Love & Mercy
บนผิวหน้าภาพลักษณ์สดใส ดนตรีง่ายๆ เนื้อหาว่าด้วยความรักของหนุ่มสาว ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของอีกหนึ่งวงดนตรีที่กลายมาเป็นคลาสสิคจากยุค 60 อย่าง The Beach Boys มีหนึ่งในสมาชิกซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของวงอย่าง ไบรอัน วิลสัน ผู้มีชีวิตแสนจะทุกข์ทรมานหม่นหมองอย่างสาหัสเกือบทั้งชีวิต
หนังเริ่มต้นด้วยการจำลองฟุตเตจ Music Video และคลิปทัวร์คอนเสิร์ตของวง The Beach Boys ซึ่งพวกเขาดูจะกลมกลืนไปกับฉากหลังบรรยากาศของ Pop Culture ทางดนตรีในยุค 60 จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมิ่อพวกเขานั่งเครื่องบินกลับมาจากทัวร์คอนเสิร์ตแห่งหนึ่ง ไบรอัน วิลสัน เกิดอาการทางประสาทที่ทำให้เขาได้ยินเสียงหลอนซึ่งทำให้เขาหดหู่และวิตกกังวลอย่างเข้มข้น ตั้งแต่นั้นมาเขาตกลงกับสมาชิกในวงว่าจะไม่ขอออกไปทัวร์คอนเสิร์ตอีก แต่จะขออยู่บ้านเพื่อแต่งเพลงเยี่ยมๆ เพื่อให้วงสามารถแข่งขันกับวงอื่นๆ อย่าง The Beatles ได้ ซึ่งผลกลายเป็นว่าเขาเริ่มจมลงสู่ความเศร้าหมอง เพลงที่เคยแต่งเพื่อเอาใจตลาดกลายเป็นการระบายความทุกข์ระทมในใจ มีปัญหากับสมาชิกในวง ยอดขายตกต่ำ แต่อาการทางจิตที่มากขึ้นเรื่อยๆ
ตัดสลับกับชีวิตในช่วงยุค 80 ของไบรอัน เขากลายเป็นหนุ่มใหญ่หมดรูปท่าทางเศร้าหมอง มีอาการทางจิตถูกควบคุมอิสระภาพทางกฏหมาย ต้องมีหมอยูจีนคอยควบคุมทุกอย่างในชีวิตอย่างเย็นชาและเกาะกินผลประโยชน์จากกองเงินกองทองของเขา โดยวันหนึ่งเขาได้พบกับ เมลินดา พนักงานขายรถที่เข้ามาทำให้ชีวิตของเขาได้สัมผัสถึงความรักและไมตรีจิตอีกครั้ง เขาอาจจะไปกับเธอ ไปให้พ้นจากหมอยูจีนที่ควบคุมบงการชีวิตเขาอย่างไม่มีหัวใจและไร้มนุษยธรรมในหลายๆ ครั้ง ไปอยู่กับเมลินดา แต่ผลพวงจากการถูกข่มเหงกดขี่จากพ่อผู้ซึ่งชอบใช้ความรุนแรงทางร่างกายและอารมณ์ของเขามาตั้งแต่เด็ก ทำให้เขาไม่กล้าที่จะออกไปจากความทุกข์ทรมานของการถูกกักขังได้เลย
หนังเล่าชีวิตอันเปี่ยมไปด้วยความระทมข้นแค้นของไบรอันจนมาเจอกับความรักที่ทำให้เขาได้มีความสุขอีกครั้งได้อย่างงดงามไม่ฟูมฟาย ความเป็นดราม่าของหนังถูกเล่าอย่างไม่มีสูตรสำเร็จรูปแต่ขับเน้นด้วยเหตุการณ์เฉพาะตัวราวกับเราได้เห็นชีวิตของไบรอัน วิลสันตัวจริงๆ อยู่บนจอภาพยนตร์ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องชื่อชมสองนักแสดงที่รับบทสองช่วงชีวิตของไบรอัน อย่างพอล ดาโน และจอห์น คูแซค ต่างก็แสดงฝีมือได้อย่างยอดเยี่ยมและเติมเต็มให้หนังเรื่องนี้มีความสมบูรณ์แบบมากในทางที่มันเป็น