เรื่องราวของ ดาบมังกรหยก ฉบับจอใหญ่ครับ ได้ หลี่เหลียนเจี๋ย มารับบทเตียบ่อกี้ ผู้ทีี่ต้องสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กเพราะถูกชาวยุทธบีบคั้นให้เผยที่ซ่อนของราชสีห์ขนทองเจี่ยซุ่น
ครั้นเมื่อโตเป็นหนุ่ม ชะตาก็นำพาเขาให้ต้องผจญภัยกับวิบากกรรม ก่อนที่จะมีโอกาสได้ศึกษาวิชาเพลงยุทธอันเลิศล้ำ และได้เป็นประมุขพรรคจรัส (เม้งก่า) ในเวลาต่อมา
จริงๆ แล้วนี่คือภาคแรกครับ ทีมงานน่ะตั้งใจจะทำออกมาเป็นหนังไตรภาค แต่พอดีว่าภาคแรกนี้ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไร ทำเงินไปเพียง 10 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งนับว่าน้อยหากเทียบกับหนังเรื่องอื่นๆ ของหลี่เหลียนเจี๋ย ไม่ว่าจะ หวงเฟยหง, ฟงไสหยก, ปึงซีเง็ก หรือ ไอ้หนุ่มซินตึ้ง หัวใจผงาดฟ้า ที่ต่างก็ทำเงินไปราวๆ 30 ล้านเหรียญ
สำหรับตัวหนังนั้นว่าตามจริงก็ถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ก็ไม่ได้เด่นเป็นพิเศษ โดยโครงเรื่องแล้วก็คล้ายกับนิยาย แต่หลายอย่างก็แปลงไปทำเอาผู้ชมบางคนก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน อย่างคาแรคเตอร์ของเตียบ่อกี้ที่ดูจะออกแนวเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นและดูกระหายอำนาจอยู่ในที แต่ก็อาจจะเป็นการตีความใหม่น่ะครับ ประมาณว่าให้เตียบ่อกี้ดูเจ้าคิดเจ้าแค้นในภาคแรก ก่อนที่จะให้กลายเป็นคนที่สละละโลกในภาคหลัง แต่ก็น่าเสียดายที่เราจะไม่มีวันได้รู้ผลลัพธ์ เพราะมันไม่มีการทำภาคต่อออกมาแล้ว
หรือตัวจางซานฟงเองก็มาในมาดใหม่ครับ คือนอกจากจะตัวท้วมเป็นพิเศษแล้ว ก็ยังเป็นจางซานฟงสายห้าว ซึ่งจะว่าไปก็เหมาะกับที่ หงจินเป่า มาแสดงอยู่เหมือนกัน แต่หากใครติดภาพความนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวของจางซานฟงเวอร์ชั่นอื่นๆ แล้ว ก็อาจรู้สึกแปลกๆ กับจางซานฟงในมาดนี้ก็ได้ครับ
การเดินเรื่องก็ค่อนข้างเร็วและห้วนตามสไตล์หนังฮ่องกงแนวกำลังภายในหลายๆ เรื่องในยุค 90 ครับ มันเลยไม่มีวาระที่จะทำให้เราอินไปกับเรื่องราว เหมือนเล่าๆๆ แต่ไม่สร้างอารมณ์ร่วมน่ะครับ แต่ก็เป็นปกตินะสำหรับหนังยุคนั้น และหนังก็กำกับโดย หวังจิ้ง ครับ ซึ่งผลที่ได้ก็ออกมากลางๆ ไม่ถึงกับแย่แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำ
ส่วนสาวๆ ในเรื่องก็มี ชิวซู่เจิน ในบทเสียวเจียว หญิงรับใช้ที่ซื่อสัตย์ข้างกายเตียบ่อกี้ ซึ่งก็ถือว่าแสดงได้น่ารักดีครับ, หลีจือ มารับบทจิวจี้เยียก ฉบับนี้ก็ออกแนวร้ายกาจแบบชัดเจน (ซึ่งในเวลาต่อมาเธอก็ไปแสดงเป็นเตี๋ยเมี่ยงในดาบมังกรหยก ปี 2000 ของ TVB ด้วย) ส่วน จางเหมี่ยน มาแสดงใน 2 บทครับ บทแรกคือฮึงซู่ซู่ แม่ของเตียบ่อกี้ และอีกบทคือเตี๋ยเมี่ยง องค์หญิงมาดร้าย (แต่น่ารัก) ที่จะขโมยหัวใจเตียบ่อกี้ในภายหลัง
สิ่งหนึ่งที่ผมแอบคาดหวังคือคิวบู๊ครับ ก็อุตส่าห์ได้ หลี่เหลียนเจี่ย มาแสดงนำ และได้ หงจินเป่า มาร่วมแสดงพร้อมทั้งช่วยในเรื่องคิวบู๊ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่ากลางๆ ครับ บางฉากก็ทำได้ดีอย่างตอนที่เตียบ่อกี้ตีกับหลวงจีนวัดเส้าหลินที่เม้งก่า กับช่วงไคลแม็กซ์ตอนท้าย แต่คิวบู๊ก็ไม่ได้แน่นหรือเด่นจนสะดุดตา ว่าง่ายๆ คือยังมีคิวบู๊จากเรื่องอื่นๆ ที่ หลี่เหลียนเจี๋ย เคยแสดงไว้ที่ออกมาเวิร์กกว่าเรื่องนี้ครับ
ดูไปก็พอเข้าใจครับว่าทำไมหนังถึงไม่ประสบความสำเร็จนัก ในแง่เนื้อเรื่องก็ยังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร การเดินเรื่องก็ออกแนวเร่งๆ จนไม่ก่อให้เกิดอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราว คิวบู๊ก็ยังไม่เจ๋งถึงขนาด แต่ทีมดารานั้นถือว่าเวิร์กอยู่ครับ เพียงแต่องค์ประกอบอื่นๆ มันไม่ได้เวิร์กตามไปด้วยเท่านั้นเอง
สองดาวครับ
(6/10)