Elysium ถือเป็นก้าวต่อมาที่ใหญ่พอตัวของผู้กำกับ Neill Blomkamp หลังจากเกิดเต็มๆ ไปกับ District 9
โดยรวมแล้วผมก็ชอบนะครับ หนังออกมาสนุกน่าติดตามไม่น้อย แม้พลังหรือความแจ่มมันจะไม่ไหลมาเท่า District 9 (ที่เรื่องนั้นพูดได้เต็มปากว่าน่าติดตามตลอด ไม่มีช่วงอืดนิ่งเลย) แต่ก็ถือเป็นงานแอ็กชัน+ไซไฟผสมกลิ่นอายเกรดเอๆ บีๆ ที่เข้าท่าเรื่องหนึ่ง
พล็อตถือว่าพิมพ์นิยมในระดับหนึ่งครับ ว่าด้วยโลกในอนาคตที่เหลื่อมล้ำ มีคนรวยมากๆ ได้ไปอยู่ใน “เอลลิเซียม” โลกนอกอวกาศที่คุณภาพชีวิตดี สะอาดสะอ้าน ส่วนคนที่จนหรือมีโอกาสน้อยก็ต้องอยู่บนโลก ซึ่งโลกก็กำลังเน่าน่ะครับว่ากันง่ายๆ เลย สังคมออกแนวเฟะ ขื่อแปความหมายน้อยลง แต่กระนั้นก็ยังมีชาวโลกที่มีความหวังว่าสักวันจะได้ไปอยู่ในที่ดีๆ อย่างเอลลิเซียมกับเขาบ้าง แม้ความหวังมันจะลางเลือนเต็มทีก็ตาม
Matt Damon รับบทแม็กซ์ ชาวโลกที่ฝันตั้งแต่เด็กว่าจะได้ไปเอลลิเซียม แต่พอโตขึ้นก็เข้าใจความจริงล่ะครับว่าคนที่ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอย่างเขาจะไปมีโอกาสอะไร เลยได้แต่ก้มหน้าทำงานแบบไร้ความหมายไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง โอกาสที่จะทำให้เขาไปเอลลิเซียมก็มาถึง และเขาก็ตั้งใจว่าจะใช้โอกาสนี้นี่แหละ ทำให้ทุกคนบนโลกมีสิทธิ์ในเอลลิเซียมแบบเท่าเทียมกัน
ครับ มันคือหนังแนวปลดแอกโลกอนาคตจากกฎโหดๆ การปกครองกดขี่ หรือกติกาที่ไม่เป็นธรรมนั่นเอง ซึ่งมันก็ไม่ใช่ของใหม่ และการนำเสนอในเรื่องมันก็ไม่ได้ใหม่อะไรมากมาย แต่ถ้าถามว่าเพลินไหม ก็เพลินอยู่ล่ะครับ มันอาจมีช่วงเรื่อยๆ บ้างในตอนต้นไม่ว่าจะการปูพื้นหรือช่วงกลางๆ ที่สามารถซอยได้สั้นอีกหน่อย
แต่โดยรวมก็สนุกครับ Effect นับว่าเวิร์ก ฉากในเอลลิเซียมก็ดูล้ำอนาคตดี และที่ผมชอบมากหน่อยคือฉากต่อสู้ตอนไคลแม็กซ์ที่มีดอกซากุระโปรยนั่นแหละครับ จัดว่าเข้าใจคิดมาก คิดดูครับ ฉากนั้นคนใส่เกราะเหล็กสู้กัน แบ็คกราวน์มันเต็มไปด้วยสีเงินของเครื่องจักร แต่มีกลีบซากุระสีชมพูโปรยตัดตลอด สวยดีครับ
แต่ที่ออกจะแปลกใจนิดๆ คือ ตัวหนังน่ะโอเค แต่ดาราไม่ค่อยเด่น ไม่ว่าจะ Damon ที่แม้จะแสดงดี แต่บทก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ทำอะไรมากขนาดนั้น และ Jodie Foster ยิ่งแล้วใหญ่ครับ ตอนแรกนึกว่าจะเด่นกว่านี้ แต่ไปๆ มาๆ ดันไม่เด่นมาก พอๆ กับ William Fichtner
สุดท้ายคนที่น่าจดจำจริงๆ คือ Sharlto Copley พระเอก District 9 คราวนี้พลิกมารับบทร้ายเป็นมือสังหารที่โหดเหี้ยม พี่แกเล่นได้ร้ายกาจดี และอีกคนก็คือ Diego Luna ในบทฮูลิโอ เพื่อนสนิทของแม็กซ์ที่ถือว่าเป็นเพื่อนแท้ไม่กี่คน บนโลกที่เหลวแหลกนั้น
รายได้ถือว่าโอเคครับ ลงทุนราว $115 ล้าน ได้คืนมาจากทั่วโลกราว $286 ล้าน ถือว่าพอโปะทุนพร้อมกำไรนิดหน่อย
ถ้าว่าตามจริง จนถึงตอนนี้ นี่คืองานที่ผมชอบน้อยที่สุดของ Blomkamp รองจาก District 9 และ Chappie แต่ที่ว่าน้อยนี่ก็ไม่ได้น้อยมากกว่ากันมากมายครับ หมายถึงถ้าให้เรียงลำดับก็คงเรียงประมาณนี้ แต่หนังก็จัดว่าดูได้เพลินๆ สำหรับคอแอ็กชันไซไฟครับ เพียงแต่มันจะไม่ได้มันส์สุดขั้วเท่านั้นเอง
++++++++++++++++++++++++++
ถัดจากนี้สปอยล์ล่ะนะครับ ไม่อยากทราบข้ามไปเลย
ตอนดูจบผมก็แอบคิดเหมือนกันนะครับ ว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อ หลังจากชาวโลกทุกคนมีสิทธิ์ในเอลลิเซียมแล้ว
มันดูเป็นตอนจบที่แฮ้ปปี้นะ ชาวโลกได้ชัยชนะเหนือพวกเห็นแก่ตัวบนเอลลิเซียมที่เอาแต่เสวยสุข ปล่อยให้คนบนโลกกัดก้อนเกลือกินลำบากลำบนกันไป แต่นับจากนี้ไปชาวโลกจะย้ายมาเอลลิเซียมหมดเลยก็ได้ ไม่มีปัญหา… มันก็น่าจะดีนะ
แต่อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่า แล้วอนาคตของเอลลิเซียมจะเน่าแบบเดียวกับโลกหรือเปล่า
ธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติของสังคม และธรรมชาติของการอยู่ร่วมกัน มีอะไรน่าพิจารณาอยู่หลายประการ ^_^
สองดาวครึ่งครับ
(7/10)
