odzilla vs. Kong
“Godzilla vs. Kong” น่าจะเป็นหนึ่งในโปรแกรมหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ที่มีแฟนๆ หลายคนทั่วโลกเฝ้ารอคอย ลุ้นอย่างใจจดจ่อว่าจะเลื่อนฉายไปเหมือนกับชะตากรรมหนังเรื่องอื่นๆ หรือไม่ แต่ วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ตัดสินใจและยืนยันส่งหนังออกฉายตามกำหนดเดิมนี้ แต่บ้านเราได้อานิสงส์ตรงที่ยังไม่มีบริการสตรีมมิ่งเหมือนกับหลายพื้นที่ทั่วโลก ทำให้เรายังมีโอกาสได้ดูอีเวนต์ใหญ่ครั้งนี้กันบนจอใหญ่ๆ ในโรง และหนังเรื่องนี้มันควรจะเป็นเช่นนั้น สมควรที่จะออกมาให้สะกดตาอยู่ในโรงหนังเท่านั้นจริงๆ
ก็อดซิลลา ปะทะ คอง ได้เล่าเรื่องราวของ คอง และผู้ติดตามของมันเริ่มต้นการเดินทางเสี่ยงอันตรายเพื่อตามหาบ้านที่แท้จริง หนึ่งในผู้ร่วมเดินทางนั้นคือ เจีย สาวน้อยกำพร้าที่มีสายใยมิตรภาพอันแข็งแกร่งและไม่เหมือนใครเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา โชคร้ายที่พวกเขาดันเลือกเดินทางที่นำไปสู่การเผชิญหน้ากับ ก็อดซิลล่า ที่กำลังเกรี้ยวกราดเกิดเป็นความพินาศไปทั่วทั้งโลก แต่แท้จริงแล้วศึกสังเวียนของสองยักษ์ใหญ่ในตำนานครั้งนี้ถูกบงการด้วยอำนาจปริศนา และเป็นเพิ่งจุดเริ่มต้นของความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใจกลางของโลกมนุษย์เพียงเท่านั้น!
เหนือสิ่งอื่นใด…ต้องขอปรบมือให้กับทีมงานเบื้องหลังผู้สร้างหนังเรื่องนี้แทบทั้งหมด เพราะพวกเขาได้สรรค์สร้างผลงานเหนือจินตนาการสุดล้ำออกมาสู้สายตาคนดูได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจและมอบความบันเทิงได้เต็มเปี่ยม เติมเต็มช่วงเวลาที่มีความสุขกับหนังสไตล์นี้ที่ห่างหายไปเป็นปีแล้ว นี่จึงกลายเป็นหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ทุนสูงที่จัดและใส่พลังมาอย่างหนักหน่วง กับผลลัพธ์ที่ออกมาค่อนข้างโดดเด่นและน่าพอใจอยู่ไม่น้อย
เทคนิคพิเศษของหนัง Godzilla vs. Kong เป็นสิ่งที่ต้องยกนิ้วโป้งให้ เพราะนี่คือความยอดเยี่ยมอีกขั้นหนึ่ง เผลอๆ พวกเขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการหนังขึ้นด้วยซ้ำ เพราะการดีไซน์ฉากและองค์ประกอบต่างๆ ดูลื่นไหลและตระการตา แทบจะไม่มีส่วนไหนในเรื่องที่สะดุดหรือขัดหูขัดตาขึ้นมาเลยสักนิด หลายๆ ฉากออกแบบได้แบบต้องร้องว้าว ดูมีรายละเอียดและใจใส่องค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ และเมื่อผนวกกับมุมกล้องที่มีกิมมิกในหนังแล้ว ทุกอย่างจึงเกือบจะสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
โดยที่การทำงานของผู้กำกับ “อดีม วิงการ์ด” ได้มอบวิสัยทัศน์ในการเล่าเรื่องที่ประทับใจอยู่ไม่น้อย ถึงแม้จะต้องยอมรับว่าในส่วนของบทหนังเรื่องนี้ยังค่อนข้างอ่อนไปสักหน่อย มีโครงสร้างที่ยังไม่แข็งแรงเท่าที่ควร แต่เขากลับรู้จักวิธีที่จะใช้ส่วนอื่นมาประกอบร่างและสร้างความแข็งแกร่งให้กับหนัง จึงทำให้บทหนังที่ปวกเปียกได้ถูกมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง และคนดูหันมาโฟกัสเอามันส์กับ ก็อดซิลลา และ คอง ทดแทน
แน่นอนว่าฉากการต่อสู้และเผชิญหน้ากันระหว่างสัตวประหลาดทั้ง 2 ตัว กลายเป็นอีกหนึ่งความเอพิคที่ดีที่สุดอีกเรื่องของวงการหนังในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว ถึงมันจะเต็มไปด้วยการชกต่อย-ระเบิดเมืองพังพินาศไปเป็นแถบๆ แต่การดีไซน์ฉากแอคชั่นของพวกเขาทำได้อยู่หมัดและทำให้คนดูมีอารมณ์ร่วม ไม่ละลายตา อีกทั้งยังต้องลุ้นเกร็งไปตามมวยคู่นี้อย่างเมามันส์
ตัวละคร 2 สัตว์ประหลาดพระเอกหลักของเรื่อง ได้ถูกดีไซน์ออกมาได้อย่างดีเช่นเดียวกัน กลายเป็นว่าสัตว์ประหลาดที่เป็นเสมือนสัตว์เดียรัจฉาน ได้ถูกถ่ายทอดออกมาให้มีจิตใจและจิตสำนักความรู้สึกได้ยิ่งกว่าตัวละครที่เป็นมนุษย์ทั้งหมดในเรื่องเสียอีก ก็อดซิลลา กับ คอง กลายเป็นตัวละครประดิษฐ์ที่ถูกเติมแต่งและสร้างมิติตัวละครขึ้นมาได้ค่อนข้างดี แม้ว่าพวกเขาจะพูดภาษามนุษย์ไม่ได้เลยก็ตาม
แน่นอนว่า Godzilla vs. Kong ก็มาพร้อมกับโครงสร้างที่เป็นสูตรสำเร็จแบบเก่าๆ คนดูน่าจะพอเดาทิศทางของเรื่องได้ตั้งแต่หนังเริ่มฉายไม่นาน เหมือนเป็นการผสมผสานหนังบ็อกซ์บัสเตอร์หลายๆ เรื่องเอาไว้ได้อย่างลงตัว มีความสัตว์ประหลาดแบบจูราสสิก และมีความฮีโร่เอพิคแบบอเวนเจอร์ส หลายๆ องค์ประกอบได้นำมาหล่อหลอมด้วยกัน ออกมาเป็นหนังเอพิคยิ่งใหญ่ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงล้วนๆ
และยังเป็นที่น่าเสียดายที่ Godzilla vs. Kong ก็ยังคงเป็นหนังสัตว์ประหลาดที่มีจุดด้อยในส่วนพาร์ตเรื่องราวของมนุษย์อีกเช่นเดิม ถือว่าในครั้งนี้น่าจะอ่อนไปกว่าครั้งก่อนๆ เสียด้วยซ้ำ เพราะเมื่อดูหนังจบลงแล้ว คนดูแทบจะไม่มีโมเมนต์หรือรู้สึกผูกพันใดๆ กับตัวละครมนุษย์สักตัวเลย แม้ว่า “อเลกซานเดอร์ สการ์สการ์ด” หรือ “มิลลี บ็อบบี บราวน์” จะแสดงได้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่การออกแบบตัวละครมนุษย์ทุกตัวหนังในเรื่องนี้ ช่างแบนราบและไร้มิติอย่างสิ้นเชิง
แต่ภาพรวมแล้ว คงต้องบอกว่า Godzilla vs. Kong เป็นหนังที่สนุกในระดับตอบโจทย์ความบันเทิงของคนดูไม่เบาเลยทีเดียว เพราะหนังรู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดีว่าคนดูอยากเห็นอะไร อยากดูอะไร และอยากสัมผัสอะไร ทีมผู้สร้างจึงได้กลั่นกรองออกมาได้ตรงจุดและตรงประเด็น แม้ว่าหลายๆ องค์ประกอบอาจจะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจอยู่หน่อย ตามเก็บรายละเอียดบ้าง หรือแฟนตาซีเกินเหตุไปสักหน่อย แต่ก็ยังมอบรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมได้อยู่
ดังนั้น Godzilla vs. Kong จึงน่าจะเป็นหนังสัตว์ประลาดวินาศสันตโรที่จะถูกใจคนดูอยู่ไม่น้อย เซอร์วิสต่างๆ ถูกงัดออกมาให้บริการผู้บริโภคของตรงไปตรงมา ดูหนังเรื่องนี้ครั้งอาจจะไปเก็บความมันส์สะใจ แต่น่าจะต้องมีการดูครั้งที่สอง เพื่อไปซ้ำความมันส์และตามไปซับซัมเก็บรายละเอียดที่หนังใส่เข้ามาอีกเพียบ ซึ่งน่าจะเป็นหนังบู๊ระห่ำที่พระเอกหลักต่างก็ไม่ใช่คนที่เปรี้ยงปังได้ง่ายๆ ไม่เบาเลย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Godzilla vs. Kong
ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / แฟนตาซี
ผู้กำกับ: อดัม วิงการ์ด
นำแสดงโดย: อเล็กซานเดอร์ สการ์สการ์ด, มิลลี บ็อบบี้ บราวน์, รีเบคก้า ฮอลล์
ความยาว: 113 นาที
เข้าฉาย: 25 มีนาคม 2021
Movie.TrueID METRIC: Godzilla vs. Kong
ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10)
การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10)
เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐ (10/10)
บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
————————————-