สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส ยื่นคำร้องต่อ ฟีฟ่า เพื่อขอคำอธิบายจากจังหวะที่ประตูของ อองตวน กรีซมันน์ ในเกมแพ้ ตูนิเซีย ถูกสั่งยึดคืน ทั้งที่ผู้ตัดสินเป่าจบเกมไปแล้ว
คืนวันพุธที่ผ่านมา “ตราไก่” ลงเล่นฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายกับ ตูนิเซีย โดนออกนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 58 จากประตูของ วาห์บรี คาซรี
ช่วงนาทีที่ 90+8 กรีซมันน์ วอลเลย์ระยะเผาขนส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย และวิ่งดีใจเรียบร้อย จากนั้นผู้ตัดสินให้ ตูนิเซีย กลับมาเขี่ยลูก แล้วเป่านกหวีดยาวสามครั้งอันเป็นสัญญาณว่าเกมจบแล้ว ทำให้นักเตะทั้งสองทีมเดินไปจับมือกันตามธรรมเนียม
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมีสัญญาณจากห้อง VAR แจ้งว่า กรีซมันน์ มาจากตำแหน่งล้ำหน้า และเมื่อ แมตธิว ค็องเกอร์ เดินไปดูจอด้วยตนเอง กรรมการชาวนิวซีแลนด์ก็สั่งยึดประตูคืน ทำให้ ฝรั่งเศส ชวดตีเสมอ
การตัดสินนี้ของกรรมการ ทำให้เหล่าผู้เล่นทั้งสองทีม รวมถึงทีมงานถ่ายทอดสด เกิดความสับสนหนัก ขณะที่กฎของฟีฟ่า ระบุเงื่อนไขเกี่ยวกับการใช้ VAR ไว้ว่า
“ถ้าการแข่งขันกลับมาเริ่มต้นอีกครั้งแล้ว กรรมการจะไม่สามารถเรียกใช้ VAR ได้ นอกจากจะเป็นกรณีแจกใบเหลืองใบแดงผิดคน หรือกรณีที่มีพฤติกรรมรุนแรงเกิดขึ้น เช่นการทำร้ายคู่แข่ง หรือการเหยียดผิว”
ถึงแม้ว่าผลการแข่งขันนัดนี้จะไม่กระทบต่อ ฝรั่งเศส มากนักเพราะยังได้เข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มอยู่ดี แต่สมาคมฟุตบอลของพวกเขาได้ร้องขอให้ ฟีฟ่า มีคำอธิบายเรื่องนี้
“ผมไม่รู้กฎฟุตบอลครบทุกข้อ และกำลังรอคอยคำตอบเกี่ยวกับกฎเรื่องนี้” เดสช็องส์ ให้สัมภาษณ์หลังจบเกม กับ Le Parisien สื่อบ้านเกิด
“หลังจาก กรีซมันน์ ยิงได้ กรรมการเป่านกหวีดให้เขี่ยลูกใหม่ และเป่าจบเกมแล้ว ซึ่งผมไม่แน่ใจว่า ตามกฎแล้วจะสามารถกลับมาลงเล่นต่อได้หรือไม่”
“หลังจบเกม ผมเข้าไปคุยกับผู้ตัดสินถึงเรื่องนี้ และผมไม่ขอบอกว่าเขาให้คำตอบว่าอะไร”
“ผมไม่ต้องการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการตัดสินของกรรมการ ว่าแต่คุณมีเบอร์โทรของ ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า (หัวหน้าทีมงานผู้ตัดสินของ ฟีฟ่า) มั้ย?