อาร์แซน เวนเกอร์ ตำนานกุนซือ เปิดใจยอมรับว่าเจ็บปวดกับการโดนวิจารณ์แบบไม่ยุติธรรมในช่วงปีท้าย ๆระหว่างคุมอาร์เซน่อลก่อนอำลาสโมสรไป
โค้ชชาวน้ำหอม ตัดสินใจโบกมือลา “ปืนใหญ่” เมื่อปี 2018 หลังรับตำแหน่งยาวนานกว่า 22 ปี พร้อมพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 7 ครั้ง และเข้าชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 หน
อย่างไรก็ดี จากการที่ไม่สามารถพาทีมลุ้นแชมป์ลีกแบบเต็มตัวได้ในช่วงหลัง ทำให้แฟนๆ เรียกร้องให้ “เวนเกอร์ ออกไป”
ทว่าหลังจากโค้ชชาวน้ำหอม สละเก้าอี้ไป อาร์เซน่อล ก็มีผลงานตกลงอย่างต่อเนื่อง และจบอันดับ 8 เมื่อปีก่อน เลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปี
เวนเกอร์ ยอมรับผ่านหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองว่า การย้ายออกจากสโมสรนั้นทั้ง “โดดเดี่ยว” และ “เจ็บปวด” แต่ก็ยืนยันว่าการตัดสินใจทุกอย่างของเขาเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดของสโมสร
เวนเกอร์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าผู้คนค่อนข้างเกรี้ยวกราดในช่วงปีท้ายๆนะ”
“เมื่อปี 2016 เราจบอันดับ 2 บนตารางลีก เลสเตอร์ได้แชมป์แต่ทีมอื่นก็ตามหลังเลสเตอร์กันหมด เลสเตอร์แพ้แค่ 3 นัดเท่านั้น”
“ในปี 2017 เราหลุดออกจากท็อปโฟร์เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี แต่เราก็ทำได้ถึง 75 คะแนนเลยนะ”
“ผู้คนไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ เราชนะเชลซี ที่เพิ่งได้แชมป์ลีก และมีโอกาสในการทำดับเบิ้ลแชมป์ในเอฟเอ คัพ”
“แล้วหลังจากนั้น ในปี 2018 เราแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมชิงดำลีก คัพ เราแพ้แอตเลติโก มาดริด ในเกมรอบตัดเชือก ยูโรป้า ลีก แต่แพ้แค่ลูกเดียวเท่านั้น”
“แต่เอาล่ะ ผมใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตเพื่อพัฒนาสิ่งที่ผมคิดว่ามีความสำคัญ คือสนามแข่งขัน และตอบแทนมันกลับไป ทำให้สโมสรอยู่ในสถานะที่มีความสามารถเผชิญหน้ากับอนาคต และมีศักยภาพในการทำผลงานให้ดี”
“แต่ท้ายที่สุดแล้ว เหนือสิ่งอื่นใด เราก็ชนะ และสิ่งที่ผมภาคภูมิใจมากที่สุดคือการพาสโมสรไปอยู่ในสถานะแบบนั้น”