เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมชาติ อังกฤษ เปิดสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ โปแลนด์ ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนยุโรป กลุ่ม ไอ เกมนี้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับบทเป็นฮีโร่ ซัดประตูชัยในช่วงท้ายเกม ช่วยให้เจ้าถิ่น อังกฤษ เปิดบ้านเฉือนชนะทีมเยือน โปแลนด์ ได้ 2-1 !!!
เกมนี้ เจ้าถิ่น อังกฤษ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวจี๊ดจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แฮร์รี่ เคน กองหน้าจอมถล่มประตูจากท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โปแลนด์ มาเล่นในระบบ 3-4-3 นำทีมโดย กรีเซกอร์ซ กรีโชเวียค มิดฟิลด์ตัวรับพันธุ์แกร่งจากโลโคโมทีฟ มอสโก และ คริสตอฟ เปียเท็ค กองหน้าตัวเก่งจากแฮร์ธ่า เบอร์ลิน
นาที 8
เจ้าถิ่น อังกฤษ ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ เบน ชิลเวลล์ ดันสูงไปรับบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่งไปที่กลางประตู ฟิล โฟเด้น ได้วิ่งมาโหม่งคนเดียวเหน่งๆ แต่โหม่งโหน ลอยโด่งข้ามคานออกไปไกล
นาที 18 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ ได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้ตรงกลางสนาม ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลี้ยงจี้ขึ้นไปเรื่อยๆ จนทะลุไปถึงสุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน ไมเคิ่ล เฮลิก เสียบจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษทันที แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหาร ยิงเข้าไปไม่เหลือ
นาที 26
เจ้าถิ่น ตัดบอลได้อีกแล้วตรงกลางสนาม จ่ายเร็วทำชิ่งกันขึ้นมาสวย เมสัน เมาน์ท แทงบอลไปถึง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดมาในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะพยายามปาดเลียดไปให้ ฟิล โฟเด้น ที่โล่งๆที่เสาไกล แต่โดนแนวรับทีมเยือนสไลด์ขวางได้ทัน บอลยังไม่พ้นอันตราย กระเด้งออกมาตรงหัวกระโหลก เมสัน เมาน์ท วิ่งมาซัดด้วยซ้าย แต่เหมือนโดนเบียดเสียหลักนิดนึง โดนบอลไม่ดี ปลิ้นหลุดกรอบไป
นาที 30
เจ้าถิ่น เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะต่อบอลกันสวย เมสัน เมาน์ท ได้บอลบริเวณกราบซ้าย ก่อนจะไหลมาให้ ฟิล โฟเด้น ที่หน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย เจ้าตัวไขว้แตะบอลสั้นๆ ต่อเร็วมาที่ แฮร์รี่ เคน ได้แตะบอลไหลไปถึงหัวกระโหลก แล้ววิ่งตามมาซัดด้วยขวาเน้นๆ ไปที่เสาแรกซ้ายมือทันที บอลกำลังจะเสียบโคนเสาอยู่แล้วแต่ วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งปัดปลายมือไว้ได้หวุดหวิด
นาที 42
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เลี้ยงจี้ขึ้นมาทางซ้าย ล็อกไปล็อกมา หลอกแนวรับเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะพยายามตบบอลยัดเข้ามาตรงกลาง แต่แนวรับทีมเยือน ขวางไว้ได้ทัน ก่อนจะรีบหวดเคลียร์ออกไป
หมดเวลาครึ่งแรกที่เวมบลีย์ สิงโตคำราม อังกฤษ ครองบอลเยอะกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังมีโอกาสยิงประตูจังหวะสุดท้ายสวยๆไม่เท่าไหร่ จบครึ่ง สกอร์นำอยู่ที่ 1-0 !!!
นาที 57 GOAL!!!
ทีมเยือน โปแลนด์ มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! จากจังหวะความผิดพลาดของผู้เล่นเจ้าถิ่นเอง นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น จ่ายบอลสั้นๆมาให้ จอห์น สโตนส์ ที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวจับบอลยาว โดน ยาคุป โมเดอร์ ฉกบอลจากเท้า แล้วทำชิ่ง 1-2 กับ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ พุ่งแสกหน้า นิค โป๊ป ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าไปตรงกลางประตู ตุงตาข่าย
นาที 66
ทีมเยือน โปแลนด์ บุกขึ้นมาบ้าง บอลสาดโด่งเข้ามาในเขตโทษ จากด้านขวาพุ่งไปที่เสาไกล คริสตอฟ เปียเท็ค โหม่งย้อนไปที่กลางประตูตั้งให้ อาร์คารดิอุสซ์ มิลิค ได้โขกคนเดียวหน้าปากประตู แต่สะบัดโดนบอลบางไป บอลหลุดกรอบออกหลังไป อย่างน่าเสียดายสุดๆ
นาที 68
เจ้าถิ่น พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ แนวรับแย่งบอลได้แล้วสาดยาวขึ้นหน้ามาให้ แฮร์รี่ เคน ตรงกลางสนาม โหม่งต่อมาให้ เมสัน เมาน์ท บริเวณกราบซ้ายของกึ่งกลางสนาม เจ้าตัวตักบอลทะลุช่องขวางสนามไปให้ ฟิล โฟเด้น ได้กระชากเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แต่ตัดสินใจยิงได้ไม่ดี พยายามแปบอลด้วยขวาไปที่เสาไกลซ้ายมือ แต่เบาเหลือเกิน วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับสบาย
นาที 74
เจ้าถิ่น อังกฤษ ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้องๆไปทางขวา ฟิล โฟเด้น วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดเน้นๆ แต่บอลก็ยังพุ่งไปติดกำแพง กระดอนออกมาเริ่มกันใหม่
นาที 82
เมสัน เมาน์ท พาบอลพลิ้วขึ้นมาเองทางซ้าย ก่อนจะตัดเข้ากลางแล้วพยายามจ่ายยัดไปในเขตโทษ แต่ติดบล็อกของ คามิล กลิค กระดอนกลับมาเข้าทางเจ้าตัวอีกที คราวนี้ลองสับไกด้วยขวาเต็มๆหน้ากรอบเขตโทษ บอลแฉลบแนวรับทีมเยือนออกหลังไป ได้เตะมุม
นาที 84 GOAL!!!
เจ้าถิ่น อังกฤษ มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ฟิล โฟเด้น เปิดบอลโค้งโด่งไปที่เสาไกล จอห์น สโตนส์ สอดขึ้นมาโหม่งกดลงพื้นย้อนไปตรงจุดโทษ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ วิ่งมาหวดฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งแหวกผ่านตัว วอยเชียค เชสนี่ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น อังกฤษ ที่เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน โปแลนด์ ไปได้ 2-1 !!! ทำสถิติชนะรวดสามนัดติด รั้งอันดับที่ 1 ของตารางอยู่ในขณะนี้ โดยนัดต่อไปต้องออกไปเยือนทีมชาติฮังการี ด้าน โปแลนด์ อยู่อันดับที่ 4 ของตารางคะแนน นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับทีมชาติแอลเบเนีย