กาย่าซัดสอง !! “สเปน” คืนฟอร์มเก่ง ไล่ถล่มเอาชนะ “จอร์เจีย” สกอร์ 4-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพกระทิงดุ ทีมชาติสเปน เปิดสนาม เอสตาดิโอ นวยโว บีเวโร, บาดาโฮซ ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ จอร์เจีย ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม บี นัดที่ห้า เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นรีเก้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย อายเมริค ลาปอร์กต์ ปราการหลังตัวแกร่ง การ์ลอส โซเลร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ เฟร์ราน ตอร์เรส ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน จอร์เจีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ วิลลี่ ซาญอล มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย วลาดิเมียร์ มามัชชัสวี่ กองกลางห้องเครื่อง อิรัคลี่ อาซารอฟ ปีกตัวจี๊ด และ กิออร์กี้ ซาเรีย กองหน้าตัวเป้าของทีม

นาที 3

เปิดฉากครึ่งแรกมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น สเปน ที่ได้ทักทายก่อนทันที เป็นจังหวะ พาโบล ซาราเบีย ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะเปิดบอลเข้าไปที่กลางประตูให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้โฉบมาโหม่งสะบัดเน้น ๆ ไม่หนีมือเท่าไหร่ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้สบาย

นาที 5

เจ้าถิ่น กระทิงดุ สเปน ได้ครองบอลบุกต่อเนื่องตามสไตล์ จังหวะนี้ การ์ลอส โซเลร์ ยกบอลออกไปทางริมเส้นฝั่งซ้ายให้ โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า แบ็คซ้ายจอมบุก ที่เติมสูง วิ่งสอดขึ้นมา ได้ครอสเข้าไปเขตในโทษให้ อาเบล รุยซ์ ได้โขกบอลย้อย ลอยไปเข้ามือ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อีกครั้ง

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 14 GOAL!!!

เจ้าถิ่น สเปน มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย พาโบล ซาราเบีย เปิดโด่งเข้าไปลุ้นแล้วโดนแนวรับทีมเยือนสกัดเคลียร์ทิ้งออกมาเข้าทาง โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า ได้วิ่งมาซัดด้วยซ้ายที่หน้าเขตโทษ บอลแฉลบขาของ กูราม คาเชีย เปลี่ยนทางเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือ

นาที 19

เจ้าถิ่น สเปน บุกขึ้รมาอีกระลอก จังหวะนี้ การ์ลอส โซเลร์ แทงบอลทะลุช่องให้ โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกตัดเข้าในเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะลองซัดเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรกทันที ทว่าบอลพุ่งไปตรงตัวของ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ รับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย

นาที 25 GOAL!!!

เจ้าถิ่น กระทิงดุ สเปน มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะ มาร์กอส ยอเรนเต้ ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปในเขตโทษให้ การ์ลอส โซเลร์ ได้แปด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้ากรอบ 6 หลา ส่งบอลผ่านมือ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย

นาที 33

เจ้าถิ่น สเปน เกือบได้บวกสกอร์เพิ่ม เป็นจังหวะ มาร์กอส ยอเรนเต้ แทงบอลออกขวาให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้บรรจงครอสบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลซ้ายมือให้ โฆเซ่ หลุยส์ กาย่า สอดมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ เข้าประตูไป ไม่เหลือ แต่ทว่า VAR แจ้งว่า เฟร์ราน ตอร์เรส ล้ำหน้าไปก่อนตั้งแต่แรกแล้ว ผู้ตัดสิน ติอาโก้ มาร์ตินส์ จากโปรตุเกส เป่าริบประตูคืนอย่างน่าเสียดาย

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 38

เจ้าถิ่น สเปน ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือนอยู่ฝั่งเดียว จังหวะนี้ พาโบล ซาราเบีย ขอลองส่องไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเลียดกระดอนพื้น น้ำหนักเบาแถมทิศทางไม่มุมเท่าไหร่ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน เขยิบมารับไว้ได้สบาย

นาที 41 GOAL!!!

เจ้าถิ่น สเปน มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะ มาร์กอส ยอเรนเต้ ได้บอลหลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะตวัดย้อนเข้าไปที่กลางประตูให้ เฟร์ราน ตอร์เรส วิ่งสอดตัดหน้าแนวรับทีมเยือน ได้ซัดด้วยขวาเน้น ๆ ตามน้ำไม่จับ บอลพุ่งไปติดมือ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน แต่ด้วยความแรง สุดท้ายเอาไม่อยู่ กระดอนเสียบหน้าต่างเสาไกลซ้ายมือเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น สเปน ที่เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ ปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน จอร์เจีย อยู่ฝั่งเดียว ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึง 3-0 !!!

นาที 53

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น สเปน ที่ยังครองบอลบุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ได้เตะมุมฝั่งขวา พาโบล ซาราเบีย เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ได้โฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ แต่กดไม่ลง บอลเหินข้ามคานออกไปไกล

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 62

ทีมเยือน จอร์เจีย ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะ อิรัคลี่ อาซารอฟ โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงผ่านแนวรับเจ้าถิ่น หลุดมาถึงหน้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะกดด้วยซ้ายเต็มข้อนอกกรอบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปติดเซฟของ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับกระฉอกออกหลังไป โชคดีที่ไม่เข้ากรอบประตู เสียเป็นเตะมุม

นาที 63

เจ้าถิ่น สเปน มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ พาโบล ซาราเบีย พาบอลสวนกลับเร็วขึ้นมา เจ้าตัวดีดไซด์ก้อย ลอยโด่งเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ปาโบล ฟอร์นาลส์ พยายามจะหาช่องยิงแต่โดนขวาง สุดท้ายเลี้ยงย้อนกลับหลังไหลคืนมาตรงกลางให้ ซาราเบีย เจ้าเก่า ได้ซัดด้วยซ้ายแบบไม่จับ พุ่งสวนตัว จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 67

เจ้าถิ่น สเปน เกือบได้อีกลูก เป็นจังหวะ  พาโบล ซาราเบีย ลากพาบอลสวนขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ อาเบล รุยซ์ ได้วิ่งสอด หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเน้น ๆ ในกรอบ 6 หลา ติดเซฟของ จอร์จี้ โลเรีย ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาปิดมุมอย่างไว บล็อกไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ

นาที 80

เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น สเปน ผ่อนเกมลงอย่างเห็นได้ชัด เน้นครองบอล จ่ายสั้นทำชิ่งกันไปมาที่กลางสนาม ปล่อยให้ทีมเยือน จอร์เจีย ได้เป็นฝ่ายบุกขึ้นมาบ้าง แต่ก็ทำอะไรแนวรับกระทิงดุไม่ได้อยู่ดี สกอร์ยังเท่าเดิมอยู่ที่ 4-0 !!!

นาที 90+4

ช่วงทดเจ็บ เจ้าถิ่น สเปน ได้ลุ้นประตูปิดกล่องอีกครั้ง เป็นจังหวะ พาโบล ซาราเบีย ได้วิ่งสอด หลุดเข้าไปซัดบอลเสียบหน้าต่าง เข้าประตูอย่างงาม แต่น่าเสียดายที่มีสัญญาน VAR จากข้างสนาม ผู้ตัดสินเดินไปเช็ค ก่อนจะริบประตูคืน เพราะ ซาราเบีย ล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้วนิดนึง อดทำประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ไปอย่างน่าเสียดาย

ไฮไลท์ฟุตบอล

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น สเปน ไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน จอร์เจีย ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! แซงขึ้นจ่าฝูงได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนโคโซโว ในวันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านจอร์เจีย อยู่บ๊วยของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับกรีซ ในวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม เดือนหน้านู่นเลย