กุนเด้สังเวยใบแดง!! “ฝรั่งเศส” เปิดบ้านทำได้แค่เจ๊า “บอสเนีย” 1-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ทีมชาติฝรั่งเศส เปิดสนาม สต๊าด เดอ ลา เมโน, ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติบอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 1 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ปอล ป็อกบา กองกลางห้องเครื่องจอมลีลา อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวทำเกม และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน บอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อิวายโล่ เปเตฟ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย เซอัด โคลาซินัค กองหลังตัวสารพัดประโยชน์ มิราเล็ม เปียนิช เพลย์เมกเกอร์ตัวปั้นเกม และ เอดิน เชโก้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 2

เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน บอสเนีย ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกทางกราบขวา มิราเล็ม เปียนิช เปิดบอลโค้งไปยังพื้นที่ว่างหน้าประตู แล้วเป็น เอร์เมดิน เดมิโรวิช เกือบจะได้ชาร์จจ่อ ๆ อยู่แล้ว แต่เป็น ลูก้าส์ ดีญ สไลด์ตัวสกัดไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 3

ถัดมา เป็นเจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ได้ทักทายบ้าง และเกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำเร็ว เป็นจังหวะ ปอล ป็อกบา แทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับคิลเลอร์พาสให้ คาริม เบนเซมา ได้วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้า หลุดเดี่ยวเข้าไปแปด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าติดขาของ อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 13

เกมเปิดแลกกันอย่างสนุก จังหวะนี้ เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส เล่นลูกโด่ง โยนยาวสาดขึ้นมาที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน แล้วเป็น อาเนล อาห์เหม็ดฮอดซิช กองหลังบอสเนีย ที่โหม่งสกัดไม่ดีบอลลอยมาเข้าทาง คาริม เบนเซม่า ได้กดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ที่หน้าหัวกระโหลก บอลพุ่งไปแฉลบบล็อกแนวรับอีกคน ก่อนจะกลิ้งเข้ามือ อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้สบาย

นาที 14

ทีมเยือน บอสเนีย บุกสวนขึ้นมาได้จบอีกครั้ง เป็นจังหวะ มิราเล็ม เปียนิช จ่ายเลียดยัดมาที่หัวกระโหลกให้ เอร์เมดิน เดมิโรวิช ที่ยืนหันหลังให้ประตู ได้พักบอลแล้วไหลเร็วมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เอดิน เชโก้ เขยิบถอยมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ บอลลอยโด่งเหินข้ามคานออกไปไกล

นาที 26

เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มีลุ้นที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ลูก้าส์ ดีญ หลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะจ่ายเลียดยัดเข้าไปในเขตโทษให้ อองตวน กรีซมันส์ ได้เบิ้ลบอลสั้นจังหวะเดียว ไหลต่อให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่วิ่งสอดขึ้นมาตามช่อง ได้ลากจี้ไปซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรก บอลพุ่งแรงไปชนเสาอย่างจัง กระเด้งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 35

ทีมเยือน บอสเนีย ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น มิราเล็ม เปียนิช วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ อ้อมกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวยไปที่เสาไกล ทว่า ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังยืนตำแหน่งได้ดี พุ่งมาคว้าไว้ได้ติดมือ

นาที 36 GOAL!!!

ทีมเยือน บอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะความผิดพลาดของแนวรับฝรั่งเศส ที่จ่ายบอลในแดนตัวเองไม่ดีโดน เอร์เมดิน เดมิโรวิช ดักได้แล้วส่งต่อเร็วมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ เอดิน เชโก้ ได้พักอกแล้วซัดเลียดด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ ฮูโก้ ญอริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 40 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส มาได้ประตูตีเสมอได้ทันควันเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เปิดบอลโค้งมาที่เสาแรก แล้วเป็น เอดิน เชโก้ ที่โหม่งสกัดไปโดนหลังของ อองตวน กรีซมันส์ เปลี่ยนทางกำลังจะเข้าประตูไป แต่เป็น อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน ควักจากเส้นออกมาได้ทัน ทว่า ซานโดร แชเรอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะเดินไปดู แล้วกลับมาให้เป็นประตูของเจ้าถิ่น เพราะบอลได้ข้ามเส้นไปเต็มใบแล้วนั่นเอง

นาที 44

ก่อนหมดครึ่งแรก เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ในเขตโทษฝั่งซ้าย ดึงจังหวะพักบอลแล้วแปะต่อให้ คาริม เบนเซม่า ได้เลี้ยงตัดเข้าใน พยายามจะง้างเท้าซัดแต่โดนสกัดกระดอนมาที่หน้าหัวกระโหลกเข้าทาง อองตวน กรีซมันน์ ได้โยกเข้าซ้าย ก่อนจะปั่นไซด์โป้งเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวยแล้วมุดลง กระดอนถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปชนิดได้ลุ้นทีเดียว

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ที่ครองบอลได้มากกว่า เป็นฝ่ายบุกใส่ทีมเยือน บอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา ได้อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี กลายเป็นทีมเยือน ที่ได้ประตูออกนำไปก่อน ยังดีที่เจ้าถิ่นมาตามตีเสมอได้ทันควัน สกอร์ตอนนี้ เสมอกันอยู่ที่ 1-1 !!!

นาที 51 ใบแดง!!!

เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ที่ต้องงานงอกแบบสุด ๆ เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ ชูลส์ กุนเด้ ไปเข้าบอลช้าเสียบใส่ เซอัด โคลาซินัค อย่างรุนแรนจนต้องเปลี่ยนตัวออก ทีแรก ผู้ตัดสิน ซานโดร แชเรอร์ แจกแค่ใบเหลืองให้กองหลังรายนี้ ก่อนจะได้รับสัญญาณ VAR แล้วเดินไปดู สุดท้ายกลับลงมาเปลี่ยนให้เป็นใบแดง ไล่เจ้าตัวออกจากสนามไปทันที ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า เป็นการเข้าบอลที่อันตรายจริง ๆ

นาที 59

เจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ตั้งสมาธิบุกแล้วบุกขึ้นมาใหม่ จังหวะนี้ อองตวน กรีซมันส์ เปิดบอลเปลี่ยนแกนออกไปทางซ้ายให้ ลูก้าส์ ดีญ ที่ดันสูงขึ้นมา ได้เบิ้ลเร็วเข้าไปในเขตโทษให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ สอดมาชาร์จจ่อ ๆ โล่ง ๆ ที่เสาแรก แต่ถึงบอลช้าไปนิดเดียว สุดท้ายบอลกลิ้งเข้ามือ อิบราฮิม เซฮิช ผู้รักษาประตูทีมเยือน พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 61

เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ คาริม เบนเซม่า ครองบอลดึงจังหวะรอเพื่อนอยู่ทางกราบซ้าย ก่อนจะไหลเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ เลโอ ดูบัวส์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ลองวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งแรงแต่ทิศทางยังใช้ไม่ได้ สุดท้ายติดไซด์ก้อย ลอยหลุดกรอบ ออกหลังไปไกลแบบไม่ได้ลุ้นอะไรเลย

นาที 75

เกมดำเนินมาถึงช่วง 15 นาทีสุดท้าย เป็นทางฝั่งทีมเยือน บอสเนีย ที่ตัวผู้เล่นมากกว่า เป็นฝ่ายครองบอลขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ได้อย่างต่อเนื่อง แต่โอกาสจบเน้น ๆ ในพื้นที่สุดท้าย ก็ยังถูกแนวรับตราไก่ ยันเอาไว้ได้หมด สกอร์ยังอยู่ที่ 1-1 !!!

นาที 77

เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้างเป็นพัก ๆ จังหวะนี้ ลูก้าส์ ดีญ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เจ้าตัวเลือกจ่ายเข้ากลางย้อนหลังมาที่หน้าเขตโทษให้ ปอล ป็อกบา ได้เลี้ยงหาช่อง ก่อนจะสับไกด้วยขวาเต็มเท้านอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปติดบล็อกของแนวรับของทีมเยือน กระดอนหลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 80

ทีมเยือน บอสเนีย ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ มิราเล็ม เปียนิช เป็นคนแย่งบอลมาได้ทางกราบซ้าย ก่อนจะเงยหน้ามองหาเป้าหมาย แล้วโยนบอลยาวขึ้นหน้าเข้าไปในเขตโทษให้ เอดิน เชโก้ ได้พักอกเอาบอลลง พลิกหนีตัวประกบ ตามด้วยยิงเร็วหลุดกรอบออกไปไกล

นาที 90

ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน บอสเนีย มาได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้นประมาณ 30 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลางพอดี แล้วเป็น มิราเล็ม เปียนิช รับอาสา เจ้าตัวตัดสินใจไม่โยนเข้าไปลุ้น แต่ขอเป็นคนลองยิงเอง ก่อนจะวิ่งเข้าไปซัดบอลซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดกรอบไปไกล แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ฝรั่งเศส เปิดบ้านทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน บอสเนีย เฮอร์เซโกวีนา ไปด้วยสกอร์ 1-1 !!! เก็บได้เพียงแค่หนึ่งคะแนน แต่ยังคงรั้งจ่าฝูงของกลุ่มอยู่เหมือนเดิม โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนทีมชาติยูเครน ในวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านบอสเนีย รั้งอันดับที่ 4 รองบ๊วยของกลุ่ม นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับทีมชาติคาซัคสถาน ในวันพุธที่ 8 กันยายน ถัดมาสามวัน