Gone Girl – เล่นซ่อนหาย

ตลอดรอดฝั่ง พอได้ยินหลายๆ คนบอกว่าเรื่องมันเดายาก ตอนดูก็เลยพยายามปล่อยสมองไหลตามหลุมพรางไป แต่พอสักพักสมองอีกครึ่งหนึ่งมันก็พยายามไขไปตามกลไกความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเวลาดูหนังลึกลับสืบสวนสอบสวน ในฉากทำความรู้จัก ฉากขอแต่งงาน และเซ็กส์ซีนในห้องสมุด ทำให้มุมแรกเราหักตามไปถูกทาง แต่ตอนจบนี่ด้วยความที่ยังอยากเห็นคมเฉือนคมตอหลดเฉือนตอแหลเจ็บกระชากใจไปข้างหนึ่งเลย และนึกไม่ถึงว่าจะหักจบด้วยจิตวิทยาแบบนี้จริงๆ ส่วนตัวก็คิดว่ามันสะเทือนแกมสมน้ำหน้าตัวละครได้สะใจดีนะ แต่ก็รู้สึกว่าตัวละครที่น่าจะต่อเวลาขึ้นชกมากกว่านี้มันกลับประนีประนอมยอมตามความรู้สึกผิดของตัวเองจนทำให้อีกมุมก็รู้สึกว่ามันเบาไป ชอบสื่อในเรื่องนี้มากๆ เป็นส่วนที่ทำให้หนังสนุกมากๆ ทั้งยียวนกวนตีนกลับกลอก บทบาทของรายการโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ อินเทอร์เน็ต มันนำพาสถานการณ์ได้ไวไฟมาก ถึงแม้ทุกวันนี้เป็นโลกที่ใครก็เตือนว่าต้องฟังหูไว้หูแต่คนก็เลือกหูผึ่งเชื่อไปตามความรู้สึกของตัวเองไหลไปตามความโกรธเคือง ความสงสาร ความเห็นอกเห็นใจ จนความจริงมันกลายเป็นเรื่องโกหกหลอกลวง ความลวงกลายเป็นความจริงในที่สาธารณะที่ถูกอำพรางด้วยภาพมายา ซึ่งทั้ง Rosamund Pike กับ Ben Affleck ก็รับหน้าที่เล่นหน้าเป็นหน้าตายต่อหน้าสื่อตบชงกันไปมาผลัดกันโหนกชาได้ดีจริงๆ …สปอยล์…ตอนแรกๆ ก็คิดอยู่ว่าทำไมต้องเป็น Ben Affleck ด้วยนะ แต่พอดูหนังไปสักพักก็นึกพระเอกคนอื่นไม่ออกนอกจาก Ben Affleck นี่แหละในบทสามีเจ้าชู้ที่โกหกลื่นเป็นปลาไหลที่ขนาดคู่แฝดเกิดมาจากท้องแม่คนเดียวกันพร้อมกันยังไม่รู้ไส้รู้พุง เป็นนักแสดงที่แค่เห็นหน้าบนจอก็ทำให้หมั่นไส้ได้โดยธรรมชาติสร้างมิติความสงสารที่ก้ำกึ่งระหว่างเห็นสมควรกับจุดจบได้ดี ส่วน Rosamund Pike ก็สมดุลบทบาทเมียในฝันที่น่าสงสาร นักเขียนโฉมงามฉลาดน่าทะนุถนอมและน่ายกย่อง เมียโรคจิตที่ตอแหลได้น่าหมั่นไส้ ด้วยการเชื่อมโยงพัฒนาการตัวละครได้พอดีไม่โดดไกลจนรู้สึกว่าเป็นร่างโคลนซึ่งเป็นคนละคนไป ความอัดอั้นของคู่ผัวตัวเมียนี่มันสุดขีดจริงๆ ยิ่งมันไม่สาดซัดวัดพลังแค้นกันตรงๆแต่ซ่อนความจิตเก็บกดไว้ข้างในแล้วค่อยๆระบายด้วยแผนตลบหลังแบบนี้นี่ดูแล้วก็รู้สึกเสียวไส้ชีวิตคู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก…