เนย์มาร์ ดาวยิงสายแวนซ์ของปารีส แซงต์-แชร์กแมง เดินทางถึงศาลบาร์เซโลน่า เพื่อต่อสู้คดีทุจริตและทำผิดกฎ ตั้งแต่สมัยย้ายจากซานโต๊ส มาอยู่เมืองกระทิง เมื่อปี 2013
ศูนย์หน้าวัย 30 ปี เดินทางมาที่ศาลจังหวัดบาร์เซโลน่า เมื่อเช้าวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเขาเป็นหนึ่งใน 9 จำเลย ที่ต้องขึ้นศาล รวมถึงครอบครัว และบริษัท N&N ของเขาที่ดูแลเรื่องการย้ายสังกัด โดยทั้งหมดเผชิญหน้ากับคดีคอร์รัปชั่นทางธุรกิจ
หากโดนพิพากษาให้มีความผิด เนย์มาร์ ก็สุ่มเสี่ยงจะโดนจำคุกนาน 2 ปี พร้อมปรับเงินอีกกว่า 10 ล้านยูโร
การสืบสวนเริ่มตั้งแต่ตั้งแต่ปี 2015 ภายหลังจาก DIS บริษัทในแดนกาแฟ ที่ถือลิขสิทธิ์ทางกีฬา 40 เปอร์เซ็นต์ของเนย์มาร์ สมัยอยู่บ้านเกิดฟ้องร้อง
“บุญโยก” ระบุว่าการย้ายทีมครั้งนั้นมีมูลค่า 57.1 ล้านยูโร แต่อัยการเชื่อว่าการย้ายทีมต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 83 ล้านยูโร
สโมสรบอกว่าพวกเขาจ่ายเงิน 40 ล้านยูโรให้ N&N และอีก 17.1 ล้านยูโรให้กับซานโต๊ส ซึ่งแบ่งเงินให้ DIS ไป 6.8 ล้านยูโร
แต่ DIS อ้างว่า เนย์มาร์, บาร์เซโลน่า และซานโต๊ส สมรู้ร่วมคิดกันปิดบังตัวเลขการย้ายทีมที่แท้จริง
จำเลยอีก 2 คนนั้นเป็นอดีตประธานของบาร์ซ่าอย่าง ซานโดร โรเซลล์ และโจเซป มาเรีย บาร์โตเมว ขณะที่ โอดิลิโอ โรดรีเกส ฟิโญ่ อดีตบอสของซานโต๊ส ก็โดนด้วย
การพิจารณาคดีจะมีขึ้นในวันนี้, วันที่ 21 และ 27 ต.ค. แต่ไม่รู้ว่าเนย์มาร์ จะเดินทางมาด้วยตัวเองหรือไม่ ก่อนที่จะตัดสินกันวันที่ 31 ต.ค.
“เนย์มาร์ จูเนียร์ เป็นผู้สมคบกับครอบครัวของตัวเอง และบาร์เซโลน่า ซึ่งมีผู้บริหารในเวลานั้น และซานโต๊ส เอฟซี ฉ้อโกง DIS ในเรื่องผลประโยชน์ทางการเงินตามกฎหมาย” เปาโล นาสเซอร์ ทนายความโจทก์ เผยเมื่อสัปดาห์ก่อน
DIS พยายามฟ้องร้องเรียกเงินที่ควรได้คืนกว่า 35 ล้านยูโร แต่ทนายความของนักเตะยืนยันว่าพวกเขาบริสุทธิ์ ระบุว่าเงิน 40 ล้านยูโร เป็นโบนัสการเซ็นสัญญาตามกฎหมายและเป็นเรื่องปกติในการซื้อขายของวงการฟุตบอล