แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซนเตอร์แบ็กค่าตัวแพงระยับ ต้องการที่จะอยู่กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป แม้ว่า เอริค เทน ฮาก ผู้จัดการทีมชาวดัตช์ ต้องการขายทิ้งเพื่อหวังนำเงินมาเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้
กองหลังทีมชาติอังกฤษ ได้ลงสนามแค่ 16 เกมโดยเป็นตัวจริงแค่ 8 แมตช์ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในช่วงที่ เทน ฮาก เข้ามากุมบังเหียนซีซั่นแรก ด้วยเหตุนี้ทำให้มีข่าวลือออกมาอย่างต่อเนื่องจากนักเตะเตรียมโดนปล่อยออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
แม็กไกวร์ ซึ่งย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มาเล่นกับ “ผีแดง” ด้วยค่าตัวมหาศาล 80 ล้านปอนด์ (ราว 3,360 ล้านบาท) เมื่อปี 2019 กลายเป็นตัวเลือกอันดับท้ายๆ ของ เทน ฮาก เนื่องจากเขามักจะใช้งาน ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ราฟาแอล วาราน และ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ขณะที่ ลุค ชอว์ แบ็กซ้าย ยังเคยถูกจับไปยืนเซนเตอร์แบ็กก่อน กัปตันทีมวัย 30 ปีด้วยซ้ำ
ด้วยสถานการณ์แบบนี้ทำให้อนาคตของนักเตะกับ แมนฯ ยูฯ แทบมืดมิด แถมยังส่งผลต่อโอกาสติดทีมชาติอังกฤษด้วย ทำให้สื่อหลายสำนักรายงานไปในทิ้งทางเดียวกันว่าเขาจำเป็นที่จะต้องอำลา “โรงละครแห่งความฝัน” เพื่ออนาคตของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม “ทอล์คสปอร์ต” สื่อกีฬาชื่อดัง ระบุว่า แม็กไกวร์ ยังต้องการที่สู้อีกเฮือกเพื่อตำแหน่งของเขา และอยากอยู่พิสูจน์คุณค่าของตัวเองกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป โดยเจ้าตัวเชื่อว่าในฤดูกาลหน้าจะสามารถพัฒนาศักยภาพได้ดีขึ้นกว่าเดิม
กระนั้นสิ่งที่ แม็กไกวร์ คิดสวนทางกับความต้องการของ เทน ฮาก เนื่องจากกุนซือชาวดัตช์อยากขายนักเตะออกไป เพื่อหวังนำเงินมาใช้สำหรับการซื้อตัว คิม มิน-แจ แนวรับชาวเกาหลีใต้ซึ่งเพิ่งช่วย นาโปลี ผงาดคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในซีซั่นล่าสุด
ทั้งนี้เชื่อว่า แมนฯ ยูฯ พร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวน 10 ล้านปอนด์ (ราว 420 ล้านบาท) เพื่อแยกทางกับ แม็กไกวร์ ซึ่งคาดว่าน่าจะมีค่าตัวอยู่ประมาณ 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,260 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยเขาเป็นหนึ่งใน 13 แข้งที่ เทน ฮาก ต้องการปล่อยตัวอย่างมาก