสามเหลี่ยมเสาไกลขวามือ ออกหลังไปแบบได้ลุ้น
นาที 42
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองอีกครั้ง เป็นจังหวะ ชูเอา คันเซโล่ ดันเกมสูง เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงมุมกรอบเขตโทษด้านขวา แทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งสอดไปเอาบอล หลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวได้บอลแล้วล็อกหลอก ซอนนี่ คาเล่ ตัดเข้าใน ก่อนจะจิ้มด้วยขวาจ่อ ๆ แต่สุดแสนที่จะเบา ไหลเข้ามือ สจ๊วต มัวร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน อย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ปูพรม เปิดเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน อยู่แทบจะฝั่งเดียว ส่วนทางด้านทีมเยือน แบล็คพูล ถ้าไม่รวมลูกจุดโทษที่ได้ ก็ยังถือว่า ไม่สามารถทำอันตรายแนวรับเจ้าถิ่นได้เลย สกอร์ตอนนี้ แมนซิตี้ 1 แบล็คพลู 0 !!!
นาที 47 GOAL!!!
เริ่มครึ่งหลังมาได้แปปเดียว เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะ แฟร์นานดินโญ่ หยอดบอลข้ามฟากไปยังหน้าเขตโทษด้านขวาอย่างสวยให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งสอดขึ้นมา แตะบอลทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งแรงและเลียดผ่านมือ ดาเนี่ยล กริมชอว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบโคนเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 54
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ต่อบอลกันไปมาที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ เจ้าเก่า หลุดมาขึ้นมาทางขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนจะครอสบอลพุ่งกระดอนพื้นไปที่หน้าเสาไกลถวายพานให้ อิลคาย กุนโดกัน วิ่งสอดมาทิ้งตัวพุ่งโหม่งจ่อ ๆ แต่ดันโดนไม่ดี บอลผิดเหลี่ยม หลุดกรอบไปแบบไม่น่าให้อภัย
นาที 56
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกใส่อย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะทางขวา จังหวะนี้ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษ ก่อนจะเปิดบอลโค้งมาที่หน้าเสาไกลให้ เบน ไนท์ ได้โฉบมาโหม่งแต่ไม่โดน บอลเลยมาถึง อิลคาย กุนโดกัน ได้พุ่งมาชาร์จจ่อ ๆ ก็ยังช้าไปนิดเดียว
นาที 58 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ริยาด มาห์เรซ เล่นลูกลักไก่ เปิดบอลเร็วเข้าไปยังพื้นที่ว่างกลางประตู แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน วิ่งสอดมาที่จุดนัดพบ แปด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับโล่ง ๆ คนเดียว สวนตัว ดาเนี่ยล กริมชอว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 61
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ ซามูเอล เอโดซี่ หลุดมาในเขตโทษฝั่งขวา ดึงจังหวะรอเพื่อน ก่อนจะไหลย้อนกลับหลังมาที่หน้าหัวกระโหลกตั้งให้ แฟร์นานดินโญ่ ได้วิ่งมาอัดด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ พุ่งแรงไปแฉลบกองหลังทีมเยือน เปลี่ยนทางไปที่กลางประตู ดาเนี่ยล กริมชอว์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังไม่หลง เขยิบกลับมารับได้ทัน
นาที 74 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-1 !!! เป็นจังหวะคล้าย ๆ เดิม เมื่อ ริยาด มาห์เรซ ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวา กองหลังไม่มีใครกล้าเข้าพรวด เจ้าตัวมีเวลาเงยหน้ามอง แล้วบรรจงหยอดบอลคิลเลอร์พาสไปยังพื้นที่ว่างหน้าปากประตูให้ อิลคาย กุนโดกัน ได้วิ่งสอดมาจุดนัดพบ จับบอลลงโล่ง ๆ ก่อนจะแปด้วยขวาจ่อ ๆ ระยะเผาขน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดสนามซ้อมไล่ถลุงทีมเยือน แบล็คพลู ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 !!! ทำผลงานในช่วงอุ่นเครื่องปรีซีซั่นส่งท้ายได้อย่างยอดเยี่ยม โดยนัดต่อไป จะพบกับทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ในศึกฟุตบอล คอมมูนิตี้ ชิลด์ ในวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ก่อนจะเปิดฉาก พรีเมียร์ ลีก ด้วยการพบกับ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์