หลังจากที่คว้าออสการ์ตัวแรกของชีวิตที่รอคอยมาแสนนานไปได้หมาด ๆ แต่เส้นทางอาชีพของเขาก็หักเหไปพอสมควร เพราะความอารมณ์ร้อนก่อให้เกิดซีนตบในตำนานบนเวทีประกาศรางวัล “วิล สมิธ” ก็ได้ฤกษ์คัมแบ็กกลับมากับผลงานหนังดราม่าที่ถูกจับตาเป็นอย่างมากใน “Emancipation” ที่ประเด็นของหนังก็เข้าข่ายเป็นหนังรางวัลได้แบบสบาย ๆ แต่ว่างานชิ้นนี้วิลก็กอบกู้ชื่อเสียงและความเป็นมืออาชีพของเขากลับมาได้หรือไม่?
Emancipation ได้แรงบันดาลใจสร้างมาจากภาพถ่ายที่ชื่อว่า Whipped Peter ในปี 1863 ของ ปีเตอร์ ชายที่หลบหนีออกมาจากการเป็นทาสในยุคปลดแอก ด้วยการใช้ไหวพริบและพลังศรัทธาอันแรงกล้า รวมทั้งพลังความรักที่มีต่อครอบครัวของเขา แสวงหาอิสรภาพจากนักล่าทาสเลือดเย็นที่ไม่ยอดลดละความพยายามที่จะปลดปล่อยให้เขาได้รับอิสรภาพที่ควรมี และวีรกรรมของเขาได้เป็นประกายไฟเล็ก ๆ ที่ทำให้เกิดการต่อต้านแรงงานทาสให้แผ่ขยายไปทั่วอเมริกา
นี่เป็นผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “อองตวน ฟูคัว” จากหนังชุด The Equalizer ทั้ง 3 ภาค เขาถือว่าเป็นนักสร้างหนังผิวสีที่มีฝีมือจัดจ้านไม่ธรรมดา ในคราวนี้ต้องมาหยิบจับทำหนังดราม่าเนื้อหาเข้มข้น ที่เป็นการอ้างอิงจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่ทรงพลัง สัมผัสได้เลยว่าเขาทุ่มเทกับหนังเรื่องนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่ พิถีพิถันในขั้นตอนต่าง ๆ ในการร้อยเรียงและสื่อสารอารมณ์ของหนัง 2 ชั่วโมงเต็มนี้ออกมาได้จัดจ้าน
เพียงแต่ว่าแอบเสียดายไปสักหน่อย เพราะกลายเป็นว่า Emancipation เต็มไปด้วยองค์ประกอบที่มีแต่น้ำ ชิ้นเนื้อมีไม่ค่อยเยอะนัก แล้วมันก็ค่อนข้างเข้าทางสูตรสำเร็จของหนังดราม่าเกี่ยวกับทาสเยอะไปสักหน่อย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าหนังเรื่องนี้ค่อนข้างใช้สูตรเดิม และสื่ออารมณ์ออกมาเป็นหนังแนวทาสอเมริกันแบบเดิม ๆ ที่เราต่างเคยเห็นและเคยผ่านตามากันหลายเรื่องแล้ว โดยที่จังหวะของหนังนั้นก็ดำเนินเรื่อยไป ในแบบที่รู้ท่วงทำนองและทิศทางของมันได้หมด
หนังได้ “บิล คอลเลจ” จาก Exodus: Gods and Kings มาช่วยปลุกปั้นเรื่องให้ ก็ต้องบอกว่างานเขียนบทของเขาไม่ได้มีอะไรที่คมคายสักเท่าไหร่ ก็ใช้หยิบยืมใช็สูตรสำเร็จของหนังสไตล์นี้จากเรื่องอื่น ๆ มาปะปนเต็มไปหมด จึงเป็นที่น่าเสียดายที่ทำให้หนังหาเอกลักษณ์ในความเป็นตัวเองไม่เจอ นอกจากจะเป็นหนังทาสหนีตายทั่ว ๆ ไปเรื่องหนึ่ง ที่จับใส่ภาพแห่งความหดหู่และทารุณมากมายเข้าไป เพื่อบิวท์อารมณ์์ผู้ชมที่เหมือนจะไม่ได้อินสักเท่าไหร่ เพราะคอนเทนท์ค่อนข้างซ้ำเกินไป
หนังเกี่ยวกับทาสในลักษณะนี้ แทบไม่ต้องทำอะไรก็มีความทรงพลังอยู่ในตัวเองแล้ว และหนังเรื่องนี้ก็ใช้จุดนี้มาเป็นองค์ประกอบหลัก เพียงแต่เป็นการผลักดันและพยายามมากเกินไปสักหน่อย ทำให้ท่วงท่าและลีลาในหลาย ๆ ส่วนค่อนข้างจัดจ้านเกินไปจนไม่ค่อยอิน แต่หนังก็ยังมีองค์ประกอบงานสร้างอื่น ๆ มาช่วยทดแทนได้อยู่บ้าง โดยเฉพาะการดีไซน์มุมภาพและเทคนิคใช้สีของหนังเรื่องนี้ ที่เลือกเล่าเรื่องด้วยการโทนภาพขาว-ดำในการสื่อสารเป็นหลัก
แต่ก็อีกเช่นเคย เพราะว่าหนังทาสกับการใช้เทคนิคภาพขาว-ดำในการเล่าเรื่องนั้น ไม่ใช่อะไรที่ใหม่แต่อย่างใดเลย หลาย ๆ เรื่องก็เคยใชวิธีก่ารเล่าด้วยเทคนิคมาแล้วเช่นเดียวกัน ยิ่งตอกย้ำความไม่มีเอกลักษณ์ของ Emancipation ไปอีกจุดหนึ่ง และอย่างน้อย ๆ ก็ต้องชื่นชมการจัดแสงของหนังเป็นอีกองค์ประกอบที่ถือว่าทำได้ดี ยิ่งหนังต้องนำมาใช้ร้อยเรียงเป็นหนังขาว-ดำ ในส่วนนี้ถือว่าช่วยหล้อเลี้ยงในการสื่อสารอารมณ์ของหนังได้อย่างน่าพอใจระดับหนึ่ง
ขณะที่ทางด้านการแสดง วิล สมิธ ก็ยังคงทำหน้าที่ของเขาได้อย่างยอดเยี่ยมและเกินค่าตัวอีกครั้ง นับว่าการแสดงของเขาเป็นตัวหลักในกาประคับประคองหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างยั่งยืน ยังเป็นแอคติ้งที่น่าประทับใจ และเขารู้ดีว่าควรจะถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาเช่นไร แม้ว่าผลงานชิ้นนี้ของเขาจะยังไม่ใช่งานระดับมาสเตอร์พีชที่น่าจดจำได้ เมื่อเทียบกับผลงานก่อน ๆ ของเขาเองก็ตาม แต่ก็จัดได้ว่าเขาแสดงได้ดีในแบบที่ควรจะเป็น
หากจะกล่าวโดยสรุปแล้วนั้น Emancipation ก็เป็นหนังดราม่าเนื้อหาเกี่ยวกับทาสในช่วงยุคสงครามกลางเมืองของอเมริกา ที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่แปลกใหม่อะไรสักเท่าไหร่ หนังค่อนข้างซ้ำซากจำเจอยู่มาก ท่วงทำนองในการเล่าเรื่องก็ไม่มีอะไรใหม่ ยังสูตรสำเร็จหนังทาสที่เห็นเคยมาแล้วก่อนหน้านี้มาปรุงแต่งขึ้นมาใหม่ เป็นหนัง 2 ชั่วโมงที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาแห่งการเอาตัวรอดที่แสนเจ็บปวด ที่แน่นอนว่าได้การแสดงระดับมีออาชีพของ วิล สมิธ มาช่วยพยุงเอาไว้ทั้งเรื่อง
นี่อาจจะยังไม่ใช่ผลงานที่ควรค่าแก่การจดจำของ วิล สมิธ สักเท่าไหร่ เพราะหนังยังวนเวียนอยู่ในเซฟโซนมากไปสักนิด วิธ๊เล่าเรื่องก็เพลย์เซฟไปสักหน่อย แม้ว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่หนังหยิบนำมานำเสนอนั้นจะค่อนข้างทรงพลังในตัวเองเป็นอย่างดี แต่ว่ากลับกลายเป็นว่าน่าเสียดายที่ไม่สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ ๆ ของตัวเองขึ้นมาได้ ยังหาเสน่ห์ไม่เจอ ไม่มีอะไรน่าจดจำสักเท่าไหร่ ไม่ถึงกับเป็นหนังที่น่าผิดหวัง แต่เพราะวาอาจจะคาดหวังมากเกินไปสักหน่อย ว่าหนังจะอิมแพคได้มากกว่านี้
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Emancipation
- ประเภท: ดราม่า / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: อองตวน ฟูคัว
- นำแสดงโดย: วิล สมิธ, เบน ฟอสเตอร์, ชาร์เมน บิงวา
- ความยาว: 132 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 9 ธันวาคม 2022 (ที่ Apple TV+)
Movie.TrueID METRIC: Emancipation
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
————————————-