นักฆ่าเทวดาแขนเดียว (2011) Wu Xia

Untitled07810

สิ่งแรกที่ควรรู้เกี่ยวกับ นักฆ่าเทวดาแขนเดียว ก็คือ แม้หน้าหนังจะดูเป็นหนังแอ็กชัน แต่เอาเข้าจริงหนังบู๊กันไม่เยอะครับ มีฉากต่อยตีต่อสู้จริงๆ เพียง 3 ช่วงเท่านั้น นอกนั้นจะออกแนวหนังชีวิตผสมด้วยการสืบสวนเสียมากกว่า

หลิวจิงซี (เจิ้นจื่อตัน, Donnie Yen) คือช่างทำกระดาษที่ใช้ชีวิตแบบเรียบๆ อยู่กับภรรยา (ถังเหว่ย, Tang Wei) และลูกๆ 2 คน ทีนี้อยู่มาวันหนึ่งเขาไปอยู่ในเหตุการณ์ปล้นร้านชำครับ ผลก็คือเจ้าโจรที่มาปล้น 2 คนตายสนิท

จิงซีให้การว่าโจร 2 คนนั้นตายโดยอุบัติเหตุ เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากสู้แบบงูๆ ปลาๆ แต่ซูไป๋จิ่ว (Takeshi Kaneshiro) นักชันสูตรศพสังเกตพบความผิดปกติหลายอย่าง และคิดว่าจิงซีน่าจะเป็นคนมีวรยุทธ แต่พยายามปิดบังฝีมือเอาไว้ ไป๋จิ่วเลยพยายามสืบจนจนทำให้รู้อดีตของจิงซี และในไม่ช้าอดีตของจิงซีก็ตามตัวเขาจนเจอเช่นกัน

ฉากบู๊ในหนังนั้นแม้จะมีแค่ 3 ช่วง แต่ก็ทำออกมาได้มันส์ไม่เลวครับ โดย Yen เป็นคนออกแบบและกำกับคิวบู๊ด้วย แต่ก็ต้องบอกไว้ก่อนครับว่าหนังมีบู๊เท่าที่จำเป็น ส่วนใหญ่ของเรื่องราวจะเป็นการใช้ชีวิตของจิงซี และการตามสืบตัวตนที่แท้จริงของจิงซี ซึ่งเนื้อเรื่องส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้น่าติดตามพอประมาณ เพียงแต่มันไม่ได้เร่งเร้าอะไรนักครับ ดังนั้นใครไม่สันทัดในการดูหนังที่เดินเรื่องแบบเรื่อยๆ ช้าๆ ก็อาจรู้สึกไม่ถูกเส้นหรือเบื่อเอาได้

Untitled07811

ดาราเล่นกันได้ดีครับ Yen ก็ดูเหมาะกับบทยอดฝีมือผู้มีอดีตที่พยายามทำตัวเจี๋ยมเจี้ยมเข้าไว้ ส่วน Kaneshiro ก็ดูเหมาะกับบทคนฉลาดที่ช่างสังเกต แล้วในหนังยังมีหวังหยู่ (Jimmy Wang Yu) ดารานักบู๊ในตำนานมาร่วมแสดงด้วยครับ ฉากที่เขาสู้กับ Yen นั้นถือเป็นไฮไลท์ที่น่าจดจำเหมือนกัน

งานด้านภาพถือว่าดีเลยครับ ผู้กำกับภาพ Yiu-Fai Lai (จาก 2 คน 2 คม และ คู่เดือด เฉือนคม) ทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว ตอนช็อตมุมกว้างก็จับบรรยากาศสวยๆ ของชนบท ป่าเขา และท้องทุ่งมาเข้ากล้องได้อย่างพอเหมาะ ส่วนช็อตมุมแคบที่จับภาพเวลาตัวละครคุยกันในซีนอารมณ์ก็เพิ่มความอึดอัดเสริมสถานการณ์ให้กับบทสนทนาได้ดี จนพอเข้าใจว่าทำไมหนังถึงคว้ารางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยมมาจาก Asian Film Awards

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบในหนัง คือมุมคิดที่ต่างมุมของจิงซีและไป๋จิ่วครับ ในประเด็นว่า “คนที่ทำผิด จะกลับตัวกลับใจได้หรือไม่?” สำหรับจิงซีแล้ว เขามองว่าคนเราควรได้รับโอกาสที่สอง โอกาสที่จะได้สำนึกเปลี่ยนแปลงตนเองหลังทำสิ่งที่ผิดลงไป ในขณะที่ไป๋จิ่วแล้ว เขาไม่เชื่อว่าคนจะกลับตัวได้ เนื่องจากเขาเคยเจอประสบการณ์เข้ากับตัว จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดมาแล้ว

โลกนี้มีคนหลายแบบครับ คนที่ทำผิดแล้วกลับตัวก็มี แต่ที่กลับตัวไม่ได้ก็มาก ขึ้นอยู่กับตัวตนและประสบการณ์ของแต่ละคน

แต่สิ่งหนึ่งที่หนังทำให้เราเห็นก็คือ คนที่ทำผิดไปนั้น แม้จะแก้ไขอดีตที่ทำผิดไปแล้วไม่ได้ แต่หากคนๆ นั้นมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากพอ และมีความพยายามมากพอแล้วล่ะก็ เขาก็จะสามารถเปลี่ยนทิศของชีวิตตนให้ไปบนเส้นทางใหม่ได้ – มันไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่ขณะเดียวกันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน

ถือเป็นหนังดราม่าแอ็กชันย้อนยุคสไตล์เข้มๆ ที่ทำออกมาได้ดีครับ Peter Ho-Sun Chan กำกับออกมาได้ไม่เลว แต่ใจลึกๆ ก็อยากให้หนังเพิ่มความกระชับกับความเร้าใจอีกสักนิด เพราะบางช่วงบางตอนของหนังก็ต้องใช้ความอดทนในการดูเหมือนกัน เพราะมันจะช้าอยู่บ้างน่ะนะครับ แต่ถ้าว่ากันโดยรวมแล้วหนังก็ถือว่ามีดีน่าดูอยู่พอตัว

สองดาวครึ่งครับ

Star22

(7/10)