Ditto คือหนังรีเมกชื่อเดียวกันในปี 2000 ที่ตอนนั้นมันได้แจ้งเกิดให้นักแสดงอย่าง คิมฮานึล และ ยูจีแท มาในตอนนี้ได้นักแสดงรุ่นใหม่ นำมาโดย ยอจินกู จากซีรีส์ Hotel Del Luna และ โจอีฮยอน หรือ คุณหัวหน้าห้อง ที่เคยฝากผลงานไว้ใน All of Us Are Dead ร่วมด้วย คิมฮเยยุน, นาอินอู และแบอินฮยอก
ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ คิมยง นักศึกษาในปี 1999 ที่เข้าเรียนในปี 1995 เขาได้เจอกับรักแรก และได้บังเอิญได้ใช้วิทยุสมัครเล่นและได้ติดต่อสื่อสารกับ มูนี นักศึกษาในปี 2021 ที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เมื่อได้คู่ได้พูดคุยเรียนรู้กันและกันจนได้รู้เรื่องราวบางอย่างที่ข้ามกาลเวลา
ต้องบอกก่อนว่าเราไม่เคยดูต้นฉบับในปี 2000 และก็ไม่รู้ด้วยว่ามันเหมือนหรือแตกต่างจากฉบับปัจจุบันในปี 2023 แค่ไหน เพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้เปรียบเทียบและขอพูดถึงเวอร์ชันนี้เท่านั้น
Ditto เป็นหนังที่มาในแนวหนัง รอมคอมดราม่า ที่เชย น้ำเน่าแบบสุด ๆ แต่มันก็เพลิน สนุกและน่ารักทำให้ยิ้มได้เช่นกัน มันให้อารมณ์ที่ครบถ้วน ทั้งสุข สนุก น่ารัก ซึ้ง เศร้า ดราม่า ที่ในภาพรวมมันไม่ได้คาดเดายาก แถมยังไม่ได้มีอะไรพลิกเรื่องราวเท่าไหร่ มันไม่ได้เหนือการคาดเดาอะไรขนาดนั้น แต่มันมีจังหวะการเล่าที่ดี รู้ว่าจังหวะไหนควรใส่อะไร จังหวะไหนควรขยี้อะไร เราจะได้เห็นโมเมนต์การกุ๊กกิ๊ก จีบกัน มีมุก เหมือนหนังรักวัยรุ่นทั่วไป มีซีนน่ารักสดใสเต็มไปหมดให้คนดูได้เขิน ได้ฟิน ได้หลุดหวีดจนส่งเสียงออกมากลางโรง หรือจะเป็นซีนดราม่าที่ปูเข้ามาด้วยจังหวะที่พอเหมาะพอเจาะ ก็ยังคงเล่าได้ไหลลื่นไม่ได้รู้สึกขัดอารมณ์กับที่ผ่านมาแต่อย่างใด แต่เรื่องราวหลายอย่างในหนังมันก็เกิดขึ้นง่ายไป ง่ายแบบลงล็อคพอดีเป๊ะจนเกินไป จนบางครั้งรู้สึกว่าเรื่องมันไหลลื่นเกินไปเสียด้วยซ้ำ ทั้งในแง่สุขและเศร้า
ตัวหนังมีคาแรคเตอร์แต่ละตัวละครคือชัดเจนมาก และหนังก็พาเราไปแนะนำแต่ละตัวละครได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนไม่ต่างกัน การแสดงของพวกเขาก็ดูเล่นใหญ่ ชัด ชัดแบบที่ว่าคนปกติน่าจะไม่ได้แสดงออกอะไรกันแบบนั้นเท่าไหร่ แต่ท่ามกลางความเล่นใหญ่เหล่านั้น ตัวละครก็แสดงกันได้น่ารักชิบหา*ฝ่ายหญิงอย่าง คิมฮเยนุน ในบท ฮอนซอล ก็ทำให้เราตกหลุมรักเหมือนที่ตัวละคร คิมยง (ยอจินกู) ตกหลุมรักเลย คือใครเจอแบบในหนังก็ต้องรักอะ และยิ่งการแสดงของคุณหัวหน้าห้อง โจอีฮยอน ในบท มูนี โอ้โหน่ารักมากกกกกกก โดนน้องตกแบบตกแล้วตกอีก ทั้งน่ารัก ทั้งสวยแบบส๊วย!
แต่ท่ามกลาวความสดใสน่ารักเพลิดเพลินของเรื่องราว ก็มีส่วนที่น่าเสียดายอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะเหมือนหนังจะไม่ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ มากเท่าที่ควร เช่นเรื่องราวของยุคสมัยที่แตกต่างกัน น่าจะมีอะไรนำเสนอออกมาได้มากกว่าที่หนังนำเสนอ ทั้งความต่างของภาษา วัสดุอุปกรณ์ในแต่ละยุค หรืออย่างเรื่องดีเทลที่หนังปูมาแบบเรื่องช่วงงานหายาก แถมหนังยังไม่ใส่ใจรายละเอียดเล่าเหตุการณ์ต่อจากฉากการตัดสินใจสำคัญของตัวละคร ว่ามันยังไง ทำไมถึงเป็นแบบนั้น หนังดันเลือกที่จะข้ามมาเล่าบทสรุปของเรื่องราวเลย และการที่เลือกเล่าแบบนี้มันเหมือนกลายเป็นการตัดสินใจตัวละครอื่นไปในด้านไม่ดีไปเลย คือต่อให้ไม่ดีจริง ก็ควรเล่าเรื่องขยายความเหตุการณ์สำคัญเหล่านั้นด้วย ยังมีความไม่สมเหตุสมผลอีกมากมายที่ถูกตั้งคำถามเช่นกัน
สรุปแล้วในภาพรวมของ Ditto – ปาฏิหาริย์รักข้ามเวลา เป็นหนัง รอมคอมดราม่า ที่ให้อารมณ์ได้ครบถ้วน ทั้งน่ารัก ซึ้ง สุข เศร้า เคล้าดราม่า ถึงแม้ก็ยังมีจุดมากมายที่ยังเกิดข้อสงสัยและคำถาม แต่มันก็ยังสนุกและดูได้เพลิดเพลิน ที่สำคัญเติมเต็มและอิ่มเอมหัวใจไม่ใช่เล่นเลย