คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงซูเปอร์สตาร์แห่ง อัล-นาสเซอร์ ยอมรับ ช่วงเวลาย้ายออก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสถานการณ์ยากลำบาก แต่ก็ทำให้เขาได้บทเรียนสำคัญ และกลายเป็นคนที่ดีขึ้นจากแต่ก่อน
ดาวเตะวัย 38 ปีถูก โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ เรียกติดทัพ “ฝอยทอง” หลังทำผลงานโดดเด่นให้ยักษ์ใหญ่แดนซาอุฯ ยิง 9 ประตู และมีอีก 2 แอสซิสต์ จากลงทุกรายการ 10 นัด
ก่อนจะย้ายร่วม อัล-นาสเซอร์ นั้น เจ้าของบัลลงดอร์ 5 สมัยต้องออกจาก “ปีศาจแดง” แบบไม่สวยนัก ให้สัมภาษณ์วิจารณ์ทั้งผู้บริหาร และ เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีม เป็นเหตุตกลงยกเลิกสัญญา
วันพฤหัสนี้ โรนัลโด้ เตรียมสวมปลอกแขนกัปตันนำ โปรตุเกส ลงเล่นยูโรรอบคัดเลือกนัดแรก เปิดบ้านรับ ลิคเท่นสไตน์ แล้วระหว่างให้สัมภาษณ์ก่อนเกม ถูกถามย้อนกลับไปถึงการอำลา แมนฯ ยูไนเต็ด
“บางทีผมจำเป็นต้องผ่านเหตุการณ์ยากลำบากบางอย่างก่อน ถึงได้รู้ว่ามีใครอยู่ข้างผมบ้าง” นักเตะผู้รับค่าเหนื่อยมากสุดในโลก ให้คำตอบ
“ผมไม่มีปัญหาในการยอมรับว่า ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่แย่สำหรับอาชีพผม แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับเสียดาย”
“ชีวิตต้องดำเนินต่อ และไม่ว่าจะดีหรือแย่ มันก็เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของผม”
“เมื่อคนเราอยู่บนยอดภูเขา เรามักจะไม่สามารถเห็นสิ่งที่อยู่ข้างล่าง, การได้เรียนรู้เรื่องนี้คือสิ่งสำคัญ และทำให้ผมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้น”
“ผมไม่เคยผ่านสถานการณ์แบบช่วงหลายเดือนนั้นมาก่อน แต่ตอนนี้ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมเป็นคนที่ดีขึ้นแล้ว”
“ผมจะไม่โกหก, ลีกซาอุฯ ไม่ใช่ พรีเมียร์ ลีก แต่ก็เป็นลีกที่ทำให้ผมเซอร์ไพรส์”
“หากลีกซาอุฯ ทำตามแผนต่อไป ในเวลา 5-7 ปีข้างหน้า พวกเขาจะกลายเป็นลีกอันดับ 4 หรืออันดับ 5 ของโลก”
“ผมมีความสุขกับทีมชาติโปรตุเกส และรู้สึกเหมือนได้ถูกเรียกติดทีมเป็นครั้งแรกอีกครั้ง”
“เลิกเล่นทีมชาติ? ผมไม่ต้องการเป็นคนที่โยนผ้ายอมแพ้ ผมยังสามารถช่วยเหลือทีมชาติได้”
“ตราบใดที่ โปรตุเกส ยังต้องการผม ผมก็ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของทีม, ใช่เลย ผมตั้งความหวังว่าจะยิงประตูเพิ่มสถิติ และผมต้องการเป็นผู้เล่นที่ติดทีมชาติมากที่สุดตลอดกาล”