ขยี้ตาแปป! ฮาลันด์ เหมาคนเดียว 5 เม็ด ‘เรือ’ เปิดบ้านขยี้ ไลป์ซิก 7-0 

นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ไลป์ซิก ที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก *รอบ 16 ทีม นัด 2 (ยุโรป) เมื่อวันอังคารที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

เกมนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยตัวหลักชุดเดิมจากเลกแรกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เอแดร์ซอน,มานูเอล อาคานจี,อิลคาย กุนโดกัน,เออร์ลิ่ง ฮาลันด์,แจ๊ค กรีลิช และ แบร์นาร์โด้ ซิลวา 

ขณะที่ ไลป์ซิก จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-2-1 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง ยานิส บลาสวิช,ดาวิด เราม์,อามาดู ไฮดาร่า,ติโม แวร์เนอร์ ,เอมิล ฟอร์สเบิร์ก และ โดมินิค โซบอสไล เป็นต้น 

นาทีที่ 22 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 1-0 

ไลป์ซิก ต้นเกมพวกเขาอุตส่าห์รับมือเจ้าถิ่นได้ดี แต่สุดท้ายก็มาพลาดเสียจุดโทษซะงั้น จากจังหวะที่ เฮนริคส์ โดนVARจับแฮนด์ย้อนหลัง กรรมการไม่มีทางเลือกต้องวิ่งมาแจกจุดโทษให้ แมนซิตี้ ทันที แล้วก็เป็น ฮาลันด์  ที่รับหน้าที่สังหารลูกนี้เข้าไปไม่มีพลาด

นาทีที่ 24 แมนซิตี้ หนีห่าง 2-0 

จากนั้น2นาทีต่อมา ไลป์ซิก ก็มาโดนเพิ่มอีกลูก จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์  ซัดด้วยขวานอกกรอบ บอลชนคานบนอย่างจัง ก่อนที่บอลจะกระเด้งมาเข้าทาง ฮาลันด์ ยืนโหม่งซ้ำจ่อๆ ไม่มีเหลือ 

นาทีที่ 45+2 แมนซิตี้ 3-0 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่หยุดความร้อนแรง พวกเขามาได้ลูก3ก่อนหมดเวลาเพิ่มอีกลูกนึง จากจังหวะที่ แบร์นาร์โด้ เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง บอลตกพื้นขลุกขลิก เคลียร์ไปมาวุ่นวายอยู่หน้าประตู ก่อนสุดท้ายบอลจะลอยไปเข้าทาง ฮาลันด์ ชาร์จจ่อๆ ส่งบอลเข้าประตู 3-0 

หมดครึ่งเวลาแรก 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – 3 

ไลป์ซิก – 0 

นาทีที่ 49 แมนซิตี้ นำห่าง 4-0 

กลับมาต่อครึ่งหลังได้แปปเดียว สกอร์ของ แมนซิตี้ ก็ขยับอีกแล้ว จากจังหวะที่ แนวรุกของ ซิตี้ ต่อบอลกันสบาย ก่อนจะไปจบที่เท้าของ กุนโดกัน จับบอลหนึ่งทีก่อนโยกหลบกองหลัง ไลป์ซิก แล้วซัดตูมเดียว ส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลตุงตาข่ายอย่างสวย 

นาทีที่ 52 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 5-0 

แมนซิตี้ คืนนี้ยิงยังไงก็เข้า พวกเขาบุกขึ้นมาทำประตูได้อีกแล้ว จากจังหวะที่ บลาสวิช ปัดลูกโหม่งของ ฮาลันด์ ไม่ตาย บอลยังลอยไปเข้าทาง ฮาลันด์ ซ้ำดาบสองได้อีกที ซึ่งคราวนี้ไม่พลาด แมนซิตี้ขึ้นนำ 5-0

นาทีที่ 57 แมนซิตี้ ขึ้นนำ 6-0 

นาทีนี้หยุดยังไงก็หยุดไม่อยู่แล้ว หลังแมนซิตี้ ขึ้นเกมมาทำประตูได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ ฮาลันด์ ยืนอยู่ในกรอบเขตโทษเฉยๆ บลาสวิช ก็ปัดบอลมาให้เขายืนซ้ำจ่อๆ ซะอย่างนั้น แมนซิตี้นำห่าง 6-0 

นาทีที่ 90+1 แมนซิตี้ ยิงปิดกล่อง 7-0 

ไลป์ซิก ยังคงบอบช้ำไม่เลิก เมื่อพวกเขามาเสียลูกที่7เพิ่มอีก จากจังหวะที่ เดอ บรอยน์ เลี้ยงบอลขึ้นหน้าไปคนเดียว ก่อนจะเลือกยิงเองไม่จ่ายเพื่อน ส่งบอลพุ่งเป็นจรวดหนีมือ ยานิส บลาสวิช ตุงตาข่าย 7-0

หมดเวลาการแข่งขัน เป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เล่นได้เหนือกว่าชัดเจน ส่งผลให้พวกเขาเปิดบ้านถล่ม ไลป์ซิก ไปด้วยสกอร์ 7-0