Category: รีวิวหนัง

 Spencer ตามมาติดๆ กับอีกหนึ่งหนังสายรางวัลประจำปีนี้กับอีกครั้งที่ฮอลลิวูดได้เลือกหยิบเอาเรื่องราวของเจ้าหญิงคนดังแห่งราชวงศ์อังกฤษมาตีแผ่ขึ้นจออีกหน แต่ในคราวนี้กลับได้เลือกนำเสนอในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมสักหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่หนังเชิงชีวประวัติ แต่เป็นหนังชีวิตที่บีบคั้นอารมณ์ที่แทบจะทำให้คนดูหยุดหายใจ นี่คือ “Spencer” (รักร้าว ไดอาน่า) ที่มาพร้อมกับการขยี้ปมในช่วงชีวิตเพียงแค่ไม่กี่วันหนึ่งของเจ้าหญิงไดอาน่า นำเสนอออกมาได้อย่างสุดโต่ง! Spencer เป็นการพาคนดูดำดิ่งลงไปในจินตนาการอันสะเทือนอารมณ์ของ ไดอาน่า ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิตของเธอ เราจะได้เห็นการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ในชีวิตของเธอ ด้วยการเริ่มต้นกับการที่เธอได้รับสกุล สเปนเซอร์ มา มันจะเป็นการแสดงให้เห็นความยากลำบากของการเติมเต็มช่องว่างเพื่อให้เธอกลับมาเป็นตัวเอง และยังยึดมั่นที่จะคงไว้ซึ่งสกุลที่มีความหมายต่อตัวเธอเอง และนี่คือช่วงเวลา 3 วันในเทศกาลคริสต์มาสที่ท้าทายชีวิตของเธอ ก่อนอื่นหลายๆ คนอาจจะใคร่สงสัยว่า “หนังดูยากหรือดูง่าย?” คงต้องบอกว่า Spencer ก็ไม่น่าจะใช่หนังแมสทั่วโลกที่คนดูทุกคนจะติดตามดูได้อย่างสบายใจ แต่กระนั้นหนังก็ไม่ใช่อินดี้สุดๆ อะไรแบบ…

Amulet ชีปีศาจ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังเขย่าขวัญที่ดูน่าสนใจมากๆ ที่ส่งตรงมาลงโรงฉายบ้านเราตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้กับ “Amulet” หรือที่มีการตั้งชื่อไทยได้อย่างสะดุดหูว่า “ชีปีศาจ” หนังที่เคยเป็นที่อื้ออึงจากการพรีเมียร์ฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์มาแล้ว ความสะพรึงที่เกิดขึ้นในหนังที่จะทำให้ผู้ชมเปลี่ยนแนวคิด เพียงแค่อยากจะบอกว่า…อย่าปล่อยให้ชื่อหนังและทีเซอร์ตัวอย่างคอยแกงเราได้เสมอ และพร้อมตั้งรับ…ที่จะดื่มด่ำไปกับหนังเรื่องนี้ด้วย Amulet ชีปีศาจ เป็นเรื่องราวหลังจากที่ โทมาส อดีตทหารผ่านศึกที่ถูกทอดทิ้ง กลายมาเป็นคนไร้บ้าน เขาได้รับความช่วยเหลือจาก ซิสเตอร์แคลร์ แม่ชีปริศนาที่อาสาหาบ้านอุปการะให้กับเขา โทมาสจึงได้เข้าไปอาศัยบ้านร่วมกับ แม็กดา หญิงสาวผู้ที่อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยติดเตียงเพียงลำพังในบ้านที่บรรยากาศน่าขนลุก แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งผิดปกติเริ่มเกิดขึ้น มีบางอย่างกลับไม่ชอบมาพากล เสียงปริศนาจากชั้นบนของบ้าน ซึ่งเป็นห้องพักของหญิงชราป่วยใกล้ตาย โทมาสจึงได้สวดภาวนากับเครื่องรางลึกลับที่เขาเก็บได้จากการออกรบ เพื่อให้แต่ละวันภายในบ้านผ่านพ้นไป แต่กว่าที่เขาจะรู้ว่าตัวเองได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความอาถรรพ์จากปีศาจร้าย ทุกอย่างก็สายเกินไป หนทางเดียวที่จะรอดชีวิตคือต้องเผชิญหน้ากับความตาย ที่เกริ่นเอาไว้ว่า…

Railway Heroes รถด่วนขบวนนรก ฟีดแบกหนัง Railway Heroes รถด่วนขบวนนรก – กำลังจะย่างเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ถึงแม้ว่าภาพรวมในปีนี้จะยังคึกคักน้อยไปสักหน่อย เพราะอยู่ในช่วงโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ อีกทั้งยังเผชิญหน้ากับปัญหาข้าวของราคาแพง แต่ก็ยังคงมีโปรแกรมหนังใหม่จากแดนมังกรจองคิวฉายเฉลิมฉลองในช่วงนี้ตามธรรมเนียม และในปีนี้ก็เป็นคิว “Railway Heroes รถด่วนขบวนนรก” หนังแอคชั่นดราม่า ที่หยิบยกเอาช่วงวิกฤตความขัดแย้งครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์มาตีแผ่ โดยเมื่อคืนวานนี้ (25 ม.ค.) โกลด์เดนท์ เอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ได้ฤกษ์ดีจัดฉายรอบพิเศษปฐมบทหนัง Railway Heroes รถด่วนขบวนนรก ครั้งแรกในเมืองไทย ณ โรงภาพยนตร์พารากอน ซินีเพล็กซ์…

Don’t Look Up มาถึงคิวของอีกหนึ่งในเต็งรางวัล ที่น่าจะเป็นเรื่องท้ายๆ ของปีนี้ ที่แค่เห็นชื่อทีมงานและทีมนักแสดงก็ไม่พูดอะไรมาก เพราะน่าจะปังแน่นอน นี่คือ “Don’t Look Up” หนังที่ว่าด้วยฉากหลังเป็นเหตุการณ์หายนะของโลก เมื่อโลกกำลังจะแตกเพราะดาวหางกำลังพุ่งตรงเข้ามา แม้ว่าหน้าหนังอาจจะดูรู้สึกเฉยๆ ไปสักหน่อย แต่เมื่อได้เบิกตาพิสูจน์เนื้อหาของหนังเรื่องนี้แล้ว ปรากฏว่าตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงของหนังเรื่องนี้ เป็นอะไรที่สนุกแบบบรรลัยเลยทีเดียว  Don’t Look Up เล่าเรื่องราวของ เคต ดิบิแอสกี้ นักศึกษาวิชาดาราศาสตร์ และศาสตราจารย์ ดร. แรนดัล มินดี้…

CODA หัวใจไม่ไร้เสียง ถือว่าเป็นการส่งหนังมาได้ถูกจังหวะ เหมาะกับช่วงบรรยากาศส่งท้ายปีที่แสนอบอุ่นหัวใจจริงๆ เพราะนี่คือหนังเรื่องดังที่เราได้ยินชื่อมาตั้งแต่ต้นปี 2021 และยังคงผ่านหูผ่านตามาเรื่อยๆ ตลอดปี กว่าจะได้มีโอกาสได้พิสูจน์กับสายตาตัวเองก็เกือบจะครบปีที่ได้รู้จัก นี่คือ “CODA หัวใจไม่ไร้เสียง” หนังดราม่าที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวเต็งเวทีรางวัลต่างๆ ตั้งแต่เริ่มออกฉายตามเทศกาลงานต่างๆ แม้ว่าจะเป็นงานรีเมคจากหนังประเทศอื่น แต่ปรากฏว่าฉบับนี้ได้ค้นพบตัวเองและสรรค์สร้างออกมาเป็นหนังที่มีสมูบรณ์แบบได้อย่างน่าทึ่ง CODA หัวใจไม่ไร้เสียง เล่าเรื่องราวของ รูบี้ เด็กสาวที่เกิดและเติบโตขึ้นมาอยู่กับครอบครัวทุพพลภาพทางการได้ยิน มีเพียงแค่เธอคนเดียวที่ไม่ได้หูหนวก ทำให้เธอเป็นเหมือนกระบอกเสียงและล่ามที่คอยช่วยเหลือ รวมทั้งเป็นตัวแทนในการสื่อสารกับคนอื่นๆ และเป็นจังหวะที่รูบี้ได้ตัดสินใจก้าวออกจากเซฟโซนของตัวเอง ด้วยการสมัครเข้าชมรมร้องประสานเสียง และทำในสิ่งที่เธอรักและอยากจะทำ ต่อมาเธอจึงใฝ่ฝันที่อยากจะไปเรียนต่อที่วิทยาลัยดนตรีชื่อดัง แต่ติดตรงที่เธอต้องผละตัวออกจากครอบครัว ที่เธอก็ยังเป็นห่วงและกลัวว่าพวกเขาจะอยู่อย่างไรหากไม่มีเธอให้พึ่งพา โดยส่วนตัวแล้วได้มีโอกาสเคยดูหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับ ที่เป็นหนังดังของฝรั่งเศสในปี…

John Lewis: Good Trouble ฟีดแบกหนัง John Lewis: Good Trouble (จอห์น ลูอิส : บุรุษกล้าขวางโลก) – สุดสัปดาห์นี้ในบ้านเราจะมีหนังสารคดีเรื่องเยี่ยมลงโรงเข้าฉายเป็นโปรแกรมทางเลือก อย่าง “John Lewis: Good Trouble” ที่แม้ว่าจะหน้าหนังจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นเคล้าการเมืองลอยโชยมาแต่ไกล แต่ต้องยอมรับว่าเลยว่า นี่คือหนังสารคดีที่กล่าวถึงและสดุดีถึงวีรกรรมอันแรงกล้าของชายคนหนึ่ง ที่ทรงอิทธิพลและขับเคลื่อนสังคมอเมริกันมาได้ถึงทุกวันนี้อย่างทรงพลัง เมื่อคืนวานนี้ (13 ธ.ค.) มงคล เมเจอร์ ได้ทำการจัดฉายรอบพิเศษให้กับสื่อมวลชนและแขกผู้มีเกียรติได้ลิ้มรสและสัมผัสชีวิตของผู้ชายที่ชื่อว่า จอห์น ลูอิส ณ…

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกสงสารทีมงานเลยครับ คือจริงๆ หนังมันไม่ได้แย่นะ มันเป็นหนังแนวแอ็กชันผจญภัยผสมไซไฟที่พอดูได้ แม้จะไม่ได้เจ๋งเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้โล่งโถงหรือน่าเบื่อหนักๆ (แบบ The Last Airbender เป็นอาทิ) แต่รายได้นี่น่าสงสารมาก ทำเงินในอเมริกาแค่ $15.9 ล้าน นี่ไม่ใช่รายได้เปิดตัวนะครับ แต่เป็นรายได้ตลอดการฉายเลย ในขณะที่ถ้ารวมทั่วโลกก็จะอยู่ที่ $83.6 ล้าน ส่วนทุนสร้างน่ะอยู่ที่ $100 ล้าน ผลเลยเจ๊งหนักเจ๊งแรงมากๆ ครับ แต่อย่างที่บอกว่าหนังมันไม่ได้แย่ มันดูได้เรื่อยๆ เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้สนุกแบบสุดๆ และตัวพล็อตก็อาจจะเดาได้แบบไม่ยากเย็น ลงสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้เท่านั้นเอง…

จบครบไตรภาคจนได้ครับสำหรับหนังชุดนี้ ซึ่งภาคแรกผมว่ายังโอเคนะ ทำออกมาสนุกในระดับกลางๆ แต่พอมาภาค 2 นี่ออกแนวเลอะซะเยอะ เนื้อเรื่องจริงๆ มันเหมือนจะมีอะไรอยู่ไม่น้อย แต่ดันเล่าให้มันไม่มีประเด็นไปซะงั้น และเน้นมุกขำที่บางทีก็ไม่ค่อยขำซะครึ่งค่อนเรื่อง พอมาถึงภาค 3 นี้ก็ไม่ได้ดีกว่าภาค 2 ครับ ตัวพล็อตจริงๆ มันสามารถเล่าให้มีเรื่องมีประเด็นได้ แต่หนังไปเน้นตรงการเล่นมุกที่ขำบ้างแป้กบ้าง และช่วงหลังนี่ออกทะเลไปไกลเลย ขนาดที่มีช่วงหนึ่งหนังกลายเป็น Transformers ครับ… นี่ผมพูดจริงๆ นะ ภาคนี้อาเคน (โจวเหวินฟะ) เซียนพนันจอมกะล่อน กำลังจัดงานแต่งให้ลูกสาวอยู่ดีๆ ก็มีคนส่งระเบิดมาป่วน และเขากับมาร์ก…

หนังภาคแรกผมถือว่าทำออกมาเอาฮา ชวนขำ ดูได้แบบเพลินๆ แล้วก็ยังแซวหนังคนตัดคนได้น่ารักไม่น้อย ส่วนภาคต่อนี้มาถ่ายทำในไทยครับ เนื้อหาเกินครึ่งเกิดขึ้นในบ้านเรา เรื่องราวว่าด้วย เคน (โจวเหวินฟะ) เซียนพนันสายฮาที่ต้องเผชิญกับ D.O.A. องค์กร (ประมาณว่าก่อการร้ายและก่อการโกงน่ะนะครับ) ที่แสนร้ายกาจ ส่วนอีกตัวละครก็รับบทโดยจางเจียฮุยครับ เป็นนักบัญชีขององค์กรที่ยักยอกเงินของพวกนั้นมาก็เลยโดยตามล่าทั้งจากองค์กรและจากตำรวจสากล ซึ่งไปๆ มาๆ พวกเขาก็ต้องร่วมมือกันเพื่อปราบองค์กร D.O.A. ที่ว่านี้ หนังโกยเงินถล่มทลายที่เมืองจีนครับ (น่าจะประมาณ $157 ล้านดอลล่าร์สหรัฐได้) แล้วยังมีการทำภาค 3 ออกมาฉายเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งทำเงินมากกว่าภาคนี้อีกด้วย แต่พูดก็พูดครับว่าผมคงไม่แนวสำหรับหนังจีนสมัยใหม่…

หนังจับเอาเรื่องราวของ เซี่ยงอวี่ (หรือ ฌ้อปาอ๋อง) กับ เล่าปัง (หรือ ฮั่นเกาจู่ในเวลาต่อมา) มาบอกเล่าโดยมีการดัดแปลงตีความใหม่ในบางจุด ซึ่งก็มาในแนวทางเดียวกับ สามก๊ก ขุนศึกเลือดมังกร (Three Kingdoms: Resurrection Of The Dragon) ผลงานก่อนหน้าของ Daniel Lee นั่นเอง เหตุการณ์ในเรื่องเกิดสมัยปลายราชวงศ์ฉินที่ปกครองโดยเน้นพระเดชมากจนกลายเป็นความโหดเหี้ยม จนในที่สุดก็มีผู้หมายจะต่อต้าน ซึ่งก็คือเซี่ยงอวี่ (เฝิงเส้าเฟิง) และเล่าปัง (หลี่หมิง) ที่สาบานเป็นพี่น้องและออกรบจนสามารถสยบราชวงศ์ฉินได้สำเร็จ แต่แล้วก็เกิดเหตุให้พี่น้องต้องหมางใจกัน…