SMILE – ยิ้มสยอง
— 6/10 —
ไอเดียน่าสนใจ แต่สยองแค่รอยยิ้ม
นอกเหนือจากนั้นค่อนข้างจืดชืดไปเสียหน่อย
Smile – ยิ้มสยอง เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทหนังยาวครั้งแรกของ Parker Finn ที่เจ้าตัวเคยกำกับและเขียนบทหนังสั้นมาก่อนอย่าง The Hidebehind (2018) และ Laura Hasn’t Slept (2020) ซึ่งเรื่อง Smile นี้ก็เป็นการต่อยอดมาจากหนังสั้น Laura Hasn’t Slept ของเจ้าตัวนั่นแหละ บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Rose Cotter (Sosie Bacon) จิตแพทย์ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์อันน่าสยดสยอง เมื่อมีผู้ป่วยคนหนึ่งเข้ามาทำการรักษากับเธอหลังเจอเหตุร้ายแรง และผู้ป่วยของเธอก็ฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตา โดยทิ้งเงื่อนงำไว้ว่ามันมาพร้อม “รอยยิ้ม” หลังจากนั้น Cotter ก็ต้องเจอกับเหตุการณ์อันแปลกประหลาดที่แฝงมาในคราบรอยยิ้มสุดสยอง
หนังแบ่งเป็น 3 องค์อย่างชัดเจน เป็นหนังสยองขวัญระทึกขวัญสูตรสำเร็จ ให้ความรู้สึกแบบ The Ring อยู่กลาย ๆ กับเรื่องราวการเผชิญหน้าเหตุการณ์บางอย่าง ตามมาด้วยการสืบสวน และจัดหนักจัดเต็มสยองในตอนท้าย ซึ่งมันกลายเป็นว่าหนังคาดเดาง่าย ทุกอย่างมันลงล็อคดูง่ายไม่มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่ แต่ก็มีความพยายามใส่เรื่องราวจิตวิทยาเพื่อให้มันแตกต่างอยู่บ้างและดำเนินเรื่องก็ไม่ได้น่าเบื่อ ไหลไปเรื่อย ๆ ได้ แต่เนื้อเรื่องมันก็ค่อนข้างจืดชืดไป
จริง ๆ บทมันมีไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยที่เล่นกับประเด็นเชิงจิตวิทยา แต่ก็เอามาใช้ได้ผิวเผินไปเสียหน่อย ไม่รู้ว่าหนังลืมหรือจงใจไม่เล่าประเด็นสำคัญที่มาที่ไปของไอ้รอยยิ้มสยองนั่นว่าแท้จริงแล้วมันคืออะไร ทั้ง ๆ ที่มันแทบจะเป็นสิ่งแรกเลยที่คนดูอยากไปดูและอยากรู้ว่า ทำไมต้องยิ้ม เกี่ยวอะไรกับรอยยิ้ม รวมถึงรายละเอียดอื่น ๆ ที่ไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องเลยดูผิวเผิน รวมถึงปมดราม่าของนางเอกอย่าง Rose Cotter ก็ไม่ได้ลงลึกอะไรเท่าที่ควร หนังมันเลยไม่ส่งน้ำหนักด้านต่าง ๆ ทางอารมณ์มากพอให้รู้สึกอินหรือเอาใจช่วยกับองค์สุดท้าย มันเหมือนยัดหลาย ๆ อย่างเข้ามาจนไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไง และการเลือกที่จะจบแบบนั้นมันก็…ไม่ค่อยเวิร์คสำหรับเราเท่าไหร่
มันมีจุดขายที่น่าสนใจมาก ๆ กับรอยยิ้มสยองเนี่ยแหละ ถ้าหนังยัดพวกรอยยิ้มสยองชวนหลอนเข้าไปเยอะ ๆ ที่ตัวเอกต้องเจอะระหว่างดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ มันคงจะชวนหลอนไม่น้อย เพราะต้องยอมรับเลยว่าฉากที่เห็นตัวละครหลาย ๆ ตัวยิ้ม มันก็ชวนหลอนจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เอาจุดนี้มาใช้ได้ไม่คุ้มกับชื่อเรื่องเท่าไหร่เลย บวกกับที่บอกไปย่อหน้าที่แล้วว่าเราไม่รู้เรื่องที่แท้จริงของรอยยิ้มสยองนี้เลยกลายเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย
นอกจากความหลอนจากรอยยิ้ม หนังยังมีการใช้ Jump Scare ตามสูตรหนังทั่วไป ซึ่งมันเป็น Jump Scare ที่คาดเดาง่ายและใช้พร่ำเพื่อใช่เล่น ใครที่ดูหนังแนวนี้มาคือรู้แน่นอนว่าซีนไหนมันจะโผล่มาตุ้งแช่ คือง้างมาชัด ๆ แล้วก็มาจริง ๆ
การแสดงถือว่าน่าชื่นชม กับบทบาท Rose Cotter ของ Sosie Bacon ที่ใช้คำว่าเอาอยู่ในทุกซีน การแสดงอันน่าชื่นชมของเธอสามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้ ถึงจะไม่ถึงขั้นชวนว้าวน่าทึ่ง แต่ก็น่าชื่นชมไม่น้อย ดูไปดูมานึกถึงการแสดงของ Sarah Paulson เหมือนกันแหะ
สรุปแล้ว Smile – ยิ้มสยอง เป็นหนังที่ไอเดียน่าสนใจกับความสยองที่ผสมผสานความเป็นจิตวิทยา มีจุดขายคือรอยยิ้มชวนสยองอันน่าสงสัยที่มาที่ไป แต่มันก็กลายเป็นหนังสยองขวัญสูตรสำเร็จทั่วไปที่คาดเดาง่าย บทเบาบางหลายจุดแถมยังไม่คลี่คลายในหลายอย่าง และไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเท่าไหร่