THE FIRST SLAM DUNK
— 9.9/10 —
นี่คือหนังอนิเมชันเแด่แฟน Slam Dunk อย่างแท้จริง
เกทการแข่งขันเข้มข้น ตื่นเต้น สนุก ดุเดือด เร้าใจ
โมเมนท์สำคัญเก็บได้ครบถ้วน แถมยังเติมเต็มเรื่องราวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
The First Slam Dunk คือหนังอนิเมชันที่หยิบยกเอาเหตุการณ์ในการ์ตูน Slam Dunk ช่วงที่ โชโฮคุ มาเจอกับ เทคโนซังโน มาบอกเล่า ซึ่งนี่คือฉากจบช่วงสุดท้ายในฉบับมังงะ แน่นอนว่าหลากหลายเหตุการณ์สำหรับแฟน Slam Dunk ก็น่าจะรู้และคุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ถึงจะรู้อยู่แล้ว ตัวหนังก็ยังสามารถถ่ายทอดออกมาให้เราสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ ในเกมการแข่งขันได้อย่างดี แถมยังเติมเต็มเรื่องราว บอกเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมและไหลลื่นมาก ๆ ในฐานะแฟนของ Slam Dunk รู้สึกประทับใจ เต็มอิ่มและแฮปปี้กับหนังเรื่องนี้มาก ๆ และที่มันน่าประทับใจขนาดนี้ก็คงเพราะอาจารย์ ทาเคฮิโกะ อิโนะอุเอะ มานั่งแท่นกำกับและเขียนเรื่องราวเองด้วย
หลัก ๆ ตัวหนังจะมีจุดศูนย์กลางในการเล่าเรื่องอยู่ที่ตัวละคร มิยางิ เรียวตะ การ์ดร่างเล็กของโชโฮคุ เราจะได้เห็นมุมมอง วิธีคิด สถานการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ตัวละครนี้ต้องรับมือในเกมการแข่งขันกับซังโน ซึ่งด้วยความที่ตัวหนังใช้วิธีตัดสลับการแข่งขันกับเหตุการณ์ในอดีต เราจะได้เห็นการแข่งขันอันดุเดือด สลับกับรู้เบื้องลึกเบื้องหลังขยายความเรื่องราวในอดีตของตัวละครนี้ในหลาย ๆ แง่ และมันคือตัวขับเคลื่อนเรื่องราวความเป็นดราม่าของหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะจริง ๆ ถ้าไม่มองว่ามันสร้างมาจากมังงะ มันก็เป็นหนังกีฬาดราม่าดี ๆ เรื่องนึงได้เลย
ในขณะเดียวกันกับตัวละครอื่น ๆ ในทีม ไม่ว่าจะเป็น อาคางิ, มิสึอิ, รุคาว่า และซากุรางิ ก็มีแอร์ไทม์โชว์เท่ของตัวเองในการแข่งขันเหมือนกัน ถึงแม้ฉากย้อนอดีตจะไม่ได้เน้นหรือเจาะลึกเท่ามิยางิก็ตาม แต่เท่านั้นมันก็เพียงพอต่อการเล่าเรื่องราว เพราะมันไม่ได้รู้สึกขัดแต่อารมณ์ในการเล่าเรื่องแต่อย่างใด กลับกลายเป็นไหลลื่นกลมกลืนไปกับเรื่องราวได้เป็นอย่างดี
ในทางกลับกันทางฝั่งของ เทคโนซังโน ก็ได้มีการตัดหรือลดทอนการพูดคุยกันของตัวนักกีฬาลงไปเยอะเหมือนกัน แอบอย่างให้มีบ้าง ในแง่การเล่าเรื่องก็เข้าใจได้ในเหตุผล เพราะหนังต้องการเน้นบอกเล่าถึงสมาชิกทีมโชโฮคุเสียมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเหตุการณ์ในสนามแข่งก็ได้ถูกถ่ายทอดออกมาจนเกือบครบถ้วน แน่นอนว่ามีบางเหตุการณ์ถูกตัดออก แต่เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่ควรมีก็มีมาอย่างครบถ้วน
อย่างที่บอกนี่คือหนังสำหรับแฟน Slam Dunk อย่างแท้จริง คือเอาจริง ๆ ถ้าไม่ใช่แฟน อาจจะไม่เข้าใจมุก หรือนิสัยใจคอตัวละครสักเท่าไหร่ เช่นทำไม ซากุรางิไม่ส่งบอลให้รุคาว่า คือคนไม่เคยอ่านจะไม่เข้าใจเลยว่าแค่ฉาก “ตีมือ” กันของรุคาว่ากับซากุรางิ มันพิเศษยังไง อะไรประมาณนั้น หนังกล้าที่จะเล่าเลยไม่ต้องเสียเวลาปูเรื่องราวอะไรใด ๆ เพราะนี่คือของขวัญแก่แฟน Slam Dunk แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ทั้งแฟนและไม่ใช่แฟนของเรื่องนี้รู้สึกตรงกันแน่นอน นั่นคือความตื่นเต้น ความเร้าใจในการแข่งขันแมชนี้ คือต่อให้แฟนจะรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในแต่ละเหตุการณ์ แต่ตัวหนังด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งมุมกล้อง ภาพ วิธีเล่า เสียง มันรวมกันถ่ายทอดเหตุการณ์เหล่านั้นออกมาได้สนุก เพลินตามากกกก ยิ่งซีนช่วงท้ายเกมนี่โคตรเข้มข้น ตื่นเต้น เร้าใจ จนทำให้ต้องกลั้นหายใจ นั่งไม่ติดเบาะเลยทีเดียว คือในตอนอ่านมังงะอะ มันก็สนุก ลุ้นอยู่แล้วนะ พอได้มาเห็นภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบหนังอนิเมชันในโรงหนังนี่มันโคตรสุดยอดจริง ๆ สนุกมาก ซึ่งเราเชื่อว่าถ้าคนที่ไม่ได้เป็นแฟนเรื่องนี้มาดูก็จะรู้สึกไม่ต่างจากเรา เพราะมันถ่ายทอดเกมการแข่งขันออกมาได้ดีจริง ๆ มันบิวต์ มันสร้างอารมณ์แล้วค่อย ๆ พีคขึ้นเรื่อย ๆ
มาพูดถึงงานภาพหนังอนิเมชันที่มีเอกลักษณ์ แน่นอนมันไม่ได้ไหลลื่น 120fps หรือสวยจับใจเหมือน Makoto Shinkai แต่มันก็สวยงามในแบบของมันคือการผสมผสานภาพ 2D และ 3D ได้อย่างลงตัว บางช่วงแบบเหมือนลายเส้นกำลังวาด ให้อารมณ์เหมือนเปิดกระดาษภาพเร็ว ๆ ที่ช่วยขับเคลื่อนอารมณ์ได้ดีเช่นกัน
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คืองานด้านเสียง ดนตรีประกอบก็สนุกตื่นเต้นแล้วจัง จังหวะ SFX ต่าง ๆ ก็เข้ามาถูกจังหวะ ที่ชอบคือการตัดต่อเสียง ที่ลงตัวมาก ยิ่งในช่วงท้ายของการแข่งขันคือโคตรยอดเยี่ยมจริง ๆ งานด้านเสียงไม่มีที่ติเลย
ชมกันมาแล้ว มาถึงจุดติกันบ้างดีกว่า อย่างแรกเลยคือเรื่องซับไทย คือตอนไปดูเรื่องนี้เราไปดู soundtrack และมีหลายจุดที่เอ๊ะกับการแปลของเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ทั้งการใช้สรรพนามเรียกบุคคลต่าง ๆ, แปลเหมือนว่าไม่ได้เข้าใจความสัมพันธ์ของตัวละครสักเท่าไหร่, การแปลผิดความหมาย, และเรื่องชื่อตัวละคร จนหลายครั้งเราต้องอ่านซับอังกฤษควบคู่ไปด้วย นับว่าน่าเสียดายจริง ๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าพากย์ไทยแปลมาเป็นอย่างไร
อีกจุดนึงที่แอบเสียดายคือ ไหน ๆ ก็เติมเต็มเรื่องราวไปแล้ว ก็อยากให้สรุปเรื่องราวอนาคตของแต่ละตัวละครสักหน่อยว่าเป็นไงต่อ, การแข่งข้างหน้า, แอบอยากเห็น Slam Dunk 10 Days After ในหนังเหมือนกันนะ แต่นั่นแหละ อาจจะเพราะด้วยความตั้งใจของอาจารย์เองว่าชีวิตไม่เป็นตามหวังมันก็ไม่ใช่จุดจบ ถึงแม้จะมีพื้นที่ให้สงสัยถึงเรื่องต่าง ๆ แต่การจบแบบนี้มันก็เป็นการจบที่สมบูรณ์แล้ว
และสำหรับแฟน Slam Dunk ไปดูเถอะ หนังเรื่องนี้เซอร์วิสพวกคุณ อาจารย์ตั้งใจทำมาเป็นของขวัญเพื่อมอบให้พวกคุณจริง ๆ