Gemini Man (2019) เจมิไน แมน

Untitiled04756

ว่าตามจริงคือรู้สึกเป็นห่วงหนังเรื่องนี้ตั้งแต่ก่อนออกฉายแล้วครับ ห่วงว่าจะไปได้ไกลแค่ไหนบน Box Office เพราะจุดที่หนังพยายามขายอย่าง CG Will Smith วัยหนุ่มนั้นมันไม่ใช่ของใหม่อะไรแล้ว และหนังประเภท “ตัวเองไล่ล่าตัวเอง” ก็เคยมีคนทำออกมาแล้ว (เช่น Looper – ซึ่งที่ทำได้ดีซะด้วย) ก็เลยออกแนวห่วงครับว่าหนังจะได้ทุนคืนไหม (เพราะลงทุนไปเกือบ $140 ล้าน)

มาว่ากันที่ตัวหนังก่อนครับ เรืื่องราวว่าด้วย เฮนรี่ โบรแกน (Will Smith) มือสังหารระดับพระกาฬที่รับงานไหนก็สำเร็จงานนั้น แต่ทีนี้เขาดันไปรู้เรื่องที่ไม่ควรรู้เข้าครับ เลยโดนคนตามเก็บ แต่พอดีพี่ท่านเป็นมือพระกาฬเลยไม่มีใครโค่นเขาได้ลง และในที่สุดตัวร้ายเลยส่งเอาร่างโคลนวัยหนุ่มของเฮนรี่มาออกโรงไล่ล่าเขา งานนี้เฮนรี่วัยดึกเลยต้องปะทะกับเฮนรี่วัยหนุ่ม

ถ้าถามว่าหนังเป็นยังไง ก็ตอบได้ว่าหนังไม่ได้แย่อะไรครับ จริงๆ คือทำออกมาได้ดูแบบเพลินๆ เพราะอย่างน้อยวัตถุดิบที่หนังใช้ก็ถือเป็นของดีเกรดเอ ไม่ว่าจะดาราอย่าง Smith นี่ก็แสดงได้ดีครับ รายนี้ถือว่ามืออาชีพอยู่แล้ว บวกด้วยดาราสมทบอย่าง Mary Elizabeth Winstead, Clive Owen และ Benedict Wong ที่ทุกคนล้วนทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดี จนพูดได้เลยครับว่าพลังของหนังส่วนหนึ่งก็มาจากทีมนักแสดงนี่แหละ

ในแง่ของแอ็กชันก็ถือว่าดีกว่าที่คิดครับ คือมันอาจจะไม่ได้สุดยอดโคตรมันส์ แต่ก็ทำได้โอเค พวกฉากไล่ล่าต่างๆ ก็พอลุ้นอยู่ หรือซีนไล่ยิง+ระเบิดตูมตามก็ทำได้ไม่เลว มีจังหวะบีบเค้นกดดันคนดูเป็นพักๆ ช่วยกระตุ้นความตื่นเต้นได้ดีในระดับหนึ่ง ดังนั้นถ้าใครเป็นคอแอ็กชัน ผมว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์พื้นฐานของหนังบู๊ได้โอเคอยู่ครับ

และผมยังชอบฉากหลัง พวกโลเคชั่นต่างๆ ที่หนังใช้น่ะครับ มันดูโล่งๆ โปร่งๆ มีกลิ่นอายของโลกอนาคตที่ไม่ไกลเกินไปนัก มันดูสอดรับกับอารมณ์ของตัวละครอย่างเฮนรี่ที่มีความเป็นหมาป่าเดียวดาย กับความเป็นโลกอนาคตที่ดูจะไร้ชีวิตชีวา และอาจจะเพราะหนังเรื่องนี้กำกับโดย Ang Lee เลยมีการสอดแทรกปมดราม่าลงมาพอสมควร ว่าง่ายๆ คือหนังไม่ได้โล่งโถงทางอารมณ์ครับ มันมีปมที่หนังสร้างขึ้นเพื่อให้เรารู้สึกถึงมิติของตัวละครพอสมควร และอาจจะเป็นเพราะจุดนี้แหละที่ทำให้ Gemini Man ไม่ได้ดูโล่งจนเกินไป

Untitiled04755

ส่วนงาน CG หน้า Will Smith วัยหนุ่มนั้นก็ถือว่าทำได้ดีน่ะครับ แต่กระนั้นก็ยังดูออกอยู่ดีว่ามันคือ CG บางมุมหน้าก็จะดูนวลๆ แบบแปลกๆ หรือไม่ก็ตาลอยๆ จุดนี้ผมว่าทีมงานเขาก็คงพยายามทำกันเต็มที่แล้วน่ะครับ ซึ่งก็อย่างที่บอกว่าจริงๆ เขาทำออกมาดีน่ะ ไม่ใช่ไม่ดี แต่การทำ CG หน้าคนนี่เป็นของยาก เพราะในแง่ความรู้สึกของคนดูแล้ว มันแยกออกได้น่ะครับว่าหน้าไหนจริงหน้าไหนไม่จริง มันคือข้อจำกัดที่ต่อให้จะมีการทำ CG หน้าคนเนียนแค่ไหนก็ตาม แต่ความรู้สึกของคนดูยังไงมันก็แยกออกอยู่ดี ยังไงมันก็ต้องรู้สึกสะดุดบ้างไม่มากก็น้อย

สำหรับผมแล้วหนังไม่ได้น่าผิดหวังอะไรครับ ส่วนหนึ่งคงเพราะผมไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ลดระดับความคาดหวังจนถึงระดับที่ไม่หวัง พอดูแล้วมันก็โอเคครับ ดูได้เพลินๆ จริงๆ ต้องบอกว่าในแง่แอ็กชันจัดว่าโอกว่าที่คิด และหนังก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไรแม้จะมีจังหวะที่หนังดูช้าๆ อยู่บ้างก็ตาม แต่โดยรวมแล้วหนังดูได้เรื่อยๆ ครับ อย่างที่บอกว่าดาราดี งานสร้างจัดว่าดี และอีกความรู้สึกหนึ่งก็คือ รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็กชันที่ดูสะอาดสะอ้านยังไงก็ไม่รู้ เพราะฉากต่างๆ มันดูโล่งๆ โปร่งๆ อย่างที่ผมบอกไป ซึ่งนั่นรวมถึงฉากแอ็กชันด้วยครับ ในฉากไล่ล่าฉากไล่ยิงก็ยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าฉากมันดูมีความโล่งๆ โปร่งๆ จังเลย ในแง่หนึ่งมันก็ดูตัดกับฉากแอ็กชัน เวลาที่ข้าวของต้องกระจุยกระจายดีครับ (คือมันจะกระจายลงไปบนฉากที่ดูสะอาดน่ะครับ ก็ให้อารมณ์ไซไฟไปอีกแบบเหมือนกัน)

สองดาวครับ

Star21

(6/10)