TOXIC – สูดมรณะ
— 5/10 —
อิงจากเหตุการณ์จริงสุดสะเทือนอารมณ์
แต่หนังเล่าออกมาได้ไม่ถึงเท่าไหร่
Toxic – สูดมรณะ เป็นหนังที่อิงมาจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในเกาหลีใต้ช่วงปี 2011 เมื่อเกิดเหตุประหลาดคร่าชีวิตคนเกาหลีจำนวนหนึ่ง เป็นผลมาจากสารที่ชื่อว่า PHMG (Polyhexamethylene Guanidine Hydrochloride) ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถูกผสมลงในผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งที่ใช้ร่วมกับเครื่องพ่นละอองปรับอากาศ ที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 20,000 ราย
โดยในหนังบอกเล่าเรื่องราวถึงนายแพทย์จองแทฮุน ที่ลูกชายคนเดียวต้องเข้ารับการรักษาอย่างเฉียบพลันและสูญเสียภรรยาไปอย่างไม่คาดคิด จากโรคปอดกลายเป็นพังผืดอย่างเฉียบพลัน ทำให้เขาและน้องสาวที่เป็นอัยการ ช่วยกันสืบหาเบาะแสที่มาที่ไปของเรื่องนี้เพื่อหาคนมารับผิดชอบ ทำให้พวกเขาได้ประสบพบเจอคนอีกมากที่เจอเหตุการณ์นี้เหมือนกัน และมันสาวต้นตอไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ รวมถีงรัฐบาลที่ปล่อยให้สินค้าตัวนี้ออกมาได้ นั่นหมายความว่าการจะเอาผิดคนพวกนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หนังเรื่องนี้ทำให้เรานึกถึงหนังเรื่องนึงในปี 2019 กับเรื่อง Dark Waters ที่แสดงนำโดย Mark Ruffalo ที่เป็นเรื่องราวของทนายความของบริษัทที่ปล่อยสารเคมีปนเปื้อนกับแม่น้ำและผลิตภัณฑ์ ฟ้องร้องบริษัทตัวเองที่ทำให้คนเสียชีวิตมามากมายกินระยะเวลายาวนานกว่า 40 ปี มันมีความคล้ายกันในหลาย ๆ แง่ ทั้งเรื่องราว ทั้งอิงจากเรื่องจริงเหมือนกัน และอีกหลายจุด ซึ่งหลังจากดูจบเราชอบ Dark Waters มากกว่าอยู่ดีนะ
หนังเป็นแนวสืบสวนสอบสวนหาความจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเอาจริง ๆ พาร์ทนี้ก็ไม่ได้เน้นหนักอะไร และผ่านไปเร็วเสียด้วย เพราะใช้เวลาไม่นานก็รู้ที่มาที่ไปและสาเหตุของเรื่องนี้แล้ว หลังจากนั้นตัวหนังก็จะพาเราไปพาร์ทการต่อสู้กันทางกฏหมายของกลุ่มตัวเอกกับบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เราจะได้เห็นฝั่งบริษัทใหญ่ พยายามปกปิดข้อมูลความอันตรายของสาร PHMG เพื่อผลประโยชน์และชื่อเสียงส่วนตัว ด้วยเล่ห์กลต่าง ๆ นานา ส่วนฝ่ายที่ฟ้องร้องก็จะพาเราไปพบกับเหยื่อผู้เสียหาย มีซีนสะเทือนอารมณ์ให้เราดูบ้างประปรายพร้อม ๆ กับการเตรียมข้อมูลมาต่อสู้กันในชั้นศาล ซึ่งองค์นี้ก็ดูได้เพลิน ๆ แต่มันควรจะมีจุดที่ลึกกว่านี้ เพราะเนื้อหาส่วนนี้รู้สึกมันตื้นเกินไปยังไงไม่รู้ แถมยังไม่มีจุดพีคขนาดนั้น พอมาถึงองค์สุดท้ายกับการคลี่คลายเรื่องราว หนังดันรีบเล่ารีบไป หาทางลงของเรื่องราวเพื่อให้จบอย่างรวดเร็ว
จริง ๆ ต้องชื่นชมด้วยความเป็นกาหลี ที่ตัวหนังมักจะเสียดสีรัฐบาล นักการเมือง นายทุนอยู่แล้ว ในเรื่องนี้ก็ทำเช่นนั้น ยังคงชี้ให้เห็นถึงความชุ่ย มักง่าย เห็นแก่เงิน ที่ทำงานกันเป็นระบบเอาเปรียบประชาชนตาดำ ๆ จนกฏหมายทำอะไรไม่ได้ ตัวหนังใส่ประโยคจิกกัดสุดแสบเข้ามาในช่วงท้ายเรื่อง
คือเนื้อหามันดราม่า สะเทือนอารมณ์อยู่แล้ว แต่หนังมันทำได้ไม่ถึงขนาดนั้น ในภาพรวมหนังมันเล่าเรื่อย ๆ กราฟมันนิ่งมาก ทั้ง ๆ ที่มันควรจะเล่าให้ถึงได้มากกว่านี้อีกเยอะเลย ทั้งในแง่ความอันตรายของสารตัวนี้, ความดราม่าของเหยื่อ, ความสกปรกของนายทุน, ความสะเพร่าของรัฐบาล, การต่อสู้กันทางกฏหมาย คือทุกอย่างมันตื้นเขินเกินไป ถ้ามันรุนแรงกว่านี้ในทุกแง่หนังมันจะสะเทือนอารมณ์กว่านี้มาก ๆ พอมันเป็นแบบนี้มันก็พอทำให้เราติดตามได้จนจบเท่านั้น
สรุปแล้ว Toxic – สูดมรณะ เป็นหนังที่อิงมาจากเรื่องจริงที่สุดแสนสะเทือนใจ แต่หนังกลับเล่าออกมาได้ไม่ถึงจุดนั้นสักเท่าไหร่ ด้วยวิธีการเล่าแบบราบเรียบ นิ่ง ๆ เรื่อย ๆ จริงอยู่ที่หนังมีแทรกเหตุการณ์สะเทือนใจต่าง ๆ แต่ก็มันพยายามบีบคั้นมากจนเกินไป ถึงกระนั้น หนังก็ยังมีบทพูดคม ๆ มีช่วงท้ายที่ตอกหน้าเหล่าพวกคนเห็นแก่ตัวไร้ความรับผิดชอบได้อย่างสะใจไม่ใช่เล่น ในภาพรวมหนังก็ดูได้เรื่อย ๆ จนจบเท่านั้นแหละ