แกรห์ม พอตเตอร์ กุนซือ เชลซี ชี้แจงว่าฟอร์มการเล่นของทีมโดยรวมพัฒนาจากเกมก่อน พร้อมชื่นชม โธมัส ซูเช็ค มิดฟิลด์ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ว่าใช้มือเซฟได้สวย แต่ขอไม่วิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน
คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา พอตเตอร์ คุม “สิงห์บลูส์” ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้แมทช์ บุกเสมอ “ขุนค้อน” 1-1
ผลการแข่งขันทำให้ 13 เกมหลังสุดในลีก เชลซี เก็บชัยได้แค่ 2 นัด รั้งอันดับ 9 ของตารางเหมือนเดิม
หลังจบเกม พอตเตอร์ ให้สัมภาษณ์กล่าวถึงฟอร์มของลูกทีม
“ผมคิดว่าเราเริ่มเกมและมีช่วงครึ่งแรกที่ดี เรายิงประตูที่ดีได้และสร้างโอกาสยิงเพิ่มด้วยเช่นกัน, เราเสียการคุมเกมไปบ้างเป็นเวลา 5 หรือ 10 นาทีแล้วเราก็เสียประตู จากจังหวะที่ผมคิดว่าเราควรทำได้ดีกว่านั้น”
“การเสียประตูทำให้จังหวะของเกมเปลี่ยนไป แต่โดยรวมแล้วผมคิดว่าเราทำได้ค่อนข้างดีในครึ่งแรก”
“ฟอร์มในครึ่งหลัง อาจเป็นภาพสะท้อนของตำแหน่งที่เรากำลังอยู่ในฐานะทีม, ในแง่ที่ว่าเหล่าผู้เล่นกำลังเรียกความฟิตจากอาการบาดเจ็บ และบางคนก็กำลังปรับตัวกับ พรีเมียร์ ลีก”
“นั่นคือกระบวนการที่เรากำลังทำอยู่ และเป็นเหตุผลที่เราต้องทำงานต่อไป แต่โดยรวมแล้วเราพัฒนาขึ้นจากเกมก่อน”
“แน่นอนว่า แฟนเชลซี มีสิทธิแสดงมุมมองของพวกเขา และเมื่อเราไม่ชนะ พวกเขาจะก็รู้สึกผิดหวังเช่นเดียวกับเรา แต่ผมแค่พูดในแง่ของฟอร์มการเล่น ซึ่งผมคิดว่าวันนี้ทีมได้แสดงศักยภาพออกมาให้เราเห็นแล้ว”
“สถานการณ์มันเป็นแบบนั้น และผมแค่พูดอย่างตรงไปตรงมา แต่ผมก็เข้าใจอย่างเต็มที่เมื่อแฟนบอลหงุดหงิดที่เราไม่ชนะ”
ช่วงท้ายเกมเกิดจังหวะปัญหาขึ้นเมื่อ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ยิงเรียดจากนอกกรอบแล้วบอลไปโดนมือ โธมัส ซูเช็ค ซึ่งพยายามสไลด์ขวาง แต่ เคร็ก พาวสัน ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร และไม่มีการพิจารณาจาก VAR
“ผมคิดว่ามันเป็นจังหวะเซฟที่ดีของ ซูเช็ค เพราะบางครั้งผู้รักษาประตูก็สามารถช่วยคุณเก็บคะแนนได้” พอตเตอร์ กล่าวเพิ่ม
“ผู้ตัดสินไม่ให้จุดโทษ ดังนั้นผมไม่มีอะไรจะพูดไปมากกว่านี้แล้ว และผมเห็นเหตุการณ์เพียงช่วงสั้นๆ ในขณะที่ผมเดินผ่านเท่านั้น, ผมไม่อยู่ในฐานะที่จะพูดเกี่ยวกับ VAR”
“มีหลายอย่างที่คุุณต้องการให้เข้าทางคุณ และตอนนี้มันก็ไม่เป็นแบบนั้น แต่ชีวิตก็เป็นแบบนี้ และเราไม่สามารถบ่นหรือรอคอยโชคชะตาได้ เราแค่ต้องทำงานกันต่อไป”