Author: Admin Entertain

กลับมาอีกครั้ง..กับประสบการณ์ที่เพิ่มพูนยิ่งขึ้น แต่ชื่อเสียงของเธอก็ยังสู้พี่ชายไม่ได้สักที “Enola Holmes 2 เอโนลา โฮล์มส์ 2” ถึงเวลาออกมาปฏิบัติการสุดท้าทายกับคดีใหม่ที่น่าสนใจ ที่ครั้งนี้กลับมาด้วยการเติบโตของตัวเอง ความยิ่งใหญ่ในงานสร้าง และโครงสร้างบทที่หนักแน่นยิ่งขึ้น กลายเป็นอีกหนึ่งหนังสืบสวนที่ยังคงดูสนุกและได้โตไปพร้อม ๆ กับทุกตัวละครอย่างอิ่มเอม ใน Enola Holmes 2 ได้เล่าเรื่องราวหลังจากเพิ่งไขคดีแรกสำเร็จ เอโนลา โฮล์มส์ ก็เจริญรอยตามเชอร์ล็อก พี่ชายชื่อดังของเธอ และเปิดสำนักงานของตัวเอง แต่กลับพบว่าชีวิตนักสืบรับจ้างหญิงไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เมื่อทำใจยอมรับความจริงอันโหดร้ายในการก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ได้แล้ว เธอจึงตัดสินใจปิดกิจการลง แต่ทว่าสาวโรงงานไม้ขีดผู้ยากไร้คนหนึ่งมาจ้างวานให้เธอช่วยตามหาพี่สาว คดีนี้จึงเป็นงานแรกอย่างเป็นทางการของเอโนลา ซึ่งชวนพิศวงงุนงงเกินคาดคิด และทำให้เอโนลาต้องหลุดเข้าไปสู่โลกใหม่ที่แสนอันตราย…

ถึงคิวของอีกหนึ่งหนังเกาหลีที่มีได้ยินชื่อเสียงเรียงนามโชยมาตามเทศกาลหนังต่าง ๆ ที่นำไปออกฉายมา ที่การันตีความดิบและความโหดแบบชวนสยดสยอง แค่เห็นฉากต่าง ๆ ในทีเซอร์หนังก็แอบเห็นถึงความเหี้ยม ชนิดที่หนังได้รับเรต ฉ.20+ ในการเข้าฉายในบ้านเราเลยทีเดียว นี่คือ “Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์” ที่ถือว่าเป็นหนังแอคชั่นเขย่าขวัญ รวมทัพดารามากหน้าหลายตาทั่ววงการบันเทิงเกาหลีเลยก็ว่าได้ Project Wolf Hunting เรือคลั่งเกมล่าเดนมนุษย์ เริ่มต้นจากภารกิจที่ทางการต้องการนำตัวอาชญากรสุดเหี้ยมโหดกลับมารับโทษที่เกาหลีใต้ ด้วยการส่งลงเรือบรรทุกล่องข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก โดยมีเส้นทางจากกรุงมะนิลาสู่นครปูซาน ภายใต้เวลาอันมีจำนวนเพียงแค่ 3 วัน และหนึ่งในบุคคลอันตรายบนเรือลำนั้น ประกอบไปด้วย พัคจงดู มือสังหารตาบอดผู้บ้าคลั่ง กับ…

สำหรับใครที่ชื่นชอบหนังเขย่าขวัญลี้ลับ ๆ ที่มีปมความเชื่อและไสยศาสตร์มาผสมปนเปกันอยู่ในท้องเรื่อง ต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้ไปเลย “Nocebo แม่บ้านหมอผี” ที่กลายเป็นหนังฝรั่งที่คลุกเคล้าเข้ากับปริศนาพีธีกรรมความเชื่อแถว ๆ ละแวกบ้านเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่กลั่นออกมาเป็นหนังที่ปลุกเร้าอารมณ์และจี้จุดคลั่งไปถึงขีดสุด ตลอดระยะเวลาชั่วโมงโศษ ๆ ของหนัง ที่บอกเอาไว้ได้เลยว่า..เกือบคลั่งจริง! Nocebo แม่บ้านหมอผี เป็นเรื่องราวของแฟชั่นดีไซน์เนอร์สาวที่ป่วยด้วยโรคลึกลับ จนสร้างผลกระทบต่อทั้งงานและครอบครัว กระทั่งวันหนึ่ง เธอรับแม่บ้านชาวฟิลิปปินส์เข้ามาทำงานและเชื่อว่าสามารถช่วยให้เธอหายป่วยได้ด้วยวิธีการรักษาแบบพิธีกรรมพื้นบ้าน แม้ว่าอาการของเธอดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็มีหลายเหตุการณ์ที่น่าสงสัยเกิด เริ่มทำให้แม่บ้านคนนี้มีดูมีพิรุธว่าเธอมาเพื่อช่วยเหลือหรือเปิดเผยความจริงที่น่ากลัวบางอย่าง นี่ผลงานล่าสุดของคู่หูผู้กำกับและนักเขียนบท “ลอร์แคน ฟินนีแกน” กับ “การ์เร็ต แชนลีย์” ที่ทั้งคู่เพิ่งจะสร้างหนังพิศวง Vivarium ออกมาให้คนดูได้ฉงนกันไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน…

ปรับโหมดเปลี่ยนมาดูหนังดัชต์กันบ้าง เพราะนี่คือหนังอาชญากรรมไซเบอร์ที่อาจจะอยู่นอกสายตาผู้ชมด้วยซ้ำ เพราะทั้งนักแสดงและโปรดักชั่นต่างไม่ค่อยเป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่เผอิญว่า..หนังดูค่อนข้างสนุกและย่อยง่ายไม่เบาใน “The Takeover” หนังออริจินัลที่มีสัญชาติเนเธอร์แลนด์แบบ 100% แม้ว่าพล็อตเรื่องจะค่อนข้างสูตรสำเร็จ แต่เป็นสิ่งที่ซ้ำซากที่ชวนเพลินได้อยู่ The Takeover เป็นเรื่องราวของ เมล แบนดิสัน แฮ็กเกอร์ผู้มีคุณธรรมขัดขวางการละเมิดข้อมูลในรถเมล์สุดไฮเทคที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ เธอดันทำให้เครือข่ายอาชญากรระดับนานาชาติล่มโดยไม่ได้ตั้งใจ ชีวิตของเมลต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือเมื่อเธอถูกใส่ร้ายว่าฆ่าคนทั้งที่เธอไม่ได้ทำ เธอต้องหลบหนีจากการตามล่าของทั้งอาชญากรและตำรวจสากลในเมืองที่มีกล้องวงจรปิดทั่วทุกมุมถนน เธอจึงไปหลบซ่อนตัวอยู่กับคนที่เธอเคยนัดบอดด้วยครั้งหนึ่งอย่าง โธมัส ดีน และทำให้เขาต้องตกกระไดพลอยโจนเข้ามาพัวพันกับการไล่ล่านี้ไปด้วย เมลพยายามออกตามหาอดีตที่ปรึกษาที่ชื่อ บัดดี้ เบนซ็อต ผู้ซึ่งจะมาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับเธอ ว่ากันด้วยหนังดัชต์ที่เราอาจจะไม่ได้คุ้นเคยสักเท่าไหร่ นี่เป็นผลงานของผู้กำกับหญิง “แอนมารี แวน เดอ…

ก่อนดู Last Seen Alive ผมนึกถึงหนัง 3 เรื่องขึ้นมาในหัวพร้อมๆ กัน อันได้แก่ Spoorloos, The Vanishing (อันนี้รีเมคจาก Spoorloos อีกที) และ Breakdown แต่ละเรื่องล้วนมีเนื้อหาว่าด้วยสามีวิ่งพล่านตามหาภรรยาที่หายตัวไประหว่างเดินทางไปที่ไหนสักแห่ง Last Seen Alive ก็มีเนื้อเรื่องตามนั้นครับ ตัวเอกคือ วิลล์ สแปนน์ (Gerard Butler) นักพัฒนาอสังหาฯ ที่ขับรถพาลิซ่า (Jaimie Alexander) ภรรยาของเขาไปส่งบ้านพ่อแม่ของเธอ ทีนี้ระหว่างทางพวกเขาก็แวะปั้มน้ำมัน แล้วลิซ่าก็เดินไปซื้อน้ำ ก่อนจะหายตัวไปอย่างลึกลับ วิลล์เลยต้องหาทางสืบว่าเธอหายไปไหนกันแน่ หนังจัดว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ก็ยอมรับว่าระหว่างดูผมก็แอบหงุดหงิด…

แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ายังไง Fortress ของป๋า Bruce Willis คงไม่ได้สนุกอะไรมากมาย แต่ที่ตามมาดูก็เพื่อให้กำลังใจดาราแอคชั่นที่คุ้นเคยกันมาครับ สมัยหนุ่มๆ พี่เขาทำหนังสนุกๆ ให้เราดูไว้พอสมควร ตอนนี้ก็ตามให้กำลังใจอุดหนุนผลงานป๋าเขาสักหน่อย เรื่องนี้ป๋า Bruce รับบทโรเบิร์ต อดีตซีไอเอที่ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนคนเกษียณอันห่างไกล แล้วพอล (Jesse Metcalfe) ลูกชายของเขาก็แวะมาเยี่ยมครับ จากนั้นไม่นานก็มีกองกำลังรับจ้างบุกมาเพื่อหมายจับตัวโรเบิร์ต นำทีมโดยบัลซารี (Chad Michael Murray) ชายผู้มีความแค้นกับโรเบิร์ต ทำให้โรเบิร์ตและพวกต้องหาทางรับมือวายร้ายกลุ่มนี้ หนังไม่ได้มันส์อะไรครับ ออกจะเรื่อยๆ ส่วนในแง่ของแอคชั่นส่วนใหญ่ก็คือยิงกัน แต่ถ้าว่ากันแบบเนื้อๆ แล้วผมว่าฉากบู๊ในเรื่องมีไม่ถึง 30% ครับ ส่วนใหญ่จะเน้นคุยกันเป็นหลัก…

เบคเกอร์ (Cole Hauser) อดีตนาวิกโยธินถูกส่งไปปานามาเพื่อเจรจาเรื่องซื้อขายอาวุธ แต่พอเขาพบเจอกับเรื่องไม่ชอบมาพากล เขาเลยต้องรับมือกับสถานการณ์ที่พลิกผัน แล้วก็หาทางเอาตัวรอดกลับมา ก่อนอื่นเลย ใครคิดว่า Panama เป็นหนังแอคชั่นล่ะก็ ขอให้เปลี่ยนความคิดเลยครับ เพราะจริงๆ หนังมันออกแนวทริลเลอร์ผสมการเมืองแล้วก็พ่วงด้วยดราม่าซะล่ะมากกว่า ดังนั้นใครคิดว่าหนังจะมันส์ก็ขอให้ทราบเลยว่าหนังไม่มันส์ครับ ฉากบู๊นี่แทบไม่มีเลย (เรื่อง Fortress ของป๋า Bruce Willis ว่ามีแอคชั่นน้อยแล้ว กลายเป็นว่าเรื่องนี้น้อยกว่าอีก) และสำหรับใครที่รอดูป๋า Mel Gibson ล่ะก็ ขอให้ทราบว่าบทของป๋าเขามีประมาณ 10% ครับ แทบจะเป็นบทรับเชิญเลยล่ะ (แต่หน้าตรงโปสเตอร์นี่ใหญ่กว่าพระเอกซะอีก) และป๋าเขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากครับ ส่วนใหญ่จะมาเก๋าและวางมาดกวนๆ เท่านั้น หนังกำกับโดย Mark…

ระหว่างดู The Conjuring: The Devil Made Me Do It ผมถามตัวเองว่าอะไรทำให้ผมชอบ The Conjuring 2 ภาคแรก แล้วคำตอบก็ค่อยๆ ผุดขึ้นมา ความสนุกของ 2 ภาคแรกไม่ได้มีแค่ความตื่นเต้นสยองขวัญ จุดที่ผมชอบจริงๆ ต้องยกให้เรื่องมิติตัวละครไม่ว่าจะความสัมพันธ์ระหว่างเอ็ด (Patrick Wilson) และลอเรนน์ (Vera Farmiga) ที่ไม่ใช่แค่คู่รักปราบผี แต่รายละเอียดระหว่างทางทำให้เราเชื่อว่าพวกเขารักกัน ใจเชื่อมถึงกัน ห่วงใยและใส่ใจกัน คอยเป็นกำลังใจให้กัน ที่สำคัญคือท่ามกลางความสยองและกลิ่นอายของผีสาง หนังสามารถใส่ความโรแมนติกหวานๆ ระหว่างทั้งคู่ลงไปได้อย่างพอเหมาะ…

เคยสงสัยไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับ Jim Carrey? หากใครติดตามดาราหน้ายางคนนี้มาตลอด จะรู้สึกได้ว่าระยะหลังเหมือนเขาจะห่างหายไปจากวงการ ผลงานก็มีปังบ้างแป้กบ้างตามประสา แต่ที่แน่ๆ คือมันไมเ่หมือนสมัยก่อนตอนยุค 90 ที่ถือเป็นยุครุ่งเรืองของเขา ผมนั้นออกตัวเลยครับว่าเป็นแฟนหนังเขา และเอาใจช่วยเขามาตลอด แต่ก็รู้สึกนะ… มันเป็นความรู้สึกลึกๆ อยู่ภายในว่า Carrey มีความเปลี่ยนแปลงไปหลังจากการแสดงบทแอนดี้ คอฟแมน ในหนังเรื่อง Man on the Moon และหนังสารคดีเรื่องนี้ก็ถือเป็นการตอบคำถามหลายๆ อย่างที่ผมมีในใจครับ ซึ่งคำถามสำคัญเลยก็คือ “เกิดอะไรกันกับ Jim Carrey ตอนที่เขาเล่นเป็นแอนดี้…

วอลเตอร์ สแปร์โรว์ (Jim Carrey) ได้อ่านนิยายที่ชื่อว่า The Number 23 ซึ่งนิยายเล่มนี้มันมีหลายสิ่งที่พ้องกับชีวิตของเขา และยังทำให้เขาตระหนักว่าเลข 23 มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต่างๆ ในชีวิตเขาอย่างไม่น่าเชื่อ เขาหมกมุ่นในเลข 23 มากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมทั้งพยายามหาคำตอบว่าใครคือคนที่เขียนนิยายเล่มนี้ และมันมีความลับอะไรซ่อนเร้นอยู่กันแน่ The Number 23 เป็นหนังที่ผมสนใจเมื่อตอนมันลงโรงฉาย เหตุผลเพราะได้ Carrey นำแสดง และยังกำกับโดย Joel Schumacher พร้อมทั้งเนื้อหาก็ออกแนวลึกลับชวนค้นหาแบบที่ชอบ แต่กระนั้นผมก็รออยู่นานเป็นสิบปีครับกว่าจะได้ดู ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน จู่ๆ ความอยากดูมันก็ลดลงไปดื้อๆ ตัวหนังถือว่าดูได้เรื่อยๆ ครับ…