ดูตามนัด จัดให้ครบครับ – เขาทำออกมาแล้วก็ตามดูกันต่อสักหน่อย และหลังจากดูเสร็จก็บอกได้ว่าภาคนี้โอเคขึ้นกว่าภาคแรกครับ
ภาคนี้เตียบ่อกี้ (หลินฟง) ประมุขเม้งก่าออกโรงช่วยชาวยุทธที่ถูกเตี๋ยเมี่ยง (เหวินหย่งซาน-Janice Man) จับไปไว้ที่ต้าตูครับ ต่อจากนั้นเรื่องจะเป็นอย่างไรก็ลองติดตามกันได้ ถ้าใครเคยอ่านเคยดูมาแล้วก็คงพอเดาได้น่ะนะครับว่าเรื่องจะไปยังไงต่อ แต่ก็บอกก่อนว่าเรื่องราวมีการดัดแปลงไปบ้าง อย่างไรแล้วก็เตรียมปรับใจรอรับกันสักนิดนะครับ
ถือว่าโอเคขึ้นครับ การเดินเรื่อง การเล่าเรื่องดูลื่นขึ้น ส่วนหนึ่งก็อาจเพราะเหตุการณ์ครึ่งหลังของเรื่องนั้นมันเข้มข้นอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องช่วยชาวยุทธที่ต้าตู, เหตุการณ์ที่เกาะตอนบ่อกี้ไปหาเจี่ยซุ่น (สวีจิ่นเจียง) หรืองานวิวาห์ที่มีเหตุพลิกผัน แต่ละเหตุการณ์ก็จะมีภาพกีฬามันๆ ต่างกันไปครับ
ที่ทำใจล่วงหน้าไว้อย่างหนึ่งก็คือคิวบู๊ครับ กะอยู่แล้วว่ามันต้องบู๊ CG ตี Effect มากกว่าจะเป็นบู๊ประมือวาดลวดลาย ซึ่งก็แอบเสียดายอยู่นิดๆ ครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะหนังจีนระยะหลังก็จะประมาณนี้แหละ และหากประเมินกันจากหนังจีนที่บู๊แบบ CG ด้วยกันแล้ว ภาคนี้ก็ถือว่าโอเคครับ พอเพลินบ้างอะไรบ้างสำหรับฉากบู๊
อาจเพราะเรื่องราวเข้มข้นขึ้น และเหล่าตัวละครได้รับการปูพื้นมาแล้วจนคนดูเริ่มคุ้นเคย ทำให้การแสดงต่อในภาคนี้ของพวกเขาดูน่าพอใจขึ้น
3 สาวอย่างเตี๋ยเมี่ยง, จิวจี้เยี๊ยก (ชิวอี้หนง-Sabrina Qiu) และเสี่ยวเจียว (อวิ๋นเชียนเชียน-Yun Qianqian) แต่ละคนล้วนมีโมเมนต์ของตัวเองครับ ซึ่งผมก็รู้สึกบวกกับพวกเธอมากขึ้นนะ ซีนอารมณ์ต่างๆ นับว่าดีทีเดียว
โดยเฉพาะเตี๋ยเมี่ยงนี่ ด้วยบทและอะไรหลายๆ อย่างทำให้เธอดูน่ารักและเด่นขึ้นพอสมควร ผมชอบแววตาเธอตอนที่โดนจี้เยี๊ยกเอาเรื่องในงานวิวาห์น่ะครับ สีหน้าเธอออกอาการกลัวจริงๆ ในขณะที่จี้เยี๊ยกจะถูกผลักบทไปทางร้ายมากกว่าเดิม แต่ก็ดูเหมาะกับการที่เรื่องราวต้องกระชับพื้นที่เล่าให้จบในภาคนี้อยู่เหมือนกัน
มีประโยคหนึ่งที่โดนใจอยู่ลึกๆ ครับ ตอนที่เตี๋ยเมี่ยงพูดกับบ่อกี้ว่า “ท่านทำผู้หญิงผิดหวังหลายคนแล้ว” รู้สึกประโยคนี้โดนใจใช้ได้ และหลายๆ อย่างที่บ่อกี้ทำ (หรือไม่ทำ) ก็คู่ควรที่จะโดนประโยคนี้กระแทกเข้าให้อยู่
โดยรวมแล้วถือว่าหนังน่าพอใจขึ้นกว่าภาคแรกครับ แต่อย่าเอาไปเทียบกับฉบับหนังจีนชุดนะครับ มันคนละแบบกันอย่างแรง นี่คือเทียบกับภาคแรกเท่านั้น แต่ถ้ามองหนังแบบเทียบกับหนังจีนอีกหลายๆ เรื่อง ก็คงต้องบอกว่าหนังถือว่าดูได้เรื่อยๆ แต่ไม่ถึงกับเด่นเป็นพิเศษแต่อย่างใด
พอเรื่องราวเล่าถึงบทสรุปผมก็รู้สึกบวกกับหนังครับ ใจตอนนั้นกำลังคิดเลยว่า “เออ หนังใช้ได้กว่าที่คิดนะ” หลายอย่างดัดแปลงไปแต่ก็ยังโอเค จบแบบนี้ก็ไม่เลว – สมองกำลังมองบวกกับหนังอยู่เลยครับ
แต่แล้วยังไงรู้ไหมครับ ปรากฏว่าเงยหน้าอีกที เครดิตขึ้น… คือหนังจบไปแล้ว
อารมณ์เหมือนรถเบรคหัวทิ่มเลยครับ ทิ่มจริงๆ นะ คือไม่นึกว่ามันจะจบแบบดื้อๆ ไม่แลนดิ้ง ไม่สรุปความอะไรเลย จบคือจบเลย อันนี้ก็แอบอึ้งเหมือนกัน จะต่อเรื่องสักนิด มีฉากสรุปความสักหน่อยน่าจะดีไม่น้อย นี่จบแบบค้างคาทางอารมณ์เหลือเกิน
รู้สึกยังกับคนทำพอทำไปสักพักแล้วเกิดเบื่อ เลยเลิกกอง แล้วก็บอกว่า “เลิกๆๆๆๆ กลับๆๆๆ” ข้าวของกองไว้ แล้วต่างคนต่างแยกย้าย – สรุปคือพี่ตั้งใจทำใช่ไหมครับ เพราะผมน่ะตั้งใจดูนะเนี่ย – เหมือนกินข้าวกำลังจะอิ่ม แต่พี่ชักโต๊ะออกเฉย อึ้งเลยครับ 5555
ก็ตามนั้นครับ ใครโอเคกับภาคแรกก็ตามมาดูภาคต่อได้ ใครเป็นแฟนดาบมังกรหยกอยากลองลิ้มก็ได้เช่นกัน ขอเพียงไม่คาดหวังครับ
สองดาวครับ
(6/10)