โชต้าซัดเบิ้ล!! “ลิเวอร์พูล” บุกมาเอาชนะ “อาร์เซน่อล” ไปได้ถึงถิ่น 2-0 !!! เข้าชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล เปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง (นัดแรกที่แอนฟิลด์เสมอกันที่ 0-0) เมื่อค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย อัลแบร์ แซมบี้ โลก็องก้า มิดฟิลด์ห้องเครื่อง บูคาโย่ ซาก้า ปีกตัวจี๊ดทีมชาติอังกฤษ และ อเลซ็องด์ร ลากาแซ็ตต์ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่อง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ กองหน้าตัวเชื่อมเกม และ ดีโอโก้ โชต้า ดาวยิงตัวจบสกอร์ของทีม

นาที 5

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไว จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหัวกระโหลก เยื้อง ๆ ไปทางขวา แล้วเป็น อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ไปชนคานอย่างจัง บอลกระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดายสุด ๆ

นาที 13

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้ทักทายบ้าง แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไวเหมือนกัน จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บรรจงเปิดบอลโด่ง ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ ฟาบินโญ่ ได้โขกย้อนกลับไปที่เสาแรก แล้วเป็น โฌแอล มาติป ขยับโฉบมาซัดเหน่ง ๆ เปลี่ยนทางระยะเผาขน ส่งบอลเข้าประตูไป ไม่เหลือ ทว่าผู้ตัดสิน มาร์ติน แอตกินสัน เป่าให้แนวรับหงส์แดงล้ำหน้าไปซะก่อน เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ

นาที 19 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะขึ้นเกมเร็วอย่างสวยเริ่มที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ไขว้ตรงกลางสนามส่งให้กับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แทงออกมาทางกราบซ้ายต่อให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้พลิ้วหลบ ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ตัดเข้าไปในเขตโทษ หลุดทะลุมาถึงที่กลางประตู ก่อนจะก้มหน้าซัดเลียดหักข้อด้วยขวาเล่นทางเน้น ๆ ผ่านบล็อก ส่งบอลกลิ้งหนีมือของ อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ย้อนเสียบเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 32

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วโต้กลับเร็ว กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ พาบอลขึ้นมาทางซ้าย เจ้าตัวจ่ายเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษให้ มาร์ติน โอเดการ์ด ไหลเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาต่อให้กับ บูคาโย่ ซาก้า ดึงจังหวะหาช่องซัดเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของแนวรับหงส์แดงเต็ม ๆ กระเด้งออกมาไม่ได้ลุ้นอะไรมาก

นาที 40

เข้าสู่ช่วงท้ายครึ่งแรก เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ที่ครองบอลได้มากกว่าตามสไตล์ ทว่ายังไม่สามารถหาช่องเจาะผ่านแนวรับทีมเยือน ลิเวอร์พูล เข้าจบสกอร์แบบเน้น ๆ ได้เลย โอกาสยิงสวย ๆ ในพื้นที่อันตราย แทบไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็นจากทั้งสองทีม

นาที 45+2

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้บุกขึ้นมาลุ้นทิ้งทวน จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมกรอบฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บรรจงเปิดบอลโด่งเข้าไปในเขตโทษแล้วโดนสกัด บอลยังเลยมาเข้าทาง เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค แปะย้อนหลังมาที่หน้าเขตโทษสั้น ๆ ตั้งให้ ฟาบินโญ่ วิ่งมาง้างเท้าสับไกเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของทัพปืนโตอย่างจัง กระเด้งออกมาต้องตั้งกันใหม่

หมดเวลาครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเล่นกันได้อย่างสูสี ผลัดกันรุกผลัดกันรับกันแบบค่อนข้างรัดกุม เกมถือว่ายังไม่เปิดแลกกันมากเท่าไหร่ เจ้าถิ่น ทัพปืนใหญ่ ครองบอลได้มากกว่าตามคาด ทว่าความเฉียบคมต้องยกให้ทางฝั่งทีมเยือน ทัพหงส์แดง โต้กลับมายิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วหนึ่งลูก สกอร์ตอนนี้ อาร์เซน่อล 0 ลิเวอร์พูล 1 !!!

นาที 49

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ที่ได้บุกใส่คู่แข่งทันที จังหวะนี้ อัลแบร์ แซมบี้ โลก็องก้า บรรจงหยอดบอลโด่งข้ามแนวรับ ทิ้งยาวเข้าไปในเขตโทษให้ อเล็กซองดร์ ลากาแซตต์ ได้ทำลายกับดักล้ำหน้าสปีดฉีกหนี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดเข้าไปเกี่ยวบอลลงได้สวย ก่อนจะรีบยิงไวไปหน่อย ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 51

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่างเหมือนกัน จากจังหวะ บอลสาดทิ้งขึ้นหน้ามาที่ ดีโอโก้ โชต้า พาบอลฉีกออกมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะโชว์พลิ้วลากหนี เบน ไวท์ เลี้ยงตัดเข้าไปในเขตโทษแล้วจ่ายมาที่กลางประตูให้ เคด กอร์ดอน ได้จบด้วยการวิ่งซัดเต็ม ๆ ส่งบอลพุ่งแรงลอยโด่ง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปแบบน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 59

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูหนีห่างแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น อิบราฮิม่า โกนาเต้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา เทคตัวขึ้นเบียดโหม่ง ส่งบอลย้อนศรไปชนเสาแรก ก่อนจะกระเด้งมาเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้ซ้ำเน้น ๆ ติดเซฟของ อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาปัดเอาไว้ได้ทัน ทว่าไลน์แมนยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้า ถ้าเข้าก็ต้องมาลุ้นเช็ค VAR กันอีกที

นาที 69

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เติมสูงตามสไตล์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะทางสะดวกบรรจงเปิดบอลโด่งเข้าไปลุ้นที่กลางประตูโดนสกัดออกมาหา ทาคูมิ มินามิโนะ พักอีกหนึ่งที ตามมาด้วยการซัดเน้น ๆ ทว่าแนวรับเจ้าถิ่นกระโดดมาบล็อกเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 72

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นบ้าง จังหวะนี้ มาร์ติน โอเดการ์ด วางบอลออกซ้าย กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ได้ติดเครื่องลากจี้เข้าใส่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กินพื้นที่ทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะโยกไปเปิดผิดเหลี่ยมแต่กลายเป็นดี บอลพุ่งกำลังเสียบเสาแรก ทว่าเป็น ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังไม่เหม่อ ผวาปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน

นาที 77 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงวางบอลยาวไปที่บริเวณหัวกระโหลกให้ ดิโอโก้ โชต้า วิ่งสอดฉีกหนี เบน ไวท์ พักอกแต่งบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะตามไปกระดกบอลข้ามตัวของ อารอน แรมส์เดล ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย ไม่เหลือซาก ทีแรกมีธงล้ำหน้ายกขึ้นมา ผู้ตัดสินขอเช็ค VAR สุดท้ายให้เป็นสกอร์

นาที 81 

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล เกือบได้ประตูตีไข่แตกทันควัน จากจังหวะ ต่อบอลกันไปมาทางกราบขวา แล้วเป็น บูคาโย่ ซาก้า ไขว้ส่งต่อให้กับ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ จ่ายบอลยัดเข้าไปในเขตโทษให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จับหนึ่งทีแล้วซัดเร็ว โดนใต้บอลมากไปหน่อย ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 90 ใบแดง!!!

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ต้องมาพบกับสถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นไปอีก เมื่อต้องมาเหลือผู้เล่นเพียงแค่สิบคน จากจังหวะ โธมัส ปาร์เตย์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ที่เพิ่งโดนใบเหลืองแรกไปได้ไม่นาน ก่อนจะเสียเหลี่ยมเข้าบอลช้าใส่ ฟาบินโญ่ ร่วงลงไปนอนกอง ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาควักใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดง ไล่ตะเพิดเจ้าตัวออกจากสนามไป

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาไล่ทุบเอาชนะเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 !!! ตีตั๋วเข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศฟุตบอล คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ โดยจะพบกับ เชลซี ในคืนวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ณ สนามเวมบลี่ย์ สเตเดี้ยม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

สนับสนุนบทความโดย ufabet