เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพตราไก่ ทีมชาติ ฝรั่งเศส เปิดสนาม ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์, กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ คาซัคสถาน ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ดี เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ดีดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ มาเล่นในระบบ 3-4-1-2 นำทีมโดย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์ตัวรับจอมขยัน อองตวน กรีซมันน์ กองหน้าตัวทำเกม และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน คาซัคสถาน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ทัลกัต บายซูฟินอฟ มาเล่นในระบบ 5-3-2 นำทีมโดย อิสลามเบ็ค คูอัต กองกลางห้องเครื่อง ซามัต ชาริเบตอฟ มิดฟิลด์ตัวทำเกม และ อาบัต อิมเบตอฟ กองหน้าตัวเป้าของทีม
นาที 6 GOAL!!!
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งทัพตราไก่ ฝรั่งเศส ที่ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ คาริม เบนเซม่า แทงทะลุช่องตัดหลังแนวรับให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ วิ่งสอดหลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดมาที่หน้าเสาแรกให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งมากระโดดแปด้วยขวาเน้น ๆ เล่นทาง ส่งบอลกระดอนเบียดเสาซ้ายมือเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม หมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน
นาที 12 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้ประตูหนีห่างอย่างรวดเร็วเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้จากลูกเตะมุมของคาซัคสถานแล้วโต้กลับเร็ว ฌูลส์ กุนเด้ แทงยาวขึ้นหน้าให้ คิงสลี่ย์ โกม็อง หลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวกระชากหลบ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่วิ่งออกมาพยายามตัดบอลนอกเขตโทษ ก่อนจะปาดเลียดเข้าไปที่กลางประตูถวายพานให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งมาแปด้วยขวาโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 19
ทีมเยือน คาซัคสถาน ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้างเหมือนกัน จังหวะนี้ ออรัลคาน โอเมอตาเยฟ จ่ายบอลมาที่หน้าเขตโทษให้ เออคิน ทาปารอฟ ได้ลองตั้งป้อมปั่นไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน้ำหนักใช้ได้ แต่ทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 28
ทีมเยือน คาซัคสถาน ได้โอกาสยิงอีกครั้ง จังหวะนี้ มารัต บิสตรอฟ เติมสูงขึ้นเก็บตกได้ เจ้าตัวตั้งป้อมครอสจากขวาเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ กองฝรั่งเศสเตะสกัดเคลียร์ออกมาไม่ขาดเข้าทาง นูราลี่ อาลิป พักบอลลง ก่อนจะใส่ด้วยซ้ายเต็ม ๆ นอกกรอบ ระยะไกลกว่า 30 หลา ทว่าบอลยังไม่เข้าเป้า เหินข้ามคานออกไปไกล
นาที 32 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศษ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ คิงสลี่ย์ โกม็อง ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา เจ้าตัวมีพื้นที่มีเวลาตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตู แล้วเป็น คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งโฉบระหว่างกลางกองหลัง ได้เทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลหนีมือ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย
นาที 43
ทีมเยือน คาซัคสถาน ได้ตอบโต้ขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ อิสลามเบ็ค คูอัต บรรจงหยอดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ออรัลคาน โอเมอตาเยฟ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ทว่าบอลดันไปตรงตัวของ อูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเข้ามือเอาไว้ได้สบาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน คาซัคสถาน อยู่แทบจะฝั่งเดียว แถมวันนี้จังหวะจบเฉียบคมสุด ๆ ได้ประตูออกนำไปแล้วถึงสามลูก สกอร์ตอนนี้ ฝรั่งเศส 3 คาซัคสถาน 0 !!!
นาที 51
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ กระชากเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า พุ่งเข้าชาร์จเน้น ๆ แต่ดันไปกระแทกกับ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งชกออกมา ก่อนจะมีอาการบาดเจ็บล้มลงไปนอนด้วยกันทั้งคู่ ทำให้แพทย์สนามต้องรีบลงมาดูอาการ
นาที 55 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้ประตูเพิ่มอีกเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ ดันสูงขึ้นมาแทงบอลตัดหลังแนวรับให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ ได้วิ่งสอดหลุดไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียดจังหวะเดียวมาที่หน้าเสาแรกให้ คาริม เบนเซม่า วิ่งมาจิ้มด้วยขวานิ่ม ๆ สวนตัว สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 57
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จังหวะนี้ อาเดรียง ราบิโอต์ ลากพาบอลขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะขอลองอัดด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาบินไปปัดทิ้งเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 59 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้บวกสกอร์เพิ่มเป็น 5-0 !!! เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า ดีดบอลตามช่องเร็วให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวไม่ยิงเอง ตัดสินใจไหลถวายคืนมาที่กลางประตูให้ดาวยิงเรอัล มาดริด เจ้าเก่า วิ่งสอดตามขึ้นมาได้ซัดโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 65
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พาบอลขึ้นมาเองทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เข้าตัวโยกเปิดเข้าใน ส่งบอลลอยลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น มัคซัต ทายเคนอฟ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม เปลี่ยนทางไปชนเสาขวามือเต็ม ๆ กระเด้งเกือบเข้าประตู ยังดีที่ สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ควักออกมาได้ทันเฉียดฉิว ซึ่งภาพช้าจากโกลไลน์ฟ้องให้เห็นว่า บอลยังไม่ข้ามเส้นไปเต็มใบ
นาที 72
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง จังหวะนี้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะแทงต่อให้ มุสซ่า ดิยาบี้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา สอดไปซัดในเขตโทษติดบล็อกจังหวะแรก บอลกระเด้งกลับมาเข้าทางเจ้าตัวได้ซ้ำอีกที คราวนี้ไม่พลาด เข้าประตูไป ทว่าไลน์แมนยกธงว่าเป็นล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะแรกซะก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับทัพตราไก่
นาที 75
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้ประตูครึ่งโหลเป็น 6-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา อองตวน กรีซมันน์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อาเดรียง ราบิโอต์ ได้ขึ้นโขกสะบัดคนเดียวเน้น ๆ ที่กรอบหกหลา ส่งบอลพุ่งแรงสวนตัวแสกหน้า สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 81 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้ประตูเพิ่มเป็น 7-0 !!! จากจังหวะ วลาดิสลาฟ วาซิลเยฟ ไปเข้าบอลช้าเสียบใส่ อองตวน กรีซมันน์ ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสินขอเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของทัพตราไก่ แล้วเป็น อองตวน กรีซมันน์ รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 87 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ฝรั่งเศส มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 8-0 !!! จากจังหวะ มุสซ่า ดิยาบี้ ลากบอลจี้สวนกลับเร็วขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลตามช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาถวายพานให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้หลุดเดี่ยวไปล่อเป้า แปเล่นทางด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัว สตาส โปคาติลอฟ ผู้รักษาประตูทีมเยือน กลิ้งเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ฝรั่งเศส เปิดบ้านไล่ถล่มเอาชนะทีมเยือน คาซัคสถาน ไปได้ด้วยสกอร์ 8-0 !!! การันตีการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่กาตาร์ ในฐานะแชมป์กลุ่มเป็นที่เรียบร้อย โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนฟินแลนด์เป็นนัดสุดท้าย ในวันคืนวันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านคาซัคสถาน รั้งบ๊วยของตาราง ไม่มีโปรแกรมเตะ ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อย