ตำรวจนักสืบเจ้าระเบียบเข้าไปตรวจสอบการตายปริศนาของชายคนหนึ่งบนภูเขา สืบไปสืบมา ตำรวจหนุ่มเกิดไปหลงรักเมียสาวของผู้ตาย ในขณะที่หลักฐานหลาย ๆ อย่างเริ่มชี้ว่าเธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของสามี
Decision to Leave เป็นหนังใหม่ของผู้กำกับ พัคชานอุค หนึ่งในคนทำหนังที่โด่งดังที่สุดของเกาหลี และเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ช่วยยกสถานะให้หนังเกาหลีเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกมากว่า 20 ปีจากหนังดังที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง Oldboy หนังล้างแค้นบีบหัวใจ และล่าสุด The Handmaiden หนังพีเรียดชิงรักและหักหลังหลายตลบ หนังใหม่ล่าสุด Decision to Leave เรื่องนี้เปิดตัวที่เทศกาลเมืองคานส์ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และเข้าฉายในโรงที่ไทยแล้วสัปดาห์นี้
พัคชานอุค เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสร้างแบรนด์หนังเกาหลีให้เป็นที่จดจำ ความสนใจของเขาคาบเกี่ยวระหว่างหนังตลาดลุ้นระทึก กับความพยายามสร้างหนังศิลปะที่ไม่ซ้ำซาก พล็อทของหนังมักจะซับซ้อน พลิกไปมา คิดว่าจะจบแล้วแต่ดันมีต่อ การพูดถึงประเด็นเซ็กซ์ ความรุนแรง ฆาตกรรม การหักหลัง เหล่านี้เป็นจุดขายที่ไม่ต้องอธิบายมากกับคนดูทั้งโลก แต่ขณะเดียวกันเขาก็พยายามยกระดับให้ตระกูลหนังเขย่าขวัญด้วยลีลา ชั้นเชิง และการหยิบยืมองค์ประกอบหนังฝรั่งทั้งเก่าและใหม่มาผสม ทำให้หนังของเขามักได้ทั้งเงินทั้งรางวัล อย่างเช่น Decision to Leave นี่ก็ได้รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลคานส์ และยังทำเงินได้มากเมื่อออกฉายที่เกาหลี
ถ้าจะแปะป้าย Decision to Leave คือหนัง film noir สืบสวนสอบสวนแต่ฉาบด้วยเสน่ห์ลึกลับและโรแมนติก ตำรวจหนุ่มที่สืบคดีคนเสียชีวิตชื่อ แฮจุน (พัคแฮอิล) ส่วนแม่เหล็กใหญ่ของหนังคือตัวภรรยา โซเร แสดงโดยดาราจีน ถังเหว่ย (คนไทยยังจำได้จาก Lust, Caution ทั้งที่จริง ๆ เธอเล่นหนังมากกว่านั้น)
ตามท้องเรื่อง โซเรเป็นคนจีนอพยพที่ย้ายมาอยู่เกาหลี สามีที่เสียชีวิตมีอายุแก่กว่าเธอมาก ถึงแม้สภาพแวดล้อมจะดูเหมือนสามีของเธอตายด้วยการฆ่าตัวตาย แต่แฮจุนและคู่หูนักสืบ เริ่มสงสัยว่าโซเรอาจจะมีส่วนรู้เห็น การทำตัวลึกลับของเธอ บางครั้งท้าทายตำรวจด้วยท่าทีเย่อหยิ่ง แต่บางครั้งกลับกลายเป็นหญิงสาวผู้น่าสงสารที่กลายเป็นแม่หม้าย ทำให้ตัวละครโซเรมีเสน่ห์ และคาดเดาไม่ได้ ปัญหายิ่งซับซ้อนเมื่อแฮจุน เกิดใกล้ชิดสนิทสนมและหลงรักโซเร ตีรวนอารมณ์ความรู้สึกและกระทบการสืบสวนของเขา
เล่าแค่นี้ถือว่าไม่มากเกินไป เพราะหนังมีอะไรมากกว่านี้อีกเยอะ ความเก่งของผู้กำกับพัคชานอุค คือการผสมโทนของหนังหลายแบบเข้าด้วยกันอย่างคล่องแคล่ว ซีนหนึ่งเป็นหนังตำรวจขึงขัง อีกซีนเป็นหนังโรแมนติก ในขณะที่ความลับและปริศนาค่อย ๆ ถูกเผยออกมา ไม่แปลกที่คนดูจะนึกถึงหนังของอัลเฟรด ฮิทช์คอก ผู้กำกับหนังเขย่าขวัญคลาสสิกที่ยังคงเป็นไอดอลให้นักทำหนัง (และนักวิจารณ์) ได้หยิบยืมชื่อและอิทธิพลมาอ้างถึงอยู่ตลอด ทั้งเรื่องหญิงสาวกับอดีตอันคลุมเครือ การเทียบเคียงความระทึกขวัญของการฆ่ากับการตกหลุมรัก แถมพ่วงไปอีกว่าในเรื่องล่าสุดนี้ หนังดันค่อย ๆ กลายร่างเป็นหนังรักรันทดแบบฮอลลีวูดยุคโบราณไปโน่นอีกต่อ
สำหรับผู้เขียน หนังของพัคชานอุค ดูสนุกทุกเรื่อง ถึงแม้ความพยายามสับขาหลอก ตีฟองให้เรื่องซับซ้อนและหักมุม บางครั้งอาจจะเกินความพอดีไปบ้าง แต่ Decision to Leave ดูกลมกล่อมและชวนมอง อาจจะด้วยเพราะเสน่ห์ของดาราทั้งคู่ โดยเฉพาะถังเหว่ยในบทโซเร เช่นเดียวกับหนังนักสืบดี ๆ เรื่องอื่น ๆ การ “สืบสวน” ในที่นี้ไม่ใช่เพียงสืบคดีหรือค้นหาความจริงของเหตุการณ์ แต่เป็นการ “สืบสวน” เข้าไปภายในจิตใจเพื่อหาแรงกระตุ้นของพฤติกรรมของตัวละคร ทำไมโซเรถึงย้ายมาเกาหลี ทำไมเธอถึงแต่งงาน ทำไมสามีเธอจึง (ดูเหมือนฆ่าตัวตาย) และทำไมนักสืบของเราจึงหลงรักแม่หม้ายสาวลึกลับคนนี้ คำถามบางคำถามไม่มีคำตอบ แต่การถามมันทำให้หนังมีความลึกซึ้ง และทำให้ช่วงสุดท้ายของ Decision to Leave เป็นการขมวดจบที่น่าจดจำอย่างยิ่ง
Decision to Leave เป็นหนังที่ประเทศเกาหลีอาจจะแอบหวังลึก ๆ ให้ไปได้ไกลเหมือนที่ Drive My Car ของญี่ปุ่นทำได้เมื่อปีที่แล้ว คือไปได้ถึงเวทีออสการ์และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากฝั่งอเมริกา ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่าอาจจะยาก แต่ที่สุดแล้วก็น่าดีที่หนังเข้าโรงในไทยให้ชมกันแล้ว