บางคนดู Entrapment (★★) เพราะได้ปู่ Sean Connery มาแสดงเป็นสิงห์เฒ่านักโจรกรรม บางคนดูหนังเรื่องนี้เพราะมี Catherine Zeta-Jones สาวทรงเสน่ห์แสดงนำ ส่วนผมนั้น ดูเพราะทั้งสองเหตุผลผสมกันนั่นแหละครับเรื่องหลักๆ ก็ว่าด้วยเกิดการขโมยภาพแรมแบรนด์ขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสาวเวอร์จิเนีย “จีน” เบเกอร์ (Zeta-Jones) สงสัยว่าคนขโมยต้องเป็นโรเบิร์ต “แม็ค” แม็คดูกัล (Connery) สุดยอดจอมโจรแห่งวงการ จีนเลยตัดสินใจหาทางติดต่อกับแม็ค ตอนแรกเราจะนึกว่าเธอติดต่อแม็คเพื่อจับกุมครับ แต่ไปๆ มาๆ ดูเหมือนว่าจีนจะมีแผนอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในใจถือเป็นหนังอีกเรื่องที่มาพร้อมรสเฉพาะตัวครับ เป็นแนวโจรกรรมลักขโมยที่ไม่ค่อยมีใครทำออกมาสักเท่าไร ทั้งๆ ที่เนื้อในนับว่าน่าสนใจน่าสนุกออก เหมือนพวกจอมโจรลูแปงน่ะแหละถ้าว่ากันตามจริง เรื่องของบทผมว่ายังไม่แน่นเท่าใดนัก จริงๆ หนังแนวขโมยมันน่าจะเฉือนคมกันมากกว่านี้ หรือไม่ก็ทำให้เราลุ้นตอนขโมยแบบ Ocean’s Eleven อะไรแบบนั้นเป็นต้น และการจะขโมยแต่ละทีก็ต้องมีลุ้น มีอุปสรรคเยอะๆ ยิ่งมีเรื่องเกิดมาเท่าไรคนดูยิ่งเกร็งตามเท่านั้น แต่ Entrapment เหมือนอุปสรรคในการโจรกรรมจะไม่เยอะเท่าไรนัก ดีกรีความลุ้นก็เลยลดระดับลงไปพอสมควรจุดที่ช่วยหนังไว้ได้เยอะมากคือการแสดงของ Connery และ Zeta-Jones ครับ สองคนเล่นเข้ากันได้ดีครับ Connery นอนมาอยู่แล้ว ดูเท่ห์เสมอ ฉลาดและมีเสน่ห์อย่างร้ายกาจ ส่วน Zeta-Jones นี่ก็เซ็กซี่ฉายแสงแบบสุดซอยไปครับ แค่ฉากนอนแล้วไม่ใส่เสื้อใดๆ ก็เหลือเกินแล้ว (ซึ่งฉากที่ว่านี้ Zeta-Jones แสดงจริงตามนั้นครับ) แต่ขณะเดียวกันก็มีความฉลาดลึกแทรกอยู่ด้วยยอมรับว่าแอบรู้สึกตะหงิดใจนิดนึงที่บทกำหนดให้ทั้งสองเกิดรู้สึกปิ๊งกัน แต่ก็พอจะมองข้ามได้ครับ เพราะถ้าไม่มองที่อายุแล้วดูกันทีเคมีของทั้งคู่แล้วก็นับว่าไปกันได้อยู่ (หนังเรื่องนี้ได้รับการบันทึกด้วยครับว่าถือเป็นผลงานชิ้นท้ายสุดของปู่ Sean ที่เขากับนางเอกมีความโรแมนซ์ต่อกัน ในขณะที่หนังเรื่องหลังจากนี้ที่ปู่ Sean แสดงจะไม่มีบทโรแมนติกในลักษณะนี้แล้วครับ)หนังดูได้เรื่อยๆ เดินเรื่องไปเรื่อยๆ มีฉากโจรกรรม มีการวางแผน มีการหักหลังตามสไตล์ แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้าคุณไม่ใช่คอหนังแนวนี้ก็อาจจะเบื่อได้ เพราะหนังมันเน้นไปที่สัมพันธ์ตัวละคร และการวางแผน (ซึ่งก็ไม่ถึงกับเร่งเร้าอะไรนัก) ต้องคอหนังแนวนี้จริงๆ ล่ะครับถึงจะโอเค หรือไม่ก็ต้องชอบดารานำสองคนนี้ถึงจะเพลินไปกับเรื่องราวหนังยังได้ Ving Rhames มาแสดงสมทบ เห็นแกแล้วก็นึกภาพบทลูเธอร์ใน Mission: Impossible ทันที แต่ก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเท่าไรครับ อีกคนก็ Will Patton มาในบท เฮ็คเตอร์ ครูซ เจ้านายของจีนหนังกำกับโดย Jon Amiel ครับ พี่ท่านที่ผ่านมาก็ทำหนังจังหวะเนิ่บๆ ซะส่วนมาก ขนาด Copycat หนังแนวฆาตกรต่อเนื่อง พี่ท่านยังทำออกมาเนิ่บได้เลย เรื่องนี้ก็เลยเนิ่บตามสไตล์น่ะแหละครับ ซึ่งจริงๆ ตอนแรกคนที่จะทำมากำกับเรื่องนี้คือ Antoine Fuqua ครับ และภาพที่เขาวาดในหัวนี่จะกระหน่ำฉากแอ็กชันมากกว่านี้ มีฉากขับรถไล่ล่าสารพัด รวมทั้งอุปกรณ์ไฮเทคเอามาใช้กันในฉากโจรกรรมแบบอุดม ซึ่ง Connery ไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ครับ Fuqua ก็เลยต้องถอยฉากออกไป แล้ว Amiel ก็เข้ามาแทนตัวหนังก็จัดว่าประสบความสำเร็จครับ ทำเงินไป $212 ล้านจากทั่วโลก ในขณะที่ทุนก็ประมาณ $66 ล้าน ก็ถือว่ากำไรใช้ได้ครับสรุปคือหนังดูได้ไม่ผิดหวัง แต่อย่าคาดหวังในฉากโจรกรรมว่าจะหวือหวาตื่นเต้นเท่า Ocean’s หรือ The Italian Job นะครับ