Bubble
จะเกิดอะไรขึ้น…ถ้าหากว่าโลกถูกจู่โจมจาก ‘ฟองสบู่’ ปริศนาที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปหมด เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจและกลายมาเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดใน “Bubble” ที่มาพร้อมกับสีสันไอเดียพาเพลิน แม้ว่าพล็อตต่าง ๆ จะค่อนข้างสำเร็จรูปตามสูตร มีช่องโหว่มากมายเต็มไปหมด แต่ก็ยังสามารถขยายเรื่องราวออกมาได้อย่างจับใจและตระการตาไปตลอดทาง…
Bubble เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์หายนะที่ใจกลางกรุงโตเกียว เมื่อปรากฏการณ์ประหลาดที่มีลักษณะเป็นฟองสบู่ตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนสายฟ้าเข้าโจมตีเมืองใหญ่ ก่อนฟองเหล่านั้นจะแตะออกและครอบคลุมทั้งเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง นับตั้งแต่นั้นว่ากรุงโตเกียวถูกทิ้งร้าง และไม่ใช่เมืองหลวงของญี่ปุ่นอีกต่อ ฮิบิกิ เด็กหนุ่มบ้าบิ่นแต่มีพรสวรรค์ เขาบังเอิญได้ตกลงไปในหลุมบ่วงแรงโน้มถ่วง ก่อนที่จะได้พบกับ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลักลับมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงพวกเขาเข้าเอาไว้ด้วยกันอย่างน่ามหัศจรรย์
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เทสึโระ อารากิ” (จาก Attack on Titan และ Kabaneri of the Iron Fortress) ที่นับได้ว่าปรับเปลี่ยนแนวเดิมของเขามาสู่แอนิเมชั่นแฟนตาซีเลิศล้ำด้วยจินตนาการเรื่องนี้ ที่ถือว่าเขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์แนวถนัดของเขาเข้ามาใส่เป็นองค์ประกอบเสริมได้ช่วยส่งเสริมตัวหนังทั้งเรื่องได้เป็นอย่างดี หนังยังมาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นฐานของสูตรสำเร็จเดิม ๆ ตามแบบฉบับอนิเมะญี่ปุ่น
Bubble ได้นักเขียนบทอนิเมะมือดีอย่าง “เกน อูโระบูชิ” (จาก Psycho-Pass และ Kamen Rider Gaim) ที่ถือว่าขัดเกลาบทหนังออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะการหยิบเอาไว้ไอเดียโดดเด่นระหว่างวัฒนธรรมอนิเมะฉบับญี่ปุ่น มาผูกเข้ากับตำนานเทพนิยายคลาสสิกระดับสากล ที่เห็นได้ชัดจากในหนังเรื่องนี้เลยก็คือการหยิบยืมกลิ่นอายของ “The Little Mermaid” เข้ามาเป็นโครงสร้างคร่าว ๆ วางเป็นพื้นฐาน
การเล่าเรื่องของ Bubble ถือว่าสนุกชวนติดตามใช้ได้ เพราะหนังก็ดำเนินเรื่องไปตามสูตรสำเร็จอยู่แล้ว แม้ว่าจะซ้ำซากอยู่ในหลายจุด แต่หนังก็มอบอรรถรสที่น่าสนใจกับคนดูได้เป็นอย่างดี และเมื่อผนวกเข้ากับงานออกแบบและงานสร้างอนิเมะในหนังเรื่องนี้ กลายเป็นส่วนช่วยส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสีสันและดีไซน์ที่ตระการตา งานค่อนข้างดีจนแอบเสียดายว่าหนังเรื่องนี้ควรจะมีโอกาสให้คนดูได้มีประสบการณ์ชมในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ
อีกจุดที่น่าค่อนข้างน่าพอใจในหนัง Bubble ก็คือการสร้างมิติและองค์ประกอบของคาแรกเตอร์ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างถ่ายทอดออกมาได้แข็งแรงในระดับที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงตัวละครหลัก อย่าง ฮิบิกี หรือ อุตะ เพียงเท่านั้น ตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่อยู่ในหนังก็มีการเกลี่ยให้กับความสำคัญได้แทบจะทุกคาแรกเตอร์ดี และเป็นในฟังก์ชั่นเล็ก ๆ ที่ช่วยมาส่วนเสริมภาพรวมของหนัง
แม้ว่าพล็อตอะไรต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างเพ้อฝันและแฟนตาซีไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าหนังวางรากฐานและปูทางเอาไว้ได้ค่อนข้างสมเหตุสมผล และเกมการแข่งขันที่นำมาใส่เอาไว้เป็นแกนเสริมให้กับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่เข้าใจเลือกและเป็นจุดที่ช่วยบิวท์ความสนุกให้กับ Bubble ได้ค่อนข้างกลมกล่อม มันจึงกลายเป็นการผสมผสานอะไรหลาย ๆ อย่างเข้าเอาไว้ด้วยกันในหนังเรื่องเดียว ที่ให้รสชาติและประสบการณ์ที่น่าพอใจ
โดยภาพรวมแล้ว Bubble ถือว่าเป็นหนังแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นถือว่ายังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน แม้ว่าความสดใหม่อะไรต่าง ๆ จะให้ได้ไม่เยอะนัก หนังยังมีอารมณ์ของหนังดัง ๆ แบบ Weathering with You หรือ Your Name. อะไรทำนองนั้นอยู่ แต่ด้วยความแข็งแรงในองค์ประกอบของคอนเทนท์ในหนังเรื่องนี้ ทำให้มีทิศทางในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และเล่าเรื่องไปได้ค่อนข้างสุดทางดี อีกทั้งงานออกแบบและดีไซน์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างรู้สึกตื่นตาตลอดทั้งเรื่องดี จนอยากจะมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอใหญ่ ๆ ในโรงหนังเลยทีเดียว
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Bubble
- ประเภท: แอนิเมชั่น / ผจญภัย / แอคชั่น
- ผู้กำกับ: เทสึโระ อารากิ
- ให้เสียงพากย์โดย: จุน ชิซอน, มาโมรุ มิยะโนะ, ซายากะ เซนโบงิ, ยูกิ คาจิ
- ความยาว: 100 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 28 เมษายน 2022 (ที่ Netflix)
Movie.TrueID METRIC: Bubble
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - งานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
————————————-