หลังจากนักพรตหนุ่มจากทิเบต (หยวนเปียว) และ คุจากุ (Hiroshi Abe) ร่วมมือกันอุดประตูนรกสำเร็จไปแล้ว แต่กระนั้นพระผู้ใหญ่ก็ยังเป็นห่วงว่าในอนาคตอาจมีปีศาจร้ายมาใช้พลังของอาซิวหลอ (เยี่ยหวิ่นอี้) ในทางชั่วอีก เลยได้ข้อสรุปว่าต้องสะกดให้อาซิวหลอหลับใหลไปจนตลอดกาล เธอจึงมีเวลาในโลกมนุษย์อีกเพียงหนึ่งสัปดาห์ และหนึ่งสัปดาห์สุดท้ายนี้เธอจึงอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่สุด โดยการท่องเที่ยวท่องโลก สนุกให้เต็มที่
ขณะเดียวกันพวกปีศาจก็ยังไม่วายครับ คืนชีพมาพร้อมหาโอกาสใช้พลังของอาซิวหลอในทางไม่สร้างสรรค์ต่อมวลมนุษย์อีก งานนี้พวกพระเอกเลยต้องยับยั้งอีกรอบตามฟอร์มครับ
ด้วยความที่หนังภาคนี้เป็นงานสร้างของฮ่องกงเดี่ยวๆ ไม่เอี่ยวกับญี่ปุ่นอีก (นอกจากเชิญดาราญี่ปุ่นมาร่วมแสดง) สไตล์หนังเลยเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดครับ จากเดิมที่เป็นหนังแอ็กชันแฟนตาซีที่ผสมความสยองลงไป ก็กลายเป็นหนังตลกเบาๆ ที่ไม่น่ากลัวอะไรอีกแล้ว งานด้าน Effect ก็แทบไม่มีอะไรน่าพูดถึง กลายเป็นหนังแฟนตาซีฮ่องกงธรรมดาไปเลยครับ
ขนาด พี่หยวนเปียว ก็ยังมีบทบาทในเรื่องแค่ไม่ถึงครึ่งเรื่อง (จนบางเว็บเขียนว่าพี่แกเล่นเรื่องนี้รับเชิญมากกว่า ไม่ได้เป็นตัวหลักหรอก) ยังดีที่ช่วงท้ายตอนไคลแม็กซ์หนังยังทำออกมาพอลุ้นบ้าง (แม้ Effect จะคนละเรื่องกับภาคแรกมากๆ ก็เถอะ)
เลยกลายเป็นหนังแฟนตาซีอีกเรื่องที่ไม่น่าจดจำเท่าที่ควร ข้อดีที่พอจะน่าพูดถึงก็คือ เยี่ยหวิ่นอี้ ฉายเสน่ห์ในเรื่องนี้มากกว่าคราวก่อน และได้ดาราสาวอย่าง หลี่ลี่เจินมาร่วมแสดงซึ่งก็เพิ่มจังหวะน่ารักให้หนังได้กำลังดี
ในขณะที่ตัวหนังนั้น ภาคแรกสนุกกว่าครับ
เกือบๆ สองดาวครับ
(5.5/10)