หยิบเอาหนังที่เพิ่งเข้าใหม่ในทรูไอดีสุดสัปดาห์นี้มาเล่าให้อ่านกันสักหน่อย เพราะนี่คือหนังรักครอบครัวที่ได้ยินว่ายอดวิวเป็นกอบเป็นกำในฝั่งอเมริกาทีเดียว นี่คือ “Father of the Bride” หนังที่รีเมคมาจากหนังคลาสสิกในยุค 50s ที่มาพร้อมกับพล็อตเรื่องที่สูตรสำเร็จมาแบบแพ็กเกจ พร้อมกับใส่กลิ่นอายชีวิตของผู้อพยพในอเมริกาเข้ามาสอดแทรกเอาไว้เบา ๆ กลายเป็นสไตล์แฟมิลี่ชวนป่วนอะไรทำนองนั้น
Father of the Bride เป็นเรื่องราวของ บิลลี่ สถาปนิกรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จกับชีวิตที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้อพยพ ย้ายมาปักหลักตั้งถิ่นฐานที่อเมริกาตั้งแต่ยังไม่มีอะไรเป็นของตัวเอง บัดนี้ลูก ๆ ของพวกเขาเติบใหญ่กันหมดแล้ว แต่เขากำลังเผชิญหน้ากับปัญหาชีวิตคู่ที่ อิงกริด ภรรยาของเขา ต้องการจะขอหย่า แต่เรื่องของพวกเขาต้องหยุดชะงัก เมื่อพบว่า โซเฟีย ลูกสาวคนโตกลับมาเยี่ยมบ้าน พร้อมกับแนะนำคู่หมั้นหนุ่มให้ได้รู้จัก และเธอต้องการจะจัดงานแต่งกับชายในฝันคนนี้ ทำให้บิลลี่รู้สึกเซอร์ไพรส์และตกใจไปในเวลาเดียวกัน
หนังเรื่องนี้เป็นการหยิบเอาหนังสุดคลาสสิกชื่อเดียวกัน ในปี 1950 กับ 1991 และนิยายต้นฉบับของ “เอ็ดเวิร์ด สตรีตเตอร์” มาปัดฝุ่นสร้างใหม่อีกครั้ง แต่ปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่าง ๆ ไปเล็กน้อย ส่วนหนึ่งก็คือปรับให้ฉากหลังเกิดขึ้นกับครอบครัวชาวคิวบา-อเมริกัน แถบชายฝั่งรัฐฟลอริด้า ที่นับว่าเป็นคอนเซ็ปต์การสร้างหนังที่เป็นเทรนด์นิยมในยุคนี้ของฮอลลิวูด ที่มักจะใส่ความละตินและเรื่องราวของผู้อพยพในอเมริกาขึ้นมาเล่า และเป็นการสะท้อนสังคมในปัจจุบันได้ในอีกทางหนึ่งด้วย
แต่กระนั้น Father of the Bride ก็ยังค่อนข้างดำเนินเรื่องราวไปด้วยพล็อตที่เชย…แสนเชย เหมือนกับหนังเมื่อ 20-30 ปีก่อนได้ พล็อตสไตล์พ่อเจ้าสาวหัวแข็ง-ดื้อรั้น ที่พยายามจะขัดขวางให้ลูกสาวไม่ได้แต่งงานตามปรารถนาอะไรทำนองนั้น แน่นอนว่าผู้ชมแทบจะไม่ต้องติดอะไรเยอะกับการดูหนังเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนังที่ดูง่ายและย่อยง่าย มาพร้อมกับตัวละครต่าง ๆ มากมายที่สอดแทรกความน่ารำคาญคละเคล้าให้มาด้วยเป็นแพ็คเกจตามสูตรสำเร็จ
โดยผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือรักปนสายใยระหว่างครอบครัวแบบเดิม ๆ ที่หาความแปลกใหม่ไม่ได้เท่านั้น มันคือสูตรสำเร็จที่ถูกใส่เข้าในทุกองค์ประกอบอยู่ ซึ่งมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียปะปนกันไป แต่อย่างน้อย ๆ ผู้ชมก็เอ็นจอยไปกับความจำเจไปได้อย่างอรรถรสดีเหมือนกัน โดยที่รู้ดีว่าเดี๋ยวพล็อตตรงนี้จะมา เดี๋ยวพล็อตตรงนั้นจะเป็นแบบนั้น ก็เป็นหนังที่ดูได้เพลินง่ายดีเหมือนกันนะ
และองค์ประกอบหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกยกระดับขึ้นได้ก็น่าจะเป็นทีมแคสติ้งที่ขนทัพนักแสดงละตินมาคับคั่ง “แอนดี้ กราเซีย” ที่มารับบทนี้ที่ก็คือว่าซ้ำซากสำหรับเขาอยู่ไม่น้อย ใส่ความน่ารำคาญในคาแรกเตอร์ก็พอประมาณ แต่การแสดงที่ไหลลื่นระดับมืออาชีพของเขาก็ช่วยพยุงหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้น่าพอใจ สมทบด้วย “กลอเรีย เอสฟาน”, “เอเดรียน อาร์โจนา”, “อิซาเบลา เมอร์เซส” และ “ดิเอโก โบเนต้า” ก็ถือว่าเป็นแคสติ้งที่ประคับประคองหนังเรื่องนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง
เอาเป็นว่าถึงแม้ Father of the Bride จะเต็มไปด้วยความซ้ำซากจำเจ แต่กระนั้นหนังก็ยังสามารถใส่ความอบอุ่นฉบับหนังครอบครัวเข้ามาปิดท้ายอย่างลงตัวอยู่ไม่น้อย ถึงบทสรุปจะค่อนข้างรวบรัดและเชยสะบัดมากก็ตาม ในท้ายที่สุดผู้ชมก็รู้สึกคล้อยตามและอินไปกับเส้นเรื่องความเป็นครอบครัวเดียวกันได้อย่างเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ก็นับว่าเป็นหนังรักครอบครัวสูตรสำเร็จเดิม ๆ ที่ดูได้ย่อยง่าย เป็นหนังที่เอาไว้ดูกับคนที่บ้านก็ประทับใจอยู่ไม่น้อย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Father of the Bride
- ประเภท: ตลก / ครอบครัว
- ผู้กำกับ: แกรี่ อลาซรากี้
- นำแสดงโดย: แอนดี้ กราเซีย, กลอเรีย เอสฟาน, เอเดรียน อาร์โจนา
- ความยาว: 117 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 7 กรกฎาคม 2022 (ที่ TrueID)
Movie.TrueID METRIC: Father of the Bride
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)