น้องมอท

รูปสาวน่ารักน้องมอท พริตตี้สาวสวยน่ารัก ที่เป็นดีเจชื่อดัง ที่หนุ่มๆคนไหนเห็นเป็นต้องอึ้งเลยทีเดียว เพราะหน้าตาของสาวคนนี้ น่ารักเซ็กซี่มากจริงๆ แถมยังมีของดี คือหุ่นเป๊ะเว่อร์ แซ่บ เด็ด ร้อนแรงมากๆ และมีเสน่ห์แรงสามารถดึงดูดให้หนุ่มๆหันมาสนใจกันเยอะ ไปชมความน่ารักของสาวคนนี้ได้เลย ขอบคุณรูปภาพน่ารักๆ จาก facebook : ธนพร อ้นเซ่ง

คนคมโค่นพายุ 3 (2018) L Storm

สำหรับผมแล้วภาคนี้กลายเป็นภาคที่สนุกน้อยสุดครับ การสืบไม่น่าติดตาม ประเด็นในเรื่องดูสะเปะสะปะ แม้จะมีโครงเรื่องหลักอยู่ก็ตาม แต่ความกลมกล่อมยังสู้ภาคแรกไม่ได้ และในแง่ดราม่าความสัมพันธ์ตัวละครแล้ว ผมว่าภาค 2 จะดูดีกว่าและมีอะไรมากกว่า พล็อตหนังออกแนวสูตรสำเร็จของหนังแอ็กชันภาค 3 ที่หนังหลายๆ เรื่องชอบใช้ (หนึ่งในนั้นคือ Taken 3) คือให้ลู่จื้อเหลียน (กู่เทียนเล่อ) พระเอกของเราโดนใส่ความและต้องหาทางแก้ต่างให้ตัวเอง ซึ่งจริงๆ พล็อตแบบนี้เปิดโอกาสให้ตัวเอกได้แสดงความเก่งในการเอาตัวรอดและแก้ปัญหา แต่ทว่าสิ่งที่ปรากฏในหนังนั้น มันไม่ใช่อะไรแบบนั้นครับ การคลายปมและการแก้ต่างเหมือนเพียงแค่รอจังหวะเวลาให้ตัวละครนั้นทำแบบนี้ ตัวละครนี้ทำแบบนั้น แล้วพระเอกก็แค่ใช้จังหวะเป็นรอบๆ ไป ถ้าพูดให้ชัดกว่านั้นคือ พระเอกไม่ได้โชว์เหนือแก้ปัญหา แต่บทหนังถูกเขียนขึ้นแบบทำให้ปัญหาของพระเอกหายไปทีละเปราะ ไม่ว่าจะด้วยจังหวะหรือลูกบังเอิญก็ตาม…

Pet Sematary (2019) กลับจากป่าช้า

ข้อดีประการสำคัญของการดูฉบับรีเมคนี่ก็คือ มันทำให้ผมรู้สึกชอบภาคต้นฉบับมากยิ่งกว่าเก่า จริงๆ แต่เดิมผมก็ชอบภาคต้นฉบับอยู่แล้วน่ะนะครับ จำได้ว่าดูรอบแรกทาง ITV สมัยที่เขายังมีหนังฉายตอนดึกของคืนวันอาทิตย์ ตัวหนังมีกลิ่นอายสไตล์ยุค 90 ที่สยองแบบกินบรรยากาศ ตอนแรกอะไรๆ จะดูปกติธรรมดา แต่สักพักก็จะเริ่มมีเรื่องมาให้ขนลุกแบบค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ค่อยๆ ไต่ระดับความสะพรึงไปทีละขั้นๆ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้สุดยอดน่ะนะครับ แต่ก็ถือว่าทำออกมาน่าติดตามและเป็นหนังที่ดัดแปลงจากงานของ Stephen King ได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง มาในฉบับนี้ ผมรู้สึกว่าหนังพยายามทำบรรยากาศให้มันอึมครึมมืดทึมตั้งแต่ต้น ไม่ว่าจะมืดด้วยภาพ มืดด้วยบรรยากาศ มืดด้วยปมของตัวละคร (ที่แต่ละคนจะมีแผลในใจไม่มากก็น้อย) คืออารมณ์มันดูหม่นตลอดไปจนจบ ซึ่งสำหรับบางคนก็อาจจะชอบสไตล์นี้น่ะนะครับ แต่สำหรับผมแล้วมันทำให้รู้สึกว่าหนังมีโทนเดียว คือ…

Mortal Engines (2018) สมรภูมิล่าเมือง จักรกลมรณะ

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้วรู้สึกสงสารทีมงานเลยครับ คือจริงๆ หนังมันไม่ได้แย่นะ มันเป็นหนังแนวแอ็กชันผจญภัยผสมไซไฟที่พอดูได้ แม้จะไม่ได้เจ๋งเป็นพิเศษก็เถอะ แต่ก็ไม่ได้โล่งโถงหรือน่าเบื่อหนักๆ (แบบ The Last Airbender เป็นอาทิ) แต่รายได้นี่น่าสงสารมาก ทำเงินในอเมริกาแค่ $15.9 ล้าน นี่ไม่ใช่รายได้เปิดตัวนะครับ แต่เป็นรายได้ตลอดการฉายเลย ในขณะที่ถ้ารวมทั่วโลกก็จะอยู่ที่ $83.6 ล้าน ส่วนทุนสร้างน่ะอยู่ที่ $100 ล้าน ผลเลยเจ๊งหนักเจ๊งแรงมากๆ ครับ แต่อย่างที่บอกว่าหนังมันไม่ได้แย่ มันดูได้เรื่อยๆ เพียงแต่มันอาจจะไม่ได้สนุกแบบสุดๆ และตัวพล็อตก็อาจจะเดาได้แบบไม่ยากเย็น ลงสูตรสำเร็จของหนังแนวนี้เท่านั้นเอง…

Nightmare Cinema (2018)

เข้าทางผมอีกแล้วครับหนังเรื่องนี้ ประเภทหนังสยองเรื่องสั้นหลายๆ อัน in 1 แบบนี้ มีมาเมื่อไรก็อยากดูทุกที จะดีไม่ดีก็ค่อยว่ากันครับ แต่ยังไงก็ต้องดูเพราะแนวนี้ชอบอยู่แล้ว เรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่แวะเวียนไปยังโรงหนังที่แสนวังเวง ดูแลโดยคนฉายหนังผู้ลึกลับ (Mickey Rourke) และนี่คือเรื่องราว 5 เรื่องสยองที่ฉายในโรงหนังแห่งนี้ เรื่องแรก The Thing in the Woods (กำกับโดย Alejandro Brugués) เรื่องสยองแนวไล่เชือด เมื่อวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งโดนคนที่แต่งชุดเป็นช่างเชื่อมไล่ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม พวกเขาที่เหลือก็ต้องหนีตายกันสุดชีวิต… แต่แน่ใจได้อย่างไรว่าทุกอย่างจะเป็นอย่างที่เห็น! เรื่องที่ 2 Mirare (กำกับโดย Joe Dante) ผู้หญิงคนหนึ่งตัดสินใจรับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าเพื่อลบรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเธอ…

Cowgirls ‘n Angels 2 Dakota’s Summer (2014) นางฟ้าคาวเกิร์ล 2

นี่คือภาคต่อที่เล่าถึงเรื่องใหม่และตัวละครใหม่ครับ ตัวเอกคราวนี้เป็นดาโกต้า โรส (Haley Ramm) คาวเกิร์ลสาววัย 17 ปีที่รู้ว่าตัวเธอเก็บเด็กที่ถูกรับมาเลี้ยง และเธอกำลังอยู่ในช่วงสับสนตามประสาวัยรุ่นครับ เมื่อถึงจุดหนึ่งเธอเลยพยายามตามหาบุพการีที่แท้จริง ด้วยความหวังว่าจะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่เราๆ ท่านๆ ก็คงเดากันได้น่ะนะครับ ตามสไตล์หนังแนวนี้ว่าถึงที่สุดแล้ว เธอก็จะค้นพบตัวเองพร้อมด้วยค้นพบว่าจริงๆ แล้วครอบครัวที่เลี้ยงเธอมานั่นแหละคือนิยามครอบครัวที่จริงแท้สำหรับเธอ ว่ากันตรงๆ คือภาคก่อนกลมกล่อมกว่าครับ คือจริงๆ ภาคแรกอาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ก็ถือว่าโอเคตามมาตรฐานของหนังแนวนี้ ดูแล้วมีความรู้สึกดีๆ และรอยยิ้มเป็นของแถม ส่วนภาคนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีครับ ถือว่าดูได้เรื่อยๆ เช่นกัน เพียงแต่ในแง่เนื้อหาแล้วความเข้มข้นจะไม่มากเท่าไร และจะมีบางช่วงบางจังหวะที่หนังออกแนวอืดช้า ซึ่งในภาคแรกจะไม่ค่อยมีช่วงอืดเท่าไร…

Mystery 101: Playing Dead (2019)

ภาค 2 ของหนังชุด Mystery 101 ครับ หนนี้ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญวรรณกรรมสืบสวน เอมี่ วินสโลว์ (Jill Wagner) มาร่วมงานกำกับละครเวทีครับ แต่แล้วเธอก็พบว่านักแสดงนำหญิงของเรื่องกำลังถูกปองร้ายหมายชีวิต เธอเลยต้องพลิกหลักฐานตามหาความจริง ก่อนที่คนร้ายจะลงมือก่อการฆาตกรรม ความรู้สึกระหว่างดูภาคนี้ก็เหมือนตอนดูภาคแรกครับ คือรู้สึกว่า 2 ดารานำทำหน้าที่ได้ดี ทั้ง Wagner และ Kristoffer Polaha ในบทเจ้าหน้าที่เทรวิส เบิร์ก แต่ตัวหนังยังไม่น่าติดตามเท่าที่ควร การวางปม ทิ้งปม มันดูเรื่อยๆ น่ะครับ ไม่ได้มีช่วงเร่งเร้าชวนติดตามสักเท่าไร ซึ่งหนังแนวนี้หากทิ้งปมดีๆ มันจะบริหารสมองเราให้เราคิดตามได้ มันก็จะทำให้หนังสนุกขึ้นครับ แต่นี่มันค่อนข้างเรื่อย…

Dr. Seuss’ How the Grinch Stole Christmas (2000) เดอะ กริ๊นช์ ตัวเขียวป่วนเมือง

นี่ถือเป็นหนึ่งในหนังแห่งความทรงจำสำหรับผมเลยครับ เพียงแต่ “ความทรงจำ” ที่ว่านี่ อาจจะมีรายละเอียดที่แปลกๆ สักหน่อยเท่านั้นเอง ว่าตามจริงคือผมรู้สึกกลางๆ กับหนังเรื่องนี้ครับ ถ้าถามว่าชอบไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ถึงกับชอบอะไรมาก ชอบเป็นอย่างๆ ไป เช่น ชอบการแสดงที่โดดเด่นทะลุเมคอัพของ Jim Carrey ที่สวมบทเจ้ากริ๊นช์ได้ดีมากๆ จนถือเป็นไฮไลท์สำคัญของหนังเลยก็ว่าได้ ที่ชอบอย่างต่อมาคืองานสร้างฉากสร้างเมืองครับ พวกฉากต่างๆ นี่ทำออกมาได้ดีมาก เนรมิตออกมาได้สมกับที่เป็นหนังแฟนตาซี ไม่ว่าจะบ้านเรือนต่างๆ หรือสีสันที่หนังใช้มันสวยงาม บางฉากสีตัดกันอย่างพอเหมาะจนถือได้ว่าในแง่อาหารตานี่ หนังทำได้ดีสมทุน $123 ล้านจริงๆ ส่วนในแง่เนื้อหา ผมก็ชอบแง่คิดหลักของหนังนะครับ หนังสอนให้เรารู้จักเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น สอนให้เรารู้จักเปิดใจรับความแตกต่างของเพื่อนร่วมโลกคนอื่นๆ ที่เขาอาจมีความแตกต่างจากเรา แต่หากเราเลือกที่จะมองข้ามความต่าง…

Time Trap (2017)

หนังแนวนี้นี่ผมชอบอยู่แล้วครับ ประเภทไซไฟมิติพิศวงและเล่นกับลูปเวลาเนี่ย ขอให้ทำออกมาเถอะครับ พร้อมดูเสมอ ไม่ว่าจะทุนต่ำหรือทุนสูงก็เถอะ ส่วนจะสนุกหรือไม่ก็ค่อยมาว่ากันอีกที เรื่องเริ่มเมื่อศาสตราจารย์ฮอปเปอร์ (Andrew Wilson) อาจารย์โบราณคดีผู้ที่ตั้งใจจะเข้าไปสำรวจถ้ำแห่งหนึ่ง แต่ปรากฏว่าเขาหายตัวไปหลายวันครับ นั่นทำให้ลูกศิษย์ยกขบวนกันไปตามหาถึงในถ้ำ และเมื่อพวกเขาได้ก้าวเข้าไปในถ้ำนั้นแล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ปริศนาเกี่ยวกับมิติเวลาที่จะพลิกชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาล ผมว่าหนังใช้ได้ครับ ทำออกมาได้น่าติดตามในระดับหนึ่ง ว่าตามจริงแล้วหนังอาจจะไม่ได้กลมกล่อมไปเสียทั้งหมดนะครับ บทก็อาจไม่ได้เข้มข้นหรือชวนว้าวอะไร และการตัดสินใจบางอย่างของตัวละครก็อาจทำให้รู้สึหงุดหงิดอยู่บ้าง และผมเชื่อว่าคอหนังไซไฟหรือคนที่ชอบดูหนังเกี่ยวกับลูปเวลาน่าจะเคยเห็นพล็อตแบบนี้มาเยอะจนสามารถเดาอะไรๆ ได้แล้ว แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ หนังก็ยังดูเพลินอยู่ครับ สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกคือ หนังโอเค ดูได้เรื่อยๆ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ถึงกับชอบอะไรมากมาย มันรู้สึกเหมือนว่าหนังยังไม่มีพลังเท่าที่ควร ประมาณว่าจุดเด่นแบบเต็มๆ ในหนังยังไม่ค่อยชัดครับ…

The Girl with the Dragon Tattoo (2011) พยัคฆ์สาวรอยสักมังกร

ไม่รู้ว่าจะได้ดูภาคต่อของฉบับนี้เมื่อไรน่ะนะครับ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยภาคแรกนี่ก็ถือว่าทำออกมาได้เข้มข้น นำเสนอเรื่องราวได้ดี และคู่ควรแก่การดูซ้ำอยู่เหมือนกัน พล็อตหลักๆ เลยก็ว่าด้วยนักหนังสือพิมพ์หนุ่ม (Daniel Craig) ที่ตามสืบผู้หญิงที่หายตัวไปเมื่อ 40 ปีก่อน และผู้ที่ช่วยเขาในการตามสืบเรื่องราวนี้ก็คือแฮคเกอร์สาวพังค์นามว่า ลิสเบธ (Rooney Mara) หนังดัดแปลงจากนิยายไตรภาคสุดโด่งดังของ Stieg Larsson ผู้ล่วงลับ โดยได้ Steven Zaillian (Schindler’s List, Mission: Impossible และ American Gangster) มาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ ซึ่งก็ดัดแปลงได้น่าพอใจเลยล่ะครับ แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น การที่สไตล์ของหนังมันออกมาอึมครึม เข้มข้น ได้รสขมๆ…