Whiplash Damien Chazelle หนังดราม่าน้ำดีที่ทั้งหนักแน่นและเรียบง่ายในการเล่าเรื่อง การแสดงขั้นท็อปฟอร์มระดับอาจเข้าชิงออสการ์ของตัวละครนำทั้งสอง และการจับประเด็นห้วงชีวิตของการอยากก้าวพ้นจากสามัญชนธรรมดาไปสู่จุดสุดยอดบนเวทีอันเป็นที่จดจำ เป็นตำนาน ซึ่งต้องแลกด้วยชีวิตจิตใจ หยาดเหงื่อแรงกาย เลือดเนื้อที่หนังเฉือนแล่ชีวิตของไอ้หนุ่มนักฝันกับอาจารย์โหดซาดิสท์ออกมานำเสนอได้อย่างเข้มข้นทรงพลังและตรึงตราใจเอามากๆ Whiplash ผลงานของผู้กำกับ เดเมียน แซซเซลล์ ทีเจ้าตัวเผยว่าต้องการให้หนังที่ว่าด้วยนักดนตรีแจ๊ซเรื่องนี้เต็มไปด้วยอารมณ์แอคชั่นจนเลือดสูบฉีด แอนดรูว์ เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ด้านการตีกลองและมีความทะเยอทะยานอยากไปไกลถึงระดับตำนาน ต้องมาพบกับการฝึกซ้อมสุดหฤโหดที่พร้อมจะบดขยี้ทั้งกำลังใจและกำลังกายจากครูระดับเซียนจอมซาดิสท์อย่าง เฟล็ตเชอร์ การฝึกซ้อมของเฟล็ตเชอร์ที่เต็มไปด้วยความกดดัน ความรุนแรงที่กระแทกทางอารมณ์ถึงขนาดปาเก้าอี้ใส่หัวจากตีกลองผิดจังหวะ หรือการให้ตีจนมือเหวอะเลือดอาบกลอง ปะทะกับลูกบ้าและความทะเยอทะยานจนเข้าขั้นเสียสติเกินคนทั่วไปจะทนไหวของแอนดรูว์ ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังที่น่าขนลุกและเฮี้ยนเกินกว่าหน้าหนังหรือคำโปรยว่าเป็นหนังสู้เพื่อฝันอันสวยงามไปไกลหลายเท่านัก ซึ่งสิ่งที่ดีที่สุดคือการที่หนังผลักตัวละครทั้งสองไปไกลในทางที่พวกเขาเป็นอย่างสุดโต่งโดยที่ไม่ใช้บทสรุปง่ายๆ ตามขนบดีงามใดๆ มาตีกรอบจนลดค่าพวกเขาลงไป นี่จึงเป็นหนังที่มีเลือดเนื้อพลังชีวิตเต็มเปี่ยมถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้มีบทสรุปสำหรับคนดูทุกคน หนังเพียงแค่นำเสนอทางเลือกของคนในรูปแบบหนึ่งที่เต็มไปด้วยราคาที่ต้องจ่ายอย่างสาหัสเพื่อความหมายของชีวิตเฉพาะตัวที่แสวงหาโดยไม่ประนีประนอมใดๆ คนดูอาจไม่ได้เห็นด้วยกับทางเลือกของตัวละคร…
Category: รีวิวหนัง
Nam-Mun-Prai – น้ำมันพราย
น้ำมันพราย (ดุลยสิทธิ์ นิยมกุล / Thailand / 2014 / B-) E+15 for Enjoy ถึงมันจะไม่เกี่ยวกันแต่เรื่องนี้ก็ทำให้นึกถึง Under the Skin ซึ่งผีคือเอเลี่ยน กิ๊บซี่ คือ Scarlett Johansson ส่วน แมทธิว รับบทเป็น หินตาหินยาย แข็งสุดๆ เรื่องราวของ แพร สาวสวยที่แม่ซึ่งเป็นกำลังใจเดียวในชีวิตกำลังจากไป แพรต้องแบกรับภาระทางการเงินขณะที่ต้องระวังตัวในสังคมที่ผู้ชายกดทับ ไม่ว่าจะเป็นลุงแกที่อาศัยอยู่บ้านเดียวกันและเจ้านายชายแก่ที่หวังในเรือนร่าง แต่แล้วคืนหนึ่งแพรก็โดนเพื่อนสนิทมอมเบียร์ผสมน้ำมันพรายจนวิญญาณสิงร่างและทำร้ายเพื่อนจนตายกลายเป็นปริศนา และพอมีเซ็กส์กับคนที่ไม่ยินยอมผีก็จะใช้ร่างนางเอกกลายเป็นผีหลอกคนพวกนั้นจนตายแล้วตายเล่า สุดท้ายเธอตั้งใจใช้ความแปลกประหลาดนี้เข้าเล่นงานชายหนุ่มที่เคยไว้ใจที่สุดด้วยการยอมมีเซ็กส์ด้วยแล้วให้ผีหลอก!!!!!!!! แค่นี้ก็จี้มากๆ แล้ว จริงๆ แล้วมันเป็นหนังผีที่มีเส้นเรื่องตำรวจสืบสวนสอบสวนชัดเจนแต่มันบางเบาอยู่มากเหมือนมีแค่เพื่อรองรับในการเล่าที่มาที่ไปของผีผ่านหมอผีอีกที และอีกบทบาทคือเป็นผู้ส่งสาส์นถึงนางเอกเท่านั้น แต่ก็ยังทำตัวลึกลับซ่อนเงื่อนตลอดเวลา แล้วยิ่งสืบเรื่องที่หนังบอกให้คนดูรู้ก่อนที่ตำรวจรู้ยิ่งเปลือยเปล่าเข้าไปใหญ่ มุกผีหลายๆ เหตุการณ์มันไม่ชัดเจนในจุดผีเข้าผีออก ผีอวตารจนเกิดความสงสัยอยู่มาก และผี CGI เพื่อ 3D หลายครั้งก็ไม่ถึงกับเนียน แต่แปลกประหลาดดีนะ และเรามีอารมณ์ร่วมเพราะมันไม่ใช่ผีโป๊งชึ่งเสมอไป ซึ่งบางฉากก็เล่นกับความเงียบและเสียงบรรยากาศได้เหมาะเจาะทีเดียว แน่นอนว่าส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่บทที่กลมกล่อมหรือการกำกับที่ลงตัวซึ่งยังกระท่อนกระท่อนอยู่มากถึงแม้ว่าจะมีจุดน่าสนใจและทำได้น่าพอใจในบางครั้ง สิ่งที่ชอบสุดๆ คือจุดจบของคนที่ถูกผีหลอกและผีที่มาหลอกคนกับภารกิจทิ้งท้ายที่น่าติดตาม ซึ่งเท่าที่จำได้ยังไม่เคยเห็นในหนังไทย… เซ็กส์ซีนท่าไหนเห็นอะไรเป็นไงบ้างไม่ขอสปอยล์ แต่เป็นเซ็กส์ซีนที่มีความหมายสมเหตุสมผลของการมีอยู่ซึ่งสนับสนุนประเด็นเรื่องราวเป็นอย่างดี เป็นหนังผีขายเซ็กส์ที่เรียกร้องความสนใจให้ผู้ชายเข้าไปดูเพื่อสั่งสอนศีลธรรมก็ว่าได้ โดนรวมก็เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องใช้คำว่าเสียดาย ซึ่งทำให้นึกถึง ‘รักเราเขย่าขวัญ’ หนังผีโรแมนติกในปีนี้ที่มีจุดพิเศษให้เราชอบได้เช่นกันแต่เสียดายเพราะทั้งสองเรื่องมันสามารถดีได้กว่านี้มากๆ… จากฉากจบเหมือน น้ำมันพราย จะมีภาคต่อนะ…รอดูๆ และหวังว่าจะพัฒนาส่วนผสมไอเดียที่น่าสนใจนี้ให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม
Ruk-Pa-Sa-A-Rai – รักภาษาอะไร
รักภาษาอะไร Myanma in Love in Bangkok (ณิชยา บุญศิริพันธ์ / Thailand, Myanmar / 2014) หนังเปิดเรื่องมาภาพบรรยากาศพื้นๆ ปกติๆ ภาพชีวิตประจำวันการทำงานคัดกุ้งคัดปลา-พักกลางวันของแรงงานชาวพม่าในท่าเรือที่เรามักจะเห็นกันในภาพข่าวหรือสารคดีเกี่ยวกับแรงงานคนต่างด้าว ซึ่งเป็นฉากเปิดตัวพระเอก แต่มันเป็นแบบที่เราไม่เคยเห็นและไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นในหนังโรแมนติกคอเมดี้เรื่องไหนของไทย จนแอบหวั่นว่าจะดีเหรอที่เปิดมาแบบนี้ แต่ด้วยความที่มันสร้างความแปลกตาและความแปลกใหม่สำหรับหนังแนวนี้ได้น่าสนใจมากๆ ก็ทำให้เราได้แต่เอาใจช่วยรอดูส่วนต่อๆ ไป เรื่องราวการดำเนินเรื่องไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ถึงขั้นซ้ำซากในช่วงแรกๆ ที่อาศัยความบังเอิญแบบโคตรบังเอิญสร้างสถานการณ์ให้พระเอกแรงงานชาวพม่าคนซื่อกับนางเอกคนไทยช่างสักสาวสวยเปรี้ยวซ่าให้มาเจอกันบนรถเมล์ ทั้งการแสดงและสกอร์ดนตรีประกอบเหมือนอ้างอิงมาจากละครไทยสักเรื่อง แต่ดีที่นักแสดงทั้งสองมีเสน่ห์ส่งถึงเราได้มากๆ จุดนี้จึงผ่านเลยไป แต่ส่วนย่อยอย่างการแสดงของตัวประกอบกระเป๋ารถเมล์และสกอร์ดนตรีประกอบที่น่าจะเป็นตัวชูรสได้ดีกลับไม่พอดีเหมือนดูพยายามให้ตลกแถมยังทำลายบรรยากาศความสมจริงที่ใช้มาตั้งแต่ต้นเรื่องที่ผ่านมาซึ่งเปิดมาได้น่าสนใจดีนั้นเลือนหายไปเสียหมดกลายเป็นละครซิทคอมบนจอหนังไปในทันที แต่สักพักก็เริ่มรู้สึกกับหลายช่วงของหนังว่าการเลือกเล่าด้วยลักษณะแบบนี้มันทำให้นึกถึงหนังรอมคอมไทยยุคเก่าก่อน อย่างเช่น…
Fury – วันปฐพีเดือด
Fury (David Ayer / USA / 2014) หนังเกริ่นแต่แรกว่าเป็นเหตุการณ์เกิดในช่วงที่ฮิตเลอร์เกนฑ์เด็กผู้ชายกับผู้หญิงมารบซึ่งมันน่าสนใจดีเพราะส่วนตัวยังไม่เคยเห็นในหนังเรื่องไหนที่จะหยิบยกมาเล่า แต่ไปๆ มาๆ คนทำไม่ได้นำพาจุดนี้มาขยี้ขยายจุดนี้ให้เป็นประเด็นไคลแม็กซ์ที่คาดว่าจะได้เห็นซึ่งเราติดกับตั้งตารอชมมันมาแล้วตั้งแต่ต้น แต่ก็ดีที่อย่างน้อยก็เป็นตัวประกอบในเหตุการณ์ช่วยเล่าพัฒนาการตัวละครได้อยู่บ้าง เออ..แต่ถ้าดูไม่ผิดมันก็ถูกหยิบมาเป็นเหตุผลในฉากไฟนอลอยู่เหมือนกัน ตัวละครสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาเรื่องราวมากที่สุดก็คือตัวละครของ Logan Lerman ที่ตอนแรกคาดว่าจะแค่สมทบเล็ก แต่จริงๆ แล้วโดดเด่นกว่า Shia LaBeouf ที่เล่นบทเป็นทหารผู้ศรัทธาในพระเจ้าเสียอีก ส่วนตัวละครของ Brad Pitt ก็เหมือนเป็นอาจารย์สอนชีวิตในสนามรบกลายๆ ให้ตัวละครของเลอร์แมน ให้ฝึกมือเรียนรู้ความเกลียดชังศัตรูจากแต่แรกที่เป็นเสมียนหน่อมแน้มโปแตสแตนท์ในสมรภูมิที่ไม่กล้าฆ่าฝ่ายตรงข้ามให้กลายเป็นหนึ่งในแขนขาที่พึ่งของทีมที่นำกองกำลังรถถังไต่ตะขาบยึดเมืองในเยอรมันไปเรื่อยๆ พล็อตประมาณนี้มันก็เลยดูไม่มีอะไรพิเศษไปด้วย ส่วนที่ทำไม่ได้ให้ชอบหนังไปมากกว่านี้คือจุดเปลี่ยนของตัวละคร…
John Wick – จอห์นวิค แรงกว่านรก
John Wick (David Leitch, Chad Stehelski / 2014) เห็นหลายคนบอกว่าสนุกโคตรก็เลยตั้งเป้าไว้สูงพอสมควร ที่หวังว่าจะฟินถึงยอดตาลก็ได้แค่ประมาณยอดมะพร้าว มันไม่ค่อยมีหลักใหญ่ใจความอะไรให้รู้สึกพิเศษน่าตื่นตาตื่นใจสักเท่าไหร ทั้งการไปไกลของพล็อตเรื่องและการดีไซน์ฉากแอคชั่น แต่ในความพล็อตของมันก็ยังน่าชื่นใจ มันมีจุดเล็กจุดน้อยที่ทำให้น่าติดตามได้เพลินมาก อย่างเช่น ทีมบริษัทเก็บกวาดศพเนี้ยบนิ้งหลังการฆ่าบริการถึงที่ หน้าลุงหัวหน้าทีมตอนแกถอดหมวกนี่ดูฉมังเก๋ากวนยวนตีนดีจริงๆ รวมถึงพนักงานต้อนรับโรงแรมมาดนิ่งก็เป็นตัวเรียกอารมณ์ขันได้ดี ตัวละครเล็กๆ พวกนี้มันช่วยสร้างเสน่ห์ให้โลกนักฆ่าได้มีสีสันมาก และกฎบังคับบริเวณสั่งห้ามฆ่า มันเป็นเงื่อนไขที่น่าตื่นเต้นและเล่นแง่มุมของอำนาจเงินที่เหนือกว่าจรรยาบรรณและมิตรภาพได้สนุกดี เป็นธรรมดาที่หนังแอคชั่นมักมีช่องโหว่ สำหรับเรื่องนี้เพื่อให้พระเอกไม่ตายทั้งที่บางครั้งอยู่ในจังหวะที่ฆ่าด้วยปืนนัดเดียวได้ง่ายๆ แต่ตัวร้ายกลับรีรอและยั้งมืออย่างสมควรตาย และเสียดายที่บทสรุปของตัวร้ายบางคนก็เร็วไปหน่อย รวมๆ แล้วก็สนุกไล่กันจริงยิงกันมันส์ไม่หยอกทีเดียว นอกจากมาดเท่ๆ ของเฮีย Keanu Reeve แล้ว ก็จะได้เห็นมาดชั่วๆ…
Maze Runner – วงกตมฤตยู
The Maze Runner (Wes Ball / 2014 / B+) E+20 for Enjoy ตลอดระยะเวลาสามปีจะมีเด็กหนุ่มถูกส่งมายังท้องทุ่งใจกลางเขาวงกตมฤตยูเดือนละคนโดยที่พวกเขาจำอะไรไม่ได้เลยนอกจากชื่อของตัวเองที่จะจำได้ในสองสามวันหลังจากที่มาถึง เริ่มตั้งแต่คนแรกคือ ‘อัลบี้’ หนุ่มผิวสีที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียวในช่วงเดือนแรก และในฐานะผู้มาถึงคนแรกเขาจึงกลายเป็นผู้นำไปโดยปริยาย เมื่อเวลาผ่านไปคนใหม่ก็ทยอยเข้ามามากขึ้นเดือนละคนๆ และเด็กใหม่ที่เพิ่งมาถึงจะถูกเรียกว่า ‘กรีนี่’ ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำงานเพื่อความอยู่รอดและพยายามหาวิธีออกไปจากที่นี่ให้ได้จึงต้องมี ‘นักวิ่ง’ ทีมทำภารกิจสำรวจเขาวงกตที่ต้องปิดผลการสำรวจไว้เป็นความลับ นำทีมโดย ‘มินโฮ’ หนุ่มเกาหลีเอเชียเพียงหนึ่งเดียว เป็นคนที่เข้าไปสำรวจในวงกตเพื่อศึกษาพื้นที่ของเขาวงกตที่เต็มไปด้วยอันตรายที่ลึกลับซับซ้อนและการจู่โจมของ ‘กรีฟเวอร์’ สิ่งมีชีวิตกึ่งจักรกลคล้ายแมงป่องหัวล้านขนาดใหญ่ที่คอยขย้ำทุกคนที่ผ่านเข้ามาเพื่อหาทางออกแต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เคยเจอ จนกระทั่งวันหนึ่ง ‘โทมัส’ กรีนี่คนล่าสุดถูกส่งมาทำให้กฎกติกาของท้องทุ่งเปลี่ยนแปลงไป…
Black and White – คู่มหาประลัย ไวรัสล้างโลก
Black & White: The Dawn of Justice (Tsai Yueh-Hsun / China, Taiwan / 2014) ไม่เคยดู 2 ภาค ก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวโยงอะไรกันเท่าไหร่ยังไงบ้าง แต่เอาแค่สำหรับภาคนี้แล้วก็สนุกดีนะ ถึงจะสนุกแบบเบื่อบ้างสนุกบ้างก็ตามที คือพล็อตมันซ้ำซากแหละ แล้ววิธีการเล่าสืบสวนสอบสวนก็เก้กังพอสมควร และถึงจะมีจุดความสัมพันธ์ระหว่างหลายตัวละครที่มันดูซับซ้อนอยู่ซึ่งสามารถปะทุ Dilemma ให้ดุเดือดหรืออำมหิตได้กว่านี้มากๆ แต่สุดท้ายการคลี่คลายมันก็ยังยั้งๆ มือ อยู่ จะสุดก็ไม่สุด จะสะเทือนใจก็ไม่ถึง…
Big Hero 6 – บิ๊กฮีโร่ 6
Big Hero 6 อีกขั้นของอะนิเมชั่นค่ายดิสนีย์ ที่ผมบอกว่าอีกขั้นเพราะเรื่องนี้ถือเป็นอะนิเมชั่นที่สามารถก้าวผ่านคำว่าอะนิเมชั่นสำหรับเด็กอย่างเดียว มาเป็นหนังฟอร์มยักษ์ของครอบครัวไปแล้ว เพราะโดยรวมตัวหนังมีทั้งแอคชั่น ตลก ดราม่า โดยที่ทุกอย่างผสานกันได้ลงตัวมากๆ เกินคำว่าอะนิเมชั่นที่เรื่องก่อนๆเคยทำไว้ ถือว่าเป็นมาตรฐานใหม่ของค่ายดิสนีย์ อีกอย่างคือเป็นอะนิเมชั่นของมาร์เวลเรื่องแรกด้วย (หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Big Hero 6 เป็นComic การ์ตูนของมาร์เวลมาก่อนแล้วดิสนีย์เลือกที่จะดึงเรื่องราวนี้มาทำเป็นอะนิเมชั่นขึ้นสู่จอยักษ์) เนื้อเรื่องคร่าวๆจะเป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ขื่อว่าฮีโร่ ซึ่งเข้าได้สูญเสียพี่ชายไปในเหตุไฟไหม้ห้องแลปในมหาลัย ซึ่งเข้าได้มาค้นพบทีหลังว่าเหตุไฟไหมครั้งน้าเป็นการจัดฉากเพื่อขโมยสิ่งประดิษฐ์นั่นเองฮิโร่ต้องหาความจริงให้ได้ โดยทีมีเจ้าหุ่นยนต์เบย์แมกซ์ที่พี่ชายของเค้าสร้างไว้ มาช่วยนั่นเอง ในระหว่างทางก็ได้เพื่อนๆของพี่เค้า สืบหาความจริง ซึ่งพอรวมทีมกันได้ทั้งหมดก็มีครบ 6 คนพอดีนั่นเอง (จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง)ส่วนตัวหนังส่วนอื่นๆขอไม่เล่าแล้วกันนะครับเดี๋ยวหมดสนุก บอกได้แค่ว่าเรื่องนี้มีเอ็นเครดิตที่เซอร์ไพร์แฟนๆมาร์เวลเป็นที่สุด สรุปเป็นอะนิเมชั่นน้ำดี ที่มีสิทธิ์เข้าชิงออสการ์สาขาอะนิเมชั่นยอดเยี่ยมของปี…
Exodus – เอ็กโซดัส ก็อดส์ แอนด์ คิงส์
EXODUS จากพระคัมภีร์ สู่ จอภาพยนตร์ ตามในพระคัมภีร์ ครั้งก่อนคริสตกาลชาวยิวก่อนจะรวมชาติและถูกขนานนามว่าเป็นชาวอิสราเอล พวกเขาจำนวนมากถูกต้อนไปเป็นทาสในอียิปต์ ถูกใช้แรงงานและทารุณกรรมอย่างโหดร้ายเป็นเวลาหลายชั่วอายุคน แต่ถึงกระนั้นชาวยิวก็ไม่ได้ละทิ้งศรัทธาที่มีต่อพระเจ้า และสุดท้ายพระเจ้าก็ไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา พระเจ้าได้สื่อสารและมอบหมายให้โมเสสกอบกู้ชนชาติยิวขึ้นมาจากการกดขี่ทรมานของชาวอียิปต์ และได้มอบอำนาจผ่านไม้เท้าเลี้ยงแกะให้โมเสสแสดงอัศจรรย์หลายประการ ทำให้โมเสสพาชาวยิวอพยพออกจากฝั่งอียิปต์กลับไปยังคานาอันดินแดนมาตุภูมิจนสำเร็จ โดยใช้เวลากว่าสี่สิบปี เมื่อเรื่องราวตามหน้าประวัติศาสตร์ถูกตีแผ่และขยายความขึ้นมาเป็นอภิมหาภาพยนตร์ที่กำกับโดย ริดเลย์ สก็อตต์(ผู้ซึ่งเคยกำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมตุ๊กตาทองอย่างกลาดิเอเตอร์มาแล้ว หรือสร้างภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำอย่างคิมดอม ออฟ เฮเว่นที่ตีแผ่ประวัติศาสตร์การถือครองพื้นที่กรุงเยรูซาเล็มในประวัติศาสตร์โลกได้อย่างน่าชื่นชม) บอกได้ตั้งแต่ก่อนเข้าชมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมมากๆที่สุดอีกเรื่องหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งคำกล่าวนี้ก็ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใดหลังจากที่ได้เข้าชม…. “สมบูรณ์แบบ และไร้ที่ติ” คงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดหากจะให้จำกัดความสั้นๆให้กับการกำกับภาพยนตร์ของคุณปู่ ริดเล่ย์ สก็อตต์วัย77ปี ผู้ที่สร้างตำนานให้กับวงการภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่องอาทิกลาดิเอเตอร์(ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมAcademy Awards) คิงดอม…
Possession of Michael King – ดักวิญญาณดุ
The Possession of Michael King (David Jung / 2014) ด้วยความที่เป็นหนังกึ่งๆ สารคดีปลอมและแฮนด์เฮลด์ทั้งเรื่องเป็นเรื่องที่ 3 ของหนังแนวนี้ที่เข้าฉายโรงในไทยปีนี้ถัดจาก Mr.Jones และ As Above, So Below นอกจากถ่ายแฮนด์เฮลด์แล้วมันยังมีช็อตกล้องวงจรปิดที่นำมาใช้ในลักษณะคล้ายกับ Paranormal Activity ซึ่งด้วยวิธีการทั้งหมดทั้งมวลนี้เรารู้สึกว่าหนังมันซ้ำซาก ไม่แปลกใหม่ และไม่น่าสนใจด้วยการเล่า คือช่วงแรกๆ ไปจนถึงกลางเรื่องก็คิดว่าถ้าเล่าอย่าง Magic Magic มันอาจจะเล่าได้ไหลลื่นสนุกกว่านี้ แต่พอมาถึงช่วงท้ายก็..เออ…มันเล่าแบบนี้นี่แหละดีแล้ว…