เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทีมชาติ ไอซ์แลนด์ เปิดสนาม เลาการ์ดัลสโวลลูร์, เรคยาวิก ประเทศไอซ์แลนด์ ต้อนรับการมาเยือนของทัพอินทรีเหล็ก ทีมชาติ เยอรมัน ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม เจ นัดที่หก เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ อาร์นาร์ วิดาร์สสัน มาเล่นในระบบ 4-5-1 นำทีมโดย วิคเตอร์ ปัลส์สัน มิดฟิลด์ห้องเครื่อง โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน ปีกตัวจี๊ด และ อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สัน ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฮันชี่ ดีเทอร์ ฟลิค มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย โยชัว คิมมิช กองกลางสารพัดประโยชน์ ลีรอย ซาเน่ ปีกจอมลากเลื้อย และ ติโม แวร์เนอร์ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 4 GOAL!!!
เริ่มเกมมาแค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งทีมเยือน เยอรมัน ที่ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะการต่อบอลประสานงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม เริ่มที่ นิคลาส ซือเล่ ดันสูงขึ้นมากลางสนาม หยอดบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ โยชัว คิมมิช พักอกเอาบอลลงแล้วป้ายออกไปทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายให้ ลีรอย ซาเน่ ได้ปาดเลียดไปที่เสาไกลถวายพานให้ แซร์ช กนาบรี้ วิ่งปรี่มาแปเน้น ๆ โล่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย ทว่าต้องรอผู้ตัดสินเช็ค VAR อยู่สักครู่ สุดท้ายยืนยันให้เป็นประตูของทีมเยือนเรียบร้อย
นาที 17
เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ธอริร์ เฮลกาสัน ได้บอลหลุดมาทางซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจะครอสเลียดไปที่หน้าเสาแรกให้ ไอซัค เบิร์กมันน์ โยฮันเนสสัน ได้วิ่งสอดมาซัดเร็วจังหวะเดียวยัดมุมแคบทางเสาซ้าย ทว่า มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังเหนียวเหมือนเคย ผวาปัดทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด
นาที 24 GOAL!!!
ทีมเยือน เยอรมัน มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะได้ฟรีคิกบริเวณกราบขวา โยชัว คิมมิช บรรจงหยอดบอลเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ที่ยืนรอโล่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ได้โขกเหน่ง ๆ ย้อนศร ส่งบอลเสียบเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 27
ทีมเยือน เยอรมัน มาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ อิลคาย กุนโดกัน พยายามจะเลี้ยงแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้าไปในเขตโทษแต่โดนขวาง บอลกระฉอกออกมาเข้าทาง เลออน โกเร็ตซ์ก้า ได้แตะบอลหาเหลี่ยม ก่อนจะได้ซัดเลียดเน้น ๆ หน้ากรอบ บอลพุ่งไปถูก ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 37
ทีมเยือน เยอรมัน ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น ลีรอย ซาเน่ รับอาสา วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปนิดเดียว ชนิดได้หวาดเสียว
นาที 43
ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ ธอริร์ เฮลกาสัน ลากบอลหลุดขึ้นมาที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวจ่ายยัดเข้ากลางให้ ไอซัค เบิร์กมันน์ โยฮันเนสสัน พักบอลแล้วกระดกเร็วต่อให้ โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน ได้เกี่ยวบอลลงแล้วจิ้มเร็วด้วยซ้ายที่หน้าเสาไกลขวามือ ทว่าบอลเบาแถมตรงตัวของ มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสารออยู่แล้ว รับไว้ได้สบาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน เยอรมัน ที่ครองบอลได้มากกว่า เป็นฝ่ายปูพรมบุกใส่เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ อยู่แทบจะฝั่งเดียว ได้ประตูออกนำไปก่อนแล้วเบา ๆ 2-0 !!!
นาที 48
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทีมเยือน เยอรมัน ที่เดินหน้าลุยแล้วได้ลุ้นทันที เป็นจังหวะตัดบอลได้ตรงกลางสนาม อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลทะลุช่องให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้กระชากหนีกองหลัง หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลเบา แถมไม่ค่อยหนีมือเท่าไหร่ ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้สบาย
นาที 49
เจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ เกือบจะได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สัน พาบอลขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวเลี้ยงตัดเข้ากลางถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งไปชนเสาไกลซ้ายมืออย่างจัง กระเด้งออกมาเข้าทาง อัลเบิร์ต กุ๊ดมุนด์สัน ได้ตามมาซ้ำง่าย ๆ เข้าประตูไป ทว่าผู้ตัดสินชี้เป็นลูกล้ำหน้าในจังหวะยิงซ้ำเสียก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับเจ้าถิ่น
นาที 55
ทีมเยือน เยอรมัน พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมา 3 ต่อ 1 ติโม แวร์เนอร์ ลากจี้ตัวประกบขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะไหลเข้าไปตรงกลางเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่วิ่งตีคู่ขึ้นมาโล่ง ๆ ได้หลุดเดี่ยวแล้วมีเวลาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ หลุดกรอบขวามือออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ
นาที 56 GOAL!!!
ทีมเยือน เยอรมัน มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะถ่ายบอลไปมา ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น แล้วเป็น เลออน โกเร็ตซ์ก้า เก็บบอลได้ตรงกลาง เจ้าตัวไหลสั้น ๆ ตามช่องให้ ลีรอย ซาเน่ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อยัดมุมแคบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแสกหน้า ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสยเสียบคานบนเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ไม่เหลือซาก
นาที 61
ทีมเยือน เยอรมัน น่าจะได้บวกสกอร์เพิ่มแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ ได้รับบอลแทง หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะปาดเลียดถวายพานมาที่หน้าประตูระยะแค่ 6 หลาให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้ซัดเน้น ๆ โล่ง ๆ คนเดียว ทว่าผิดเหลี่ยม บอลลอยโด่งเหินข้ามออกไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเขกกระโหลก
นาที 64
ทีมเยือน เยอรมัน บุกต่อเนื่องไม่มีผ่อน จังหวะนี้ ได้เตะมุมแล้วโดนสกัดออกมา บอลลอยออกมาที่หน้าเขตโทษ แล้วเป็น อิลคาย กุนโดกัน ที่เก็บได้แล้วหยอดบอลกลับเข้าไปอีกที คราวนี้แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์ออกมาอีกครั้งเข้าทาง เลออน โกเร็ตซ์ก้า ได้วอลเลย์เน้น ๆ ยิงสวนยัดเข้าประตูไปตุงตาข่าย อย่างสวยงาม ทว่าผู้ตัดสินขอเช็ค VAR ก่อนจะไม่ให้ประตูเพราะ วิถีบอลดันมี จามาล มูเซียล่า ที่ยืนล้ำหน้าอยู่ แล้วเอี้ยวตัวหลบบอล ถือว่ามีส่วนร่วม สุดท้ายเลยโดนริบประตูคืนอย่างน่าเสียดาย
นาที 66
ทีมเยือน เยอรมัน มาใหม่อีกระลอก จังหวะนี้ได้ลุ้นสามครั้งติด ๆ เมื่อ จามาล มูเซียล่า แทงบอลทะลุให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะซัดเร็วไปติดเซฟของ ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น กระเด้งไปเข้าทาง ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ปรี่มาโหม่งซ้ำก็ติดเซฟ บอลไม่ไปไหนไกลเข้าทาง แวร์เนอร์ ได้ซัดเลียดหักข้อด้วยซ้าย หลุดเสาขวามือออกหลังไปอีกครั้งหนึ่ง
นาที 72
ทัพอินทรีเหล็ก เกือบได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะสวนกลับเร็วขึ้นมา อิลคาย กุนโดกัน พาบอลขึ้นมาเอง ก่อนจะส่งบอลสั้นฝากต่อไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวพยายามโยกหาเหลี่ยมยิงแต่โดนขวาง สุดท้ายจ่ายคืนมาที่มิดฟิลด์แมนซิตี้ ได้หวดเต็ม ๆ พุ่งไปติดเซฟของ ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 89 GOAL!!!
ก่อนหมดเวลา ทีมเยือน เยอรมัน มาได้ประตูตอกฝาโลงเป็น 4-0 !!! เป็นจังหวะ โยชัว คิมมิช จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ จามาล มูเซียล่า ได้ดีดส้นต่อให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ พลิกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะแปะสั้น ๆ มาตรงกลางประตูถวายพานให้ ติโม แวร์เนอร์ ได้จิ้มบอลสวนตัว ฮันเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ติดเซฟนิดนึง ทว่าบอลยังกลิ้งต่อไปชนโคนเสาขวามือ ไหลเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เยอรมัน ที่บุกมาไล่ถล่มเจ้าถิ่น ไอซ์แลนด์ ไปได้ด้วยสกอร์ 4-0 !!! รั้งจ่าฝูงของกลุ่มต่อไป โดยนัดหน้าจะต้องเปิดบ้านพบกับโรมาเนีย ในวันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านไอซ์แลนด์ อยู่อันดับที่ 5 รองบ๊วยของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับอาร์เมเนีย ในวันเวลาเดียวกัน