และมาถึงผลงานออริจินัลเรื่องแรกของทรูไอดี ที่ประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการส่งหนังคอมเมดี้ปนสังสรรค์ที่จะมาช่วยเพิ่มอรรถรสความสนุกในช่วงปลายปีกับ “Alone in Outing เธอ เหงา เรา เต่า” ความปั่นป่วนเกิดขึ้นระหว่างเอาท์ติ้งบริษัทที่คนที่ตกค้างอยู่ออฟฟิศได้สร้างความปั่นป่วนระดับไร้สติ เพราะความเหงา..ผสมปนเปกับปริศนาบางอย่าง เรื่องทั้งหมดจึงได้บังเกิดขึ้น!
Alone in Outing เธอ เหงา เรา เต่า เป็นเรื่องราวของ มิกซ์ สถาปนิกหนุ่มมือดีถูกเพื่อนร่วมงาน อย่าง แท่ง ที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ขโมยผลงานของตัวเองไปแบบดื้อๆ จนทนไมไหว อาละวาดกลางบริษัทและลาออก มิกซ์พยายามไปสมัครงานหลายที่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเพราะแท่งป่าวประกาศไปทั่วว่าจะลบชื่อเขาออกจากวงการ แต่ก็ได้ สมนึก เจ้าของบริษัทที่แม่รู้จักรับเข้าทำงาน
สมนึกได้จัดเอาท์ติ้งให้กับพนักงาน แต่เขาอดไป เนื่องจากยังทำงานยังไม่ครบปี สมนึกจึงได้มอบหน้าที่สำคัญให้กับมิกซ์ นั่นก็คือ คือดูแลนำโชค เต่าของสมนึกในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่ และได้เจอกับ เบล นักศึกษาฝึกงานที่ดันมาฝึกงานในช่วงที่ไม่มีใครอยู่
มิกซ์ได้คิดไอเดียสนุก ๆ จัดปาร์ตี้คนเหงา พร้อมกับเกม ใครชวนคนมาปาร์ตี้ได้มากที่สุดชนะ! แขกที่ปรากฏในงานเลยเป็นคนที่พวกเขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ความวุ่นวายในจึงเริ่มต้นขึ้น… และผลลัพธ์ในคืนนั้นทำให้โมเดลที่ออฟฟิศกำลังจะนำไปประกวดหายไป แล้วเต่านำโชคก็หายไปด้วย
หนังเรื่องนี้ได้ผู้กำกับที่มีฝีไม้ลายมือเป็นเอกลักษณ์ในแบบของเขา อย่าง “เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร” ที่เราสามารถสัมผัสได้ถึงลายเส้นงานกำกับหนังของเขาได้ดี นับตั้งแต่ซีนแรกของเรื่อง ผู้กำกับเสือถือว่าเป็นนักแสดงที่เข้าสูุตรของสำนวนที่ว่า “Put the right man on the right job” เพราะเขามักจะถนัดทำหนังในสไตล์นี้และถือว่าเข้าทางเป็นอย่างดี
งานโปรดักชั่นดีไซน์ของหนัง Alone in Outing เธอ เหงา เรา เต่า ทั้งการออกแบบฉาก จัดแสง คัดสีในหนังเรื่องนี้ นับว่าเต็มไปด้วยลายเส้นของผู้กำกับโดยแท้ งานสร้างอาจจะคุ้นตาจากผลงานเรื่องก่อน ๆ ของเขา อีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่เด่นชัดก็คือมุมภาพกับมุมกล้องที่เลือกมาใช้ในหนัง ทั้งซีนโคลสอัพคนกับวัตถุ เทคนิคธรรมดา ๆ ที่นำมาใช้เป็นหนึ่งลูกเล่นในหนังเรื่องนี้ และทำให้กลายเป็นเสน่ห์ที่สวยงามดีของหนัง
แม้ว่าหนังจะยังเต็มไปด้วยช่องโหว่ประปรายอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะในส่วนของการลำดับเล่าเรื่องและตัดต่อที่ค่อนข้างมีปัญหา เป็นเหตุทำให้จังหวะของหนังนั้นติดขัดอยู่ในหลายช่วง พร้อมทั้งมีส่วนที่ทำให้อารมณ์ของหนังไม่ค่อยประติดประต่อเข้ากันได้แยบยลสักเท่าไหร่สักเท่าไหร่นัก อีกทั้งช่วงรอยต่อแต่ละฉากของหนังนั้นก็ไม่ค่อยคมคายมากนัก ยังมีในหลายจุดที่น่าจะกระชับขึ้นได้กว่านี้ เพราะเป็นจุดที่บั่นทอนอารมณ์ของหนังพอสมควร
ในส่วนของบทหนัง Alone in Outing เธอ เหงา เรา เต่า ถึงจะมีคอนเซ็ปต์และประเด็นที่ค่อนข้างชัดเจนดี แต่กลับนำเสนอออกมาได้ค่อนข้างยังไม่ร่วมสมัยสักเท่าไหร่ กลายเป็นบทหนังที่เต็มไปด้วยน้ำมากกว่าเนื้อ มาผนวกเข้ากับจังหวะการเล่าเรื่องที่อยากจะสุดเหวี่ยง แต่ก็ยังเหวี่ยงได้ไม่สุด การเป็นหนังปาร์ตี่ที่เต็มไปด้วยความพยายามและไม่ค่อยกระชับ จังหวะไม่ดีแบบงานปาร์ตี้ที่พึ่งจะมี
ดังนั้นความหวังสุดท้ายของหนังจึงตกไปอยู่ที่ทีมนักแสดงล้วน ๆ ต้องขอบคุณเสน่ห์ของเหล่านักแสดง โดยเฉพาะ 3 นักแสดงนำ “อัพ ภูมิพัฒน์” ที่เปล่งออร่าปกคลุมหนังเรื่องนี้ เขาที่พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยแบกและประคองหนังทั้งเรื่องเอาไว้บนบ่าตัวเอง แต่น่าเสียดายที่บทและคาแรกเตอร์ของเขาค่อนข้างประสบปัญหา ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นองค์ประกอบที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็ตาม
ในขณะที่ “เลิฟ ภัทรานิษฐ์” ก็เปรียบเสมือนเป็นความสดใสของหนังเรื่องนี้โดยแท้ ออกมาทุกซีนทุกฉากก็ทำให้หนังสดใสขึ้นมาทันใด แม้ว่าบทจะไมได้มีมิติอะไรสักเท่าไหร่ แต่เมื่อเธอปรากฏตัวและแสดงออกมาก็เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าประทับใจ อีกทั้งเมื่อทั้งคู่มาเข้าคู่กันในหนังเรื่องนี้ ถึงจะมีทิศทางเลิฟไลน์แต่ก็ยังไม่ชัดเจน แต่พวกเขาก็ผนึกกำลังกันช่วยโปรยเสน่ห์คู่กันด้วยดี
อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “เบสท์ ณัฐสิทธิ์” ที่กลายเป็นคาแรกเตอร์บ้าบอ ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นที่ใส่ความหมั่นไส้ได้อย่างเต็มร้อย เขาเล่นออกมาได้กวน…อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นบทร้ายที่เต็มไปด้วยจิตใต้สำนักแห่งเหตุผล และหนุ่มเบสท์ก็เล่นออกมาได้น่ารังเกียจเป็นอย่างดี ออกมากี่ซีนก็คือเติมเชื้อความหมั่นไส้ได้เป็นอย่างดี และเขาก็ประสบความสำเร็จกับการรับบทนี้ด้วย
ดังนั้น หากเปรียบเปรยเป็นงานปารตี้แล้ว Alone in Outing เธอ เหงา เรา เต่า คงจะเป็นปาร์ตี้ที่ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นัก งานออกจะค่อนข้างกร่อยไปสักนิด เป็นวงปาร์ตี้ที่เฮฮาหัวเราะระเบิดอารมณ์ออกมาแบบเป็นช่วง ๆ จึงเปรียบเป็นเพียงปาร์ตี้ที่ค่อนข้างเงียบ ๆ ไปสักหน่อย