นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ กับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม ซิตี้ กราวน์ ในศึก พรีเมียร์ลีก (อังกฤษ) เมื่อวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 มาพร้อมกับตัวหลักเซ็ตเดิมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ดีน เฮนเดอร์สัน,เนโก้ วิลเลียมส์,ไรอัน เยตส์,เจสซี่ ลินการ์ด,มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ และ ไทโว อโวนิยี่
ขณะที่ ลิเวอร์พูล จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง อลิสซอน,เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,เจมส์ มิลเนอร์ ,ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์,โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่ เป็นต้น
นาทีที่ 9
ช่วงต้นเกมเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้บุกมากกว่า และมีโอกาสได้ลุ้นประตูก่อน จากจังหวะที่ เอลเลียตต์ วางบอลยาวจากกลางสนามให้ คาร์วัลโญ่ ที่วิ่งทำทางเแาบอลลงในการอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายจังหวะจบสกอร์เจ้าตัวดันยิงไม่ผ่านเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน
นาทีที่ 19
หลังจากโดนบุกอยู่พักใหญ่ ฟอเรสต์ ก็มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้าง จากจังหวะที่ กิ๊บ-ไวท์ จ่ายบอลให้ อโวนิยี พักบอลในกรอบเขตโทษ ก่อนจะไหลย้อนหลังคืนให้ คูยาเต้ วิ่งมาซัดนอกกรอบ บอลพุ่งติดเซฟ อลิสซอน นิดเดียว
นาทีที่ 37
ลิเวอร์พูล ขึ้นเกมมาได้ลุ้นประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ แนวรับของ ฟอเรสต์ เคลียร์ลูกเตะมุมของ ลิเวอร์พูล ไม่ขาด บอลไปเข้าทาง ฟาน ไดจ์ค โหม่งตั้งให้ ฟีร์เมียโน่ แต่น่าเสียดาย บอลสึดท้ายมันแรงเกินไป ฟีร์เมียโน่ ชาร์จไม่ถึง
หมดครึ่งเวลาแรก
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ – 0
ลิเวอร์พูล – 0
นาทีที่ 55 น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ขึ้นนำ 1-0
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แปปเดียว แฟนๆ ลิเวอร์พูล ถึงกับช็อค เพราะทีมรักโดนเจ้าถิ่นชิงนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ คุ๊ก เปิดบอลยาวไปหน้าประตูให้ อโวนิยี่ ยิงชนเสาในจังหวะแรก ก่อนที่บอลจะเด้งกลับมาเข้าทาง อโวนิยี่ อีกครั้ง แต่คราวนี้ อโวยิยี่ ซัดตุงไม่มีเหลือ ฟอเรสต์ ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 58
ลิเวอร์พูล พอโดนนำ พวกเขาก็ดันสูงทำให้หลังบ้านมีช่องโหว่เยอะ จนเกือบเสียลูกสองเหมือนกัน จากจังหวะที่ อโวนิยี่ สปีดไปรับบอลทางขวา ก่อนจะเปิดยัดเข้ากลางให้ กิ๊บ-ไวท์ ได้ซัดเน้นๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่เป็นประตู เพราะ เจมส์ มิลเนอร์ ไม่ยอมเขาวิ่งมาสไลด์ขวางได้ทันเวลา
นาทีที่ 90+2
ช่วงทดเจ็บ ลิเวอร์พูล บดหนักมาก จนเกือบตีเสมอได้เหมือนกัน จากจังหวะที่พวกเขาได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย ก่อนจะเลือกเปิดบอลไปหน้าประตูให้ ฟาน ไดจ์ค เทคตัวโหม่งโล่งๆ บอลพุ่งไปติดเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน นิดเดียว
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ที่เล่นได้รัดกุมและเหนียวแน่นกว่า จนทำให้พวกเขาพลิกล็อก เอาชนะ ลิเวอร์พูล ไปได้ ด้วยสกอร์รวม 1-0