เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค (ยูเครน) เปิดสนาม โอลิมปิสกี้ เนชั่นแนล สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์, กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน ต้อนรับการมาเยือนของทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด (สเปน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ดี นัดที่ 3 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย อลัน พาทริค กองกลางห้องเครื่อง มานอร์ โซโลมอน ปีกตัวจี๊ดริมเส้น และ เฟอร์นานโด ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย โทนี่ โครส กองกลางห้องเครื่องตัวคุมจังหวะ ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม
นาที 3
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ คาริม เบนเซม่า โยกหาเหลี่ยม ก่อนจะขอลองส่องไกลด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ ทว่าบอลยังไม่เชื่องเท้าเท่าไหร่ ลอยหลุดออกหลังไปพอสมควร
นาที 4
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้บุกต่อทันที จังหวะนี้ โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมันที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาไม่นาน ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนที่เจ้าตัวจะตั้งป้อมตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ แล้วเป็น อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น พุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 7
ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ คาริม เบนเซม่า ลากจี้มาถึงหน้าเขตโทษ เจ้าตัวไหลต่อให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้โชว์ความพลิ้ว กระชากลุยผ่านคู่แข่ง ทะลุหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้จบด้วยขวาเน้น ๆ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรก ตรงตัวของ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาอยู่แล้ว รับสบาย
นาที 15
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โทนี่ โครส เปิดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วโดนแนวรับเจ้าถิ่น โหม่งสกัดลอยออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ ได้ยิงสวนด้วยขวาเต็ม ๆ ยัดกลับเข้าไป ทว่ายังไม่เข้าเป้า บอลพุ่งแรงหลุดกรอบออกไปไกล
นาที 30
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ลูกัส บาซเกซ ดันสูงลากขึ้นมาทากราบขวา เจ้าตัวไหลสั้น ๆ ต่อมาให้ โทนี่ โครส ได้พลิกหนีตัวประกบหลุดมาถึงหน้าเขตโทษด้านขวาได้สวย ก่อนจะได้โอกาสวางเท้าตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ บอลพุ่งแรงเป็นจรวดแถมติดส่าย ทว่าดันไปตรงตัวของ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
นาที 33
ทีมเยือน เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ โรดริโก้ โกเอส ได้บอลหลุดมาทางริมกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวจ่ายย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ คาริม เบนเซม่า ได้ลากหาช่องตัดเข้าใน ก่อนที่สุดท้ายจะได้สับไกด้วยซ้ายจนได้ แต่ทว่าบอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปอีก
นาที 37 GOAL!!!
ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ลูกัส บาซเกซ ดันสูงขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงหยอดบอลไปที่หัวกระโหลก กะจะให้กับ คาริม เบนเซม่า แต่เป็น เซอร์เกย์ คริฟต์ซอฟ กองหลังกัปตันทีม โฉบตัดหน้ามาทิ้งตัวสกัดบอลผิดเหลี่ยม โดนหน้าแข้งเปลี่ยนทางลอยข้ามตัว อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูตัวเองไป ซุกก้นตาข่าย แบบงง ๆ
นาที 39
ทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกหนักอย่างต่อเนื่องไม่มีผ่อนเกม จังหวะนี้ ดาวิด อลาบา ดันสูงขึ้นมา จ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ คาริม เบนเซมา ลากจี้แล้วโยกเข้าขวา ก่อนจะซัดเร็วเน้น ๆ ทันที ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่มุมเท่าไหร่ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 42
ช่วงท้ายครึ่งแรก ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบจะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม กองหลังเจ้าถิ่นเคลียร์ไม่ขาด บอลลอยไปเข้าทางปืนของ คาริม เบนเซม่า ได้ตั้งป้อมวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ สวนกลับเข้าไป ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ก็ยังไปติดเซฟของ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทางฝั่งทีมเยือน เรอัล มาดริด ที่ครองบอลบุกได้อย่างต่อเนื่อง พับสนามใส่เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค อยู่แทบจะฝั่งเดียว ทีมจากสเปนยิงประตูออกนำทีมจากยูเครนไปก่อนแล้ว 1-0 !!!
นาที 51 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ คาริม เบนเซม่า ลากจี้ขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวโยกหนีตัวประกบตัดเข้าในแล้วไหลเร็วมาที่หน้าหัวกระโหลกให้ ลูก้า โมดริช เบิ้ลแทงบอลทะลุช่องจังหวะเดียวเข้าไปที่กลางประตูให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ทำลายกับดักล้ำหน้า วิ่งสอดตัดหลังแนวรับ ได้หลุดเดี่ยวไปแต่งหนึ่งที ก่อนจะจิ้มด้วยขวาสวนตัว อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 55
เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ แฟร์นานโด ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะหลอก เอแดร์ มิลิเตา ก่อนจะโยกไปซัดเร็วด้วยซ้ายยัดมุมแคบ ส่งบอลพุ่งไปตรงตัวของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาเอาไว้อยู่แล้ว เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 56 GOAL!!!
ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่รับบอลมาจาก คาริม เบนเซม่า ที่หน้ากรอบด้านซ้าย เจ้าตัวสับขาหลอกแล้วโยกหลบ โดโด้ ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษ ตามมาด้วยล็อคหลบ เซอร์เกย์ คริฟต์ซอฟ มาที่หน้าเสาซ้ายมือ ก่อนจะซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ มุมแคบ ส่งบอลพุ่งสวนตัว อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เบียดเสาแรกเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 64
เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค พยายามจะยิงประตูตีไข่แตกให้ได้ จังหวะนี้ เปดรินโญ่ พลิกบอลหลบคู่แข่งมาได้สวยถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองวางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวด แต่ทิศทางยังไม่ดีพอที่จะเข้าประตู ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 65 GOAL!!!
ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะการประสานงานกันอย่างสุดสวย เริ่มที่ คาริม เบนเซม่า ลากจี้ขึ้นมาเองถึงมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวจ่ายจัดหลังแนวรับให้ วินิซิอุซ จูเนียร์ ได้สอดไปเอาบอลที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดจังหวะเดียวเข้ามาที่กลางประตูถวายพานให้ โรดริโก้ โกเอส วิ่งสอดมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งสวนตัวแสกหน้าของ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 67
เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค เกือบจะได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ เปดรินโญ่ ยกบอลข้ามแนวรับคิลเลอร์พาสให้ แฟร์นานโด สปีดหนีกองหลัง หลุดเดี่ยวไปเหยียดเท้ายิงติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน บอลยังไม่พ้นอันตราย กระเด้งไปเข้าทาง มาร์ลอน ซานโตส แต่งเข้าซ้ายแล้วซัดเน้น ๆ ทว่าเป็นนายทวารทีมชาติเบลเยี่ยม เจ้าเก่า ป้องกันเอาไว้ได้อยู่ดี
นาที 70
ทีมเยือน เรอัล มาดริด เกือบได้ลูกที่ห้า เป็นจังหวะ โรดริโก้ โกเอส แทงบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ คาริม เบนเซมา ได้ดึงจังหวะหลอกตัวประกบ ก่อนจะสบโอกาสแปเน้น ๆ ด้วยขวาไปติดเซฟของ อนาโตลี ทรูบิน ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยืนคุมเสาแรกอยู่ ผวาทิ้งตัวปัดเอาไว้ได้ทัน
นาที 90+1 GOAL!!!
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือน เรอัล มาดริด มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 5-0 !!! จากจังหวะ มาร์โก อเซนซิโอ ได้บอลที่มุมกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวเงยหน้ามองแล้วบรรจงหยอดบอลด้วยซ้ายเข้าไปที่หน้าประตูถวายพานให้ คาริม เบนเซม่า ได้แล่บมาจับบอลลงอย่างนิ่มนวล ก่อนจะเอี้ยวตัวบรรจงแปด้วยขวาโล่ง ๆ เสียบเสาขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 90+3
ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค ขอลุ้นประตูตีไข่แตกเฮือกสุดท้าย จังหวะนี้ นิโคโล มูดริค ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้บอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดเร็วด้วยซ้ายเน้น ๆ ตามน้ำ ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกติดเซฟของ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปักหลักปิดมุมอยู่ เซฟเอาไว้ได้ทัน อย่างไม่ยากเย็น
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เรอัล มาดริด บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น ชัคตาร์ โดเนตส์ค ไปได้ด้วยสกอร์ 5-0 !!! รั้งอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน ส่วนทางด้านชัคตาร์ โดเนตส์ค อยู่อันดับที่ 4 รั้งบ๊วยของตาราง นัดต่อไปทั้งคู่จะสลับมาพบกันอีกที่เบอร์นาบิว โดยจะเตะกันในคืนวันพุธที่ 3 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้