Birdman (Alejandro González Iñárritu / USA / 2014 / A+) E+25-30 for Enjoy ‘หากเป็นนกฉันคงหลงลม สิ่งที่ชมคือความพร่ำเพ้อ…(ข้ามไปฮุก)ทรมานหัวใจหมองไหม้ ดั่งนกเจ็บปวดใจ แอบร้องไห้หัวใจรักพัง…’ อยู่ๆ ก็นึกถึงเพลงนี้..แต่ริกเกนไม่สิ้นหวัง..เอ้าฮึบ!! ตอนแรกไปก็ไม่ทันรอบที่ตั้งใจจะดู..ก็นั่งรอหน้าโรงสองชั่วโมงไม่ดูเรื่องอื่นก่อนหน้าเพราะถูกบิลด์มาว่าดูแล้วเหนื่อย แต่พอดูแล้วไม่เหนื่อยอย่างที่หลายคนบอกแฮะ..เพลิดเพลินมากๆ ทะเยอทะยานหวือหวา กับฉากเซอร์ไพรส์ก็ตื่นตาตื่นใจมากๆ แต่ส่วนตัวแล้วทางอารมณ์หนังไม่ได้ทำให้เราอินมากเท่าไหร่ ทั้งที่ประเด็นสื่อและ Execution ตัวละครที่ออกแนวแฟนตาซีมันเข้าท่าเข้าทางเรามากๆ อาจเป็นเพราะตอนท้ายหนังตามเก็บตัวละครหลักตัวเดียวทำให้ตัวละครของนักแสดงที่รู้สึกยังไม่เป็นที่ยอมรับและประสบความสำเร็จสักทีของ Naomi Watts กับ ตัวละครนักแสดงดังเปี่ยมพรสวรรค์และความสามรถแต่ยึดตัวเองเป็นใหญ่ไม่แคร์ใครอย่าง Edward Norton สองตัวละครที่เราชอบและสนใจมากๆ หลุดหายไปในตอนท้าย แต่พอยกความรู้สึกออกไปแล้วมองแค่ตัวบท สองตัวละครนี้ก็เล่าขยายอาณาจักรความฝันนักแสดงที่ต้องการการยอมรับหลอมรวมกันกับอีโก้ที่แทรกซ้อนด้วยความกลัวการกลายเป็นคนไม่สำคัญ รวมกับบทลูกสาวติดยาของ Emma Stone อีกชั้นที่เทียบเคียงอาการติดหล่มมายาถอนตัวไม่ขึ้นส่งต่อไปถึงตัวตนตัวละครของ Michael Keaton ได้แนบเนียนมากๆ ความดันทุรังกับการตัดสินใจเหมือนศิลปินจนตรอกเรียกร้องความสนใจด้วยการทำร้ายตัวเองลุ้นโชคขั้นเสี่ยงสุดของริกเกนในตอนท้ายแว้บแรกมันก็ไม่ทำให้เราเชื่อว่าการทำแบบนั้นจะทำให้นักวิจารณ์ขาโหดเขียนถึงในเชิงชื่นชมแบบนั้น แต่อีกมุมหนึ่งมันก็สะท้อนว่าจากความสามารถความอยากและความพยายามของริกเกนมันก็สมควรได้รับคำชื่นชมนี้เพียงแต่อีโก้ของป้านักวิจารณ์ขวางทางไว้ ซึ่งกว่าจะอ่อนข้อก็ต้องหลั่งเลือดต่างน้ำตาให้เห็นเสียก่อน และก่อนจะออกบินริกเกนก็ต้องแลกมาด้วยการรู้ซึ้งกับการกระทำที่ครั้งหนึ่งโลกมายาได้ลดทอนความเป็นมนุษย์ของเขาที่เคยใช้ความรุนแรงกับนักแสดงที่เขาไม่ถูกใจที่อาจทำให้เขาไปไม่ถึงจุดหมาย…ซึ่งการยิงปืนแสกหน้าตัวเองมันก็น่าจะสาสมแก่การเรียนรู้แล้ว ความดีงามในมิติเชิงบทเข้ามาแทนที่อารมณ์ที่เราสัมผัสไม่ถึง หนังใช้ค่ามายาคติในวงการการแสดงละครเวทีกับภาพยนตร์สะท้อนกันและกันเหน็บแนมได้สนุก สร้างความกดดันและอารมณ์ขัน แล้วแบ็กกราวด์ชีวิตนักแสดงขาลงอย่าง Michael Keaton ก็เอฟเฟ็กต์กับหนังโคตรๆ เทคนิคการถ่ายทำลองเทคทะเยอทะยานเข้าขั้นดันทุรังก็แนบเนียนและซัพพอร์ตอีโก้ของตัวละครและประเด็นได้ดีมากๆ เพียงแต่เรารู้สึกว่าทางอารมณ์มันไม่ทะลักทลายมากพอเท่าที่ลำพังธีมมันต่อยเราให้คว่ำได้ นอกจาก Michael Keaton ที่เอาอยู่ได้ทั้งเรื่องแล้ว Emma Stone, Naomi Watts, Edward Norton, Lindsay Duncan ก็ดีจัง ไม่แปลกใจที่ชนะ Boyhood บนเวทีออสการ์ ถึงเราจะรู้สึกเชื่อมโยงกับ Boyhood แล้วก็ The Grand Budapest Hotel มากกว่า ก็ Birdman มันน่าจะจี้ใจกรรมการทั้งคณะเลยนี่นะ แต่บางทีในอีกช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตการดูหนังและทำหนังเราอาจจะชอบ Birdman ขึ้นมาแบบสุดโคตรไปเลยก็ได้…