หงส์แดง “ลิเวอร์พูล” แม้ว่าจะครองจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ แต่ฟอร์มสามนัดหลังกลับสวนทาง เพราะยังไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย แถมล่าสุดก็ยังพ่ายให้กับ เซาธ์แฮมป์ตันไป 1-0
โดยเกมนี้ ลิเวอร์พูล บุกไปเยือนด้วยระบบ 4-3-3 ใช้สามประสานทำเกมอย่าง ซาลาห์, มาเน่ และ ฟิร์มิโน่ ส่วนแผงหลังมีการเปลี่ยนให้ เฮนเดอร์สัน ยืนคู่กับทาง ฟาบินโญ่ ในขณะที่เจ้าบ้านเกมนี้มาในระบบ 4-4-2 โดยคู่หน้าเป็น วัลค็อดต์ และอิงส์ ส่วนกลางมี วอร์ด-พราวส์ และ ดิยาลโล่ คอยประสานเกมรุก
สถิติที่ทั้งสองทีมเจอกัน 6 เป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่เก็บชัยได้หมดทุกนัด และคลีนชีตไปถึง 4 เกม และฟอร์ม 3 เกมหลังของทั้งสองทีมก็ยังไม่ชนะใครเลยเหมือนกันทั้งสองทีม
นาที 2 GOAL!!!
ลิเวอร์พูล ถึงกับต้องเรียกสติ เพราะเริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที ก็มีประตูเกิดขึ้นทันที แถมยังเป็นฝั่งทีมเยือนที่โดนก่อน จากจังหวะฟรีคิกของ วอร์ด-พราวส์ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วก็เป็น อิงส์ ที่วิ่งโฉบเข้ามาตวัดบอลข้าม อลิสซอน เสียบเสาไปอย่างสวยงาม นักบุญออกนำก่อน 1-0
นาที 13
หงส์แดง เดินเครื่องเต็มกำลังหวังจะได้ประตูคืน จังหวะนี้ได้ลูกเตะมุม อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดบอลโค้งมาสวยงามถึงหัวของ ไวจ์นัลดุมโขกเต็มๆ แต่บอลติดบล็อคไปเข้าเท้าของ ฟิร์มิโน่ ที่จ่ายต่อให้ เฮนเดอร์สัน ยิงแต่โด่งข้ามคานออกไป
นาที 26
เจ้าบ้าน มีโอกาสได้ประตูที่สอง จากจังหวะเปิดบอลของ อาร์มสตริง ไปถึงหน้าประตูก่อนที่ อิงส์ จะจ่ายต่อให้ เฌเนโป้ วางเท้าปั่นงามๆ แต่งามไปนิดบอลเลยโค้งเลยคานออกไปแทน
นาที 34
โอกาสทองของ ลิเวอร์พูล ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ธิอาโก้วางบอลยาวมาให้ มาเน่ พักลงพื้นได้สวยงาม ก่อนจะลากเข้าไปแล้วยิงเอง บอลพุ่งแรงไปหน่อย หลุดคานออกไปอีกครั้งแบบน่าเสียดาย
นาที 39
ต่อเนื่องกันไปกับจังหวะยิงของ หงส์แดงที่คราวนี้เป็น ฟิร์มิโน่ ที่ได้บอลจาก โรเบิร์ตสัน แต่ก็ยังไม่เป็นประตูเพราะบอลหลุดกรอบออกไป
นาที 41
นักบุญเกือบได้เฮบ้าง คราวนี้เป็นทาง เทลล่า ที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน เฌเนโป้ ได้บอลจาก อิงส์ ก่อนจะลากขึ้นมาเอง และปั่นด้วยขวา แต่บอลก็ยังเลยกรอบประตูไปแบบได้ลุ้น
นาที 45+2
ลิเวอร์พูล เกือบตีเสมอก่อนหมดครึ่งแรก จังหวะนี้ มาเน่ เล่นประสานเกมรุกกับ ซาลาห์ กันในกรอบเขตโทษ แต่เป็น ซาลาห์ ที่จบสกอร์ไม่ได้ โหม่งข้ามคานออกไป
จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกแทบจะเรียกว่าฝ่ายเดียว แต่ยังคงเบิกสกอร์ไม่ได้ ในขณะที่เจ้าบ้าน ครองบอลได้แค่ 37% แต่คมกว่า และใช้เวลาอันรวดเร็วในขณะที่สมาชิกหงส์แดงยังตั้งตัวไม่ทัน เลยสามารถเก็บไปได้ก่อน 1-0 ในครึ่งเวลาแรก
นาที 50
ทีมเยือมเดินเกมเข้าใส่ไม่มียั้ง จังหวะนี้ ไวจ์นัลดุม ได้ซัดเต็มๆ แต่บอลมันแฉลบเขนของ สตีเฟ่นส์ หลุดออกหลังไป ซึ่งทางนักเตะลิเวอร์พูลก็ฟ้องผู้ตัดสินจะเอาจุดโทษ แต่เช็ค VAR แล้ว ผู้ตัดสินก็เป่าให้เป็นลูกเตะมุมแทน
นาที 58
โอกาสของลิเวอร์พูลมาถึงอีกครั้ง จังหวะนี้เป็นการต่อบอลกันอย่างสวยงาม ก่อนที่จะไปถึง มาเน่ ที่วิ่งมาซัดเน้นๆ แต่โชคร้ายที่ สตีเฟนส์ พุ่งมาปัดออกหลังไปได้ก่อน
นาที 66
จังหวะสวนกลับของ เซาธ์แฮมป์ตัน คราวนี้เป็น เทลล่า ที่เติมขึ้นมาทางริมเส้น ก่อนจะปาดแบบเนียนๆ มาให้ อิงส์ แต่งหนึ่งทีแล้วส่องไกล แต่น้ำหนักเบาไปหน่อย เลยเข้ามือของ อลิสซอน ไปแทน
นาที 75
อีกหนึ่งโอกาสทองของ หง์แดง ครั้งนี้เป็นจังหวะเล่นเองของ มาเน่ ที่พลิกเข้ามาจากกรอบฝั่งซ้าย ก่อนจะตัดสินใจยิงเข้ากรอบสวยงาม แต่บอลไปติด ฟอร์สเตอร์ เลยอดเป็นประตู
นาที 84
ลิเวอร์พูล หวังตีเสมอให้ได้เลยเกือบเสียประตูเอง จังหวะนี้ อลิสซอน พยายามออกมาบล็อคนอกเขต หวังจะดันสูง แต่บอลมันไปเข้าทางของ วาเลรี่ ที่วางเท้ายิงสวนออกมา บอลพุ่งตรงกรอบแต่เบาไปนิด ทำให้ เฮนเดอร์สิน วิ่งมาสกัดได้ทัน
นาที 90+3
หงส์แดงเกือบได้นาทีทดเจ็บ จากจังหวะที่ โรเบิร์ตสันวางบอลโด่งจากลูกเตะมุม มาเข้าทางของ มาเน่ ที่ได้โขกเต็มๆ แต่โชคไม่ดีที่บอลมันข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาปราชัยต่อ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 และเป็นนัดที่ 3 แล้วที่หงส์แดงไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ โชคยังดีที่มีบุญเก่าทำให้ยังคงอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงต่อไป แต่แต้มนั้นเท่ากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แข่งน้อยกว่า แต่มี 33 คะแนนเท่ากัน ส่วนทางนักบุญ เซาธ์แฮมป์ตัน จบที่อันดับ 6 ของตาราง
ติดตามบทความ วิเคราะห์บอล พรีวิวหลังเกม ข่าวสารฟุตบอล และ ไฮไลท์ฟุตบอล ได้อีกเพียบที่นี่