เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพสิงห์ผยอง แอสตัน วิลล่า เปิดสนาม วิลล่า ปาร์ค, เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพนกนางนวล ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 12 เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือคนใหม่ป้ายแดงอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอห์น แม็คกินน์ กองกลางห้องเครื่อง เอมิเลียโน่ บวนเดีย เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แกรม พอตเตอร์ มาเล่นในระบบ 3-5-1-1 นำทีมโดย ปาสกาล กรอสส์ กองกลางห้องเครื่อง อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม และ เลอันโดร ทรอสซาร์ ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 12
เริ่มเกมมา ทั้งสองทีมยังคงครองบอลกันได้อย่างสูสี แล้วเป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่มีโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะ แมตต์ ทาร์เกตต์ ดันสูงตามขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย ก่อนจะครอสโด่งจังหวะเดียวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลอยลึกไปที่เสาไกล แล้วเป็น แมตตี้ แคช สอดเติมมาโหม่งเน้น ๆ กดลงพื้นโดน เจสัน สตีล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ ทิ้งตัวเซฟเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด
นาที 29
เกมดำเนินมาเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งสองทีมเล่นกันได้ค่อนข้างสูสีและน่าอึดอัด โอกาสจบสกอร์เพิ่งมีให้แฟน ๆ ได้เห็นแค่หนเดียว ส่วนจังหวะนี้เป็นทางเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่ได้ลุ้นเล็ก ๆ อีกครั้ง เมื่อ แดนนี่ อิงส์ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ทว่าเจ้าตัวดันจับลั่น สุดท้ายบอลกระฉอกกระดอนไปเข้าทางของ เจสัน สตีล ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย พลาดโอกาสครั้งใหญ่ไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 31
ทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ มาร์ค คูคูเรลล่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น ไทโรน มิงส์ กองหลังฝั่งวิลล่า สกัดบอลไม่ขาดไปเข้าทางปืนของ เลอันโดร ทรอสซาร์ ได้ส้มหล่น วางเท้ากดด้วยซ้ายเน้น ๆ ที่หน้าเสาแรก โล่ง ๆ ระยะไม่กี่หลา ทว่าเป็น เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยังยืนตำแหน่งได้ดี แถมออกมาปิดมุมได้ไว เซฟเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดาย
นาที 40
เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า เป็นฝ่ายที่ครองบอลบุกใส่ได้มากกว่าแต่ยังหาโอกาสจะจบสกอร์แบบจะแจ้งได้ไม่มากนัก ส่วนทางทีมเยือน ไบรท์ตัน คอยหาจังหวะการสวนกลับ แต่ก็ทำได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันไม่ต่างกัน ทำให้ตอนนี้ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 45+1
ก่อนจบครึ่งแรก ทีมเยือน ไบรท์ตัน เกือบได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ อีกครั้ง จากจังหวะที่ ยาคุบ โมเดอร์ กระชากหนี แมตตี้ แคช หลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายได้สวย ก่อนจะเปิดพุ่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เลอันโดร ทรอสซาร์ เกี่ยวไม่ติด บอลทะลักเลยไปที่หน้าเสาไกลเข้าทางปืนของ ทาริก แลมพ์ตีย์ ได้ปรี่มาซัดด้วยขวาเน้น ๆ ทว่าต้องชม เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น อ่านเกมขาด พุ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟ ช่วยทีมเอาไว้ได้ทันอีกครั้งหนึ่ง
หมดเวลาครึ่งแรก รูปเกมของทั้งคู่ค่อนข้างสูสี เป็นทางฝั่งทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ที่ครองบอลได้มากกว่า แถมมีลุ้นทำประตูเยอะกว่า ส่วนทางด้านเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ถือว่ายังไม่เพลี่ยงพล้ำ สกอร์ตอนนี้ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 47
เปิดฉากเกมครึ่งหลังมาได้แค่แปปเดียว เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ แล้วเป็น จอห์น แม็คกินน์ บรรจงหยอดโด่งเข้าไปในเขตโทษให้ ไทโรน มิงส์ สอดมาเทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ บอลทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น เจสัน สตีล ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซูเปอร์เซฟ พุ่งปัดไปทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด
นาที 65
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษ จากจังหวะที่ แมตตี้ แคช ชิงเหลี่ยมเอาชนะคู่แข่ง ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะโดน ซอลลี่ มาร์ช กระแทกจากด้านหลังล้มลงไป ทว่าผู้ตัดสิน แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ไม่ได้ว่าอะไร ให้เล่นกันต่อไป แถมไม่มีสัญญาณจาก VAR ข้างสนามด้วย
นาที 66
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ที่เกมดูเป็นรองทีมเยือนอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะการครองบอล เดือดร้อนถึง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กุนซือหนุ่มไฟแรง ต้องปรับทัพด้วยการถอด แดนนี่ อิงส์ ที่ไม่ค่อยมีบทบาท ออกไปพัก ก่อนจะจัดการส่ง เลออน ไบลี่ย์ ปีกตัวจี๊ด ลงสนามมลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งแทน
นาที 80
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมยังคงเล่นกันได้อย่างสูสี จังหวะส่วนใหญ่จะชิงเหลี่ยมกันอยู่ที่ตรงกลางสนาม โอกาสยิงประตูแบบจะแจ้งของทั้งสองฝั่ง แทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น สกอร์ยังคงเสมอกันที่ 0-0 !!!
นาที 84 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพสิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว แอชลีย์ ยัง พาบอลลุยขึ้นมาถึงกลางสนามแล้วแทงต่อให้ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ลากจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวโยกหนีกองหลังตัดเข้าไปที่กลางประตูดื้อ ๆ ได้สวย ก่อนจะวาวเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ เจสัน สตีล ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 88
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า ดูเหมือนกำลังใจจะมาเต็มหลังขึ้นนำ บุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ แมตต์ ทาร์เกตต์ ได้บอลหลุดมาทางริมเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเลียดไปที่เสาแรกให้ เลออน ไบลี่ย์ แต่บอลย้อนหลังไปหน่อย เจ้าตัวพยายามจะไขว้ยิง สุดท้ายบอลหลุดกรอบออกหลังไป
นาที 89 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ อันวาร์ เอล กาซี่ ม้วนตัวพลิกหนีตัวประกบหลุดขึ้นมาถึงมุมกรอบเขตโทษด้านขวาได้สวย ก่อนจะพยายามเปิดโค้งไปให้เพื่อนที่เสาไกล แต่เป็น อดัม เวบสเตอร์ ทิ้งตัวสไลด์ สกัดบอลไม่ดีไปที่หน้าแรกขงามือเข้าทางปืนของ ไทโรน มิงส์ ได้แปโล่ง ๆ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 90+3
เจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า เกือบได้บวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะ แมตต์ ทาร์เกตต์ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เลออน ไบลี่ย์ ได้สอดมาวอลเลย์เน้น ๆ ในเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงทว่าทิศทางไม่หนีมือเท่าไหร่ เจสัน สตีล ผู้รักษาประตูทีมเยือน ผวาไปเซฟออกมาเข้าทาง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ซ้ำอีกทีก็หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! หยุดผลงานแพ้รวด 5 นัดติด ขยับขึ้นไปรั้งอันดับที่ 15 ของตารางคะแนน ถือว่าเป็นการประเดิมคุมทีมนัดแรกของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อย่างสวยหรู โดยนัดต่อไปสิงห์ผยอง จะต้องออกไปเยือนคริสตัล พาเลซ ในคืนวันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านไบรท์ตัน รั้งอันดับที่ 8 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับลีดส์ ยูไนเต็ด ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา