Hawaii Five-0 Season 3 – 10 (2012 – 2020) มือปราบฮาวาย ปี 3 – 10

วาระเวลาที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ผมเพิ่งดูปี 10 จบไปครับ ดังนั้นการเขียนของผมก็จะออกแนวระลึกชาติสักหน่อยเวลาที่เขียนถึงปีเก่าๆ แต่ก็อยากบันทึกเอาไว้ครับ ว่านี่เป็นอีกหนึ่งซีรี่ส์ที่ดูจนจบ ตามดูต่อเนื่องยาวนานมานับสิบปี (แน่นอนว่ามีสปอยล์นะครับ บอกไว้ก่อนตรงนี้เลย)

Hawaii Five-0 ผมอาจไม่ถึงกับชอบแบบสุดๆ แต่ก็อยู่ในข่ายชอบครับ สามารถดูได้เพลินๆ แก้เบื่อเแก้เหงาได้ดี หนังมาพร้อมแอ็กชันเพลินๆ แต่ละคดีก็จะสนุกมากหรือน้อยต่างกันไป แต่ก็ถือว่าดูได้สนุก สำหรับผมแล้วจุดเด่นของซีรี่ส์นี้นอกจากเพลงเปิดที่เร้าใจและอมตะมากๆ แล้ว ก็ต้องยกให้กับดาราครับที่ถือว่าคัดมาได้เหมาะมากๆ

Alex O’Loughlin เป็นสตีฟ แมคแกเร็ตได้เหมาะ ดูเป็นผู้นำและหัวไวใช้ได้, Scott Caan ในบทแดนนี่ก็เป็นคู่หูคู่ฮาที่เสริมอะไรขำๆ แสบๆ ได้แบบกำลังเหมาะ, Daniel Dae Kim ถือว่าดีมากๆ ในบทชิน โฮ เคลลี่ บางวาระก็เข้มได้ใจ บางเวลาก็ฮาได้ที่ และที่ลืมไม่ลงคือ Grace Park ในบทโคโน่ที่สวยเซ็กซี่ มีเสน่ห์น่ารักแบบสุดๆ ขณะเดียวกันเวลาพะบู๊ก็ทำได้ไม่เลว

7 ปีแรกผมถือว่าสนุกและกลมกล่อมที่สุดครับ เพราะทีมนี้เข้าขากันได้ดี แบ่งบทและความเด่นกันได้แบบพอเหมาะ และนอกจากนี้เหล่าดาราสมทบร่วมขบวนก็เสริมรสชาติอร่อยๆ ให้กับซีรี่ส์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะ Masi Oka ในบทแม็กซ์ เบิร์กแมน หมอชันสูตรที่มาพร้อมมาดแปลกๆ ในแต่ละตอน, Taylor Wily ในบทพี่อ้วนคาเมโคน่า รายนี้มาพร้อมความฮาและความงกแบบเสมอต้นเสมอปลาย

จากนั้นช่วงปี 4 เราก็จะได้เจอกับ Jorge Garcia ในบท เจอร์รี่ ออร์เทก้า หนุ่มเนิร์ดอารมณ์ดีที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่องราวได้อย่างน่าปรบมือ และ Chi McBride ในบทเจ้าหน้าที่ลู โกรเวอร์ ที่เปิดมาตอนแรกทำท่าว่าจะขัดแย้งกับหน่วยไฟว์โออยู่บ่อยๆ แต่ไปๆ มาๆ เขาก็กลายมาเป็นเพื่อนสุดซี้ของทีมไฟว์โอที่ร่วมสู้แบบไปไหนไปด้วย ร่วมเป็นร่วมตายแบบได้ใจ

Michelle Borth ในบท แคทเธอรีน โรลลินส์ รายนี้ก็มาเสริมความสนุกและมาสานสายใยรักกับสตีฟ, Ian Anthony Dale ในบท อดัม โนชิโมริ หนึ่งในฝ่ายเจ้าพ่อที่สุดท้ายแล้วก็มาตกร่องปล่องชิ้นกับโคโน่ แล้วปีหลังๆ ก็กลายเป็นทีมไฟว์โอในที่สุด

Hawaii Five-0

อย่างที่บอกครับว่า 7 ปีแรกทำออกมาได้ดี ตัวละครถือว่าเหมาะและเป็นดั่งกระดูกสันหลังให้กับซีรี่ส์ ว่ากันตรงๆ ก็คือแต่ละคดีที่เหล่าตัวเอกต้องแก้นั้นก็ไม่ถึงกับเข้มข้นหรือชวนติดตามอะไรขนาดนั้น แต่ที่มันยังดูสนุกและน่าดูอยู่น่ะก็เพราะการแสดงเวิร์กๆ ของพวกเขา ว่าง่ายๆ คือที่ผมดูนี่ไม่เชิงดูเพื่อตามคดีครับ แต่ดูเพื่อตามชีวิตของพวกเขา ดูไปหลายปีเข้าก็รู้สึกเหมือนเพื่อนที่สนิทขึ้นเรื่อยๆ เวลาเกิดเรื่องดีก็พลอยดีใจเฮไปกับเขาด้วย แต่พอเกิดเรื่องคอขาดบาดตายก็อดไม่ได้ที่จะลุ้นและเอาใจช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากภัย

ดังนั้นเมื่อถึงจุดที่ Dae Kim และ Park ตัดสินใจเดินออกจากซีรี่ส์หลังจบปีที่ 7 นั้น มันจึงส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของผมไม่น้อยครับ เหตุผลที่เขาออกกันก็เพราะพวกเขาพยายามเรียกร้องค่าตัวเพิ่ม เนื่องจากค่าตัวของพวกเขาเมื่อเปรียบเทียบกับ O’Loughlin และ Caan แล้ว มันต่างกันมาก ทั้งๆ ที่จะว่าไปแล้วทั้ง Dae Kim และ Park ก็ทุ่มเททำงานร่วมปรากฎในจอไม่น้อยไปกว่า 2 คนนั้นเลย

และพอการเจรจาไม่เป็นผล พวกเขาก็เลยเดินออกจากซีรี่ส์ครับ (และ Oka ก็เดินออกไปอีกคนครับ)

นั่นทำให้ปี 8 มีการเพิ่มตัวละครใหม่เข้ามา อันได้แก่ Meaghan Rath ในบท ทานี่ เรย์ และ Beulah Koale ในบทจูเนียร์ เรนส์ ซึ่งผมชื่นชมในความพยายามของทั้งสองคนนี้นะครับ ดูก็รู้ว่าพวกเขาพยายามทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุด แต่ก็ต้องบอกกันตรงๆ ว่า ดีกรีความน่าติดตามมันลดลง ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวละครที่เราชื่นชอบหายไปถึง 2 คนน่ะครับ นาทีนั้นผมตระหนักเลยว่ากระดูกสันหลังของซีรี่ส์นี้อยู่ที่ตัวละคร ไม่ใช่พล็อตเรื่อง (เพราะว่ากันตรงๆ แล้ว ซีรี่ส์สืบสวนแอ็กชันแบบนี้มีให้เกลื่อนไปหมดน่ะครับ-แล้วก็อย่างที่บอกว่าแต่ละคดีมันไม่ได้แน่นหนักเข้มข้นขนาดนั้นด้วย)

สำหรับผม ปี 8 เลยออกจะดร็อปไปครับ และที่ออกจะทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยดีสักหน่อยก็คือการยังมีอยู่ของตัวละครอดัม โนชิโมริ จริงๆ เขาควรจะออกจากเส้นเรื่องไปพร้อมกับโคโน่นะ มันจะได้เริ่มใหม่แบบจริงๆ จังๆ และคนดูอย่างเราๆ ก็จะได้พยายามลืม 2 ตัวละครนั้นให้ได้ด้วย แต่กลายเป็นว่าอดัมยังอยู่ครับ มันเลยอดไม่ได้ที่จะคิดถึงโคโน่ แล้วทีนี้มันแน่นอนอยู่แล้วว่าโคโน่จะไม่มีวันกลับมา บทเลยเขียนออกมาในเชิงว่าโคโน่ทิ้งอดัมไปแล้ว อดัมเลยอยู่ฮาวายต่อ ซึ่งในฐานะคนที่ติดตามซีรี่ส์นี้มาตั้งแต่ต้นมันรู้สึกเลยน่ะว่า “ไม่ใช่เด็ดขาด!!!!!!!”

อันนี้บอกเลยว่า Ian Anthony Dale ไม่ผิดหรอกครับ เขาแสดงได้ดีและผมรู้สึกได้ว่าเขาพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ที่สุดแล้ว แต่บทมันไม่ใช่น่ะครับ มาเขียนให้โคโน่กลายเป็นใครไปก็ไม่รู้แบบนี้ ยอมรับเลยว่ารับไม่ใคร่จะได้สักเท่าไร

ปี 8 เลยไม่ใช่ปีที่ดีนักสำหรับผม พอถึงปี 9 ก็ค่อยทำใจได้มากขึ้นน่ะครับ (แม้จะยังแอบหงุดหงิดในส่วนเรื่องของอดัมอยู่ก็ตาม) แต่ปีที่ผมว่าเริ่มจะโอเคอีกครั้งคือปีที่ 10 ครับ มันเริ่มดูโอเคขึ้นพร้อมการมาของตัวละครใหม่อย่าง ควินน์ ลิว (Katrina Law) ที่มาพร้อมความฉลาดและเสน่ห์ อีกส่วนหนึ่งผมว่าคงเพราะเราเริ่มสนิทกับทานี่และจูเนียร์แล้ว มันเลยเริ่มจะโอเคมากขึ้น

Untitled07265

แต่ก็อย่างที่ทราบครับว่าปี 10 คือปีสุดท้าย ก็เลยทำได้เพียงทำใจอำลา ทั้งๆ ที่มันเริ่มจะโอเคขึ้น แต่ขณะเดียวกันปี 10 นี่ก็มาพร้อมอะไรแปลกๆ อีกเหมือนกัน คือประมาณกลางปีน่ะมันจะมีอยู่ตอนหนึ่งที่หนังจบด้วยฉากที่จูเนียร์เหมือนจะโดนคนจับไป ตอนแรกผมก็นึกว่าตอนต่อๆ มาพวกไฟว์โอจะตามไปช่วย แต่อาจเพราะทีมงานรู้แล้วว่าปี 10 จะเป็นปีสุดท้าย จู่ๆ พล็อตเลยเปลี่ยนครับ พล็อตมันกลายเป็นว่าจูเนียร์ถูกเรียกตัวไปทำงานลับ เลยหายไป 2 – 3 ตอน แล้วจู่ๆ พี่แกก็กลับมาแบบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

สารภาพว่าดูแล้วก็งงเหมือนกันครับ ก็จูเนียร์โดนคนจับไปเห็นๆ น่ะ จู่ๆ ดันไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลายเป็นจูเนียร์แค่ไปทำงานและปลอดภัยกลับมาเฉยเลย ส่วนเรื่องโดนจับตัวนั่นก็ไม่มีการพูดถึงอีกเลย อันนี้ก็อดไม่ได้ที่จะทำให้รู้สึกถึง “ความลวกๆ” บางประการที่เกิดขึ้น

แต่ก็ช่างเถอะครับ ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นะ เอาเป็นว่าเรื่องราวสรุปจบลงที่ปี 10 แต่อย่างน้อยฉากจบผมว่าก็ทำได้ดีครับ ตอนจบหนังกำหนดให้สตีฟตัดสินใจออกจากฮาวายไปใช้ชีวิตที่อื่น อันนำมาสู่ฉากอำลาระหว่างสตีฟกับทีมไฟว์โอ ซึ่งผมชอบครับ ฉากนี้เรียกน้ำตาได้ดี เลยพอจะทำให้ลืมๆ ความเป๋ๆ ของบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้บ้าง

ต้องออกตัวครับว่าผมดูซีรี่ส์จบมาหลายชุด แล้วก็พบว่าตอนสรุปจบของแต่ละซีรี่ส์นั้น ไม่ใช่ทุกซีรี่ส์ที่จะจบได้ดี บางเรื่องก็จบแบบง่ายๆ บางเรื่องก็จบแบบเกือบประทับใจแต่สุดท้ายก็ไม่ประทับใจเท่าไร – แต่กับ Hawaii Five-0 แม้ตัวซีรี่ส์อาจไม่ได้สมบูรณ์นัก แต่ผมว่าตอนจบถือว่าน่าจดจำครับ ทำให้เราอินไปกับบทสรุปได้ และจบแบบ “อำลาคนดู” ได้อย่างพอเหมาะ

เมื่อถึงวาระที่ซีรี่ส์จบลง ก็แอบใจหายเหมือนกันนะครับ ผมยังจำวันแรกที่ผมเปิดซีรี่ส์นี้ดูได้ มันอาจไม่ใช่ซีรี่ส์ที่ผมประทับใจมากมาย แต่เพลงเปิดไตเติ้ลของซีรี่ส์มันยังคงเร้าใจและน่าจดจำเสมอ และของดีอย่างมากๆ อีกอย่างของซีรี่ส์นี้คือภาพวิวทิวทัศน์บรรยากาศของฮาวายครับ อันนี้ยกนิ้วให้เลยว่าสวยมาก ธรรมชาติงดงามจับตา ซึ่งภาพทิวทัศน์นี่แหละครับที่เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่ทำให้ซีรี่ส์นี้น่าดู น่าติดตาม (ผมเป็นคนชอบภาพธรรมชาติน่ะครับ เจอสวยๆ แบบนี้เลยยกใจให้เลย) และมันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญสำหรับความเป็น Hawaii Five-0

ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าของดีของซีรีส์นี้จะเป็นในเรื่องขององค์ประกอบต่างๆ ที่ถูกนำมาผสมนำเสนอแบบลงตัว ส่วนเนื้อเรื่องนั้นไม่ได้พิเศษอะไรครับ ผมว่าพวก CSI หรือ NCIS จะเข้าท่าและน่าจดจำกว่าหากพูดถึงเรื่องคดีและความเข้มข้นน่ะนะครับ

Untitled07267

มานั่งนึกๆ นี่ผมว่าปี 10 เป็นปีที่ให้ความรู้สึกแบบตำซั่วสำหรับผมนะ คือมันมีจุดที่โอเคมากๆ ผสมกับจุดที่เป๋ๆ หลงๆ ซึ่งจุดที่เป๋ๆ หลงๆ ก็อย่างที่บอกไปน่ะครับว่าบทอาจมั่วๆ ไปบ้าง แต่จุดที่ผมชอบสำหรับปี 10 นี่คือบทบางช่วงบางตอนมันมีการปูพื้นสำหรับการสรุปจบ เช่น การเชิญตัวละครเก่าๆ บางคนแวะกลับมาทักทายคนดูเป็นการส่งท้าย หรือการให้ตัวละครในเรื่องพูดเปรยๆ ถึงชีวิตบั้นปลาย อย่างตอนที่ลูพาทานี่กับจูเนียร์ไปเลี้ยงข้าวหลังจากพวกเขาช่วยขนของ

ลูเปรยขึ้นมาถึงชีวิตคนเป็นพ่อที่ตอนนี้ลูกๆ โตหมดแล้ว จากเดิมที่ลูกกับเขาอยู่ร่วมบ้านกัน มีเสียงเด็กๆ มีลูกมาขอคำปรึกษา กินข้าวด้วยกันเช้าเย็น ฯลฯ แต่ตอนนี้ลูกเขากำลังจะจากอ้อมอกเขาไปแล้ว บ้านที่เคยครึกครื้นก็จะเงียบเหงา ใจของเขากำลังหายครับ ซึ่งฉากนี้สื่อความหมายได้ดีนะ ผมเชื่อว่าพ่อแม่คนไหนที่มีประสบการณ์ทำนองนี้ ก็คงมีอินกันบ้าง

ผมเองก็อินครับ จริงที่นาทีนี้ลูกผมยังไม่โต แต่อีกไม่กี่ปีเขาก็จะโต และผมก็คงได้สัมผัสกับความรู้สึกแบบที่ลูเจอไม่ช้าก็เร็ว… ขนาดยังไม่เจอผมยังหวิวเลยครับ ตอนที่ลูพูดออกมาน่ะ

หรือตอนหนึ่งที่สตีฟกับแดนนี่ขี่ม้าชมธรรมชาติฮาวายด้วยกันหลังสู้กับผู้ร้ายเสร็จ ฉากนั้นผมว่ามีความหมายนะ โดยเฉพาะตอนที่สตีฟย้ำว่าเขาคงจะจดจำและย้อนรำลึกถึงธรรมชาติสวยๆ ของฮาวายแน่นอน มันเป็นฉากที่บอกใบ้กลายๆ ว่าสตีฟกำลังจะจากฮาวายไป และคนดูอย่างเราๆ ก็กำลังจะต้องโบกมืออำลาให้กับซีรี่ส์นี้เช่นกัน

ไม่มีงานเลี้ยงใดที่ไม่เลิกราครับ มีแต่จะเลิกช้าหรือเลิกเร็วเท่านั้นเอง

ก็ขอสรุปจบนะครับ สำหรับ Hawaii Five-0 ว่าซีรี่ส์นี้ดูได้เพลินๆ มันสนุกเพราะได้ทีมดาราเวิร์กๆ ได้บรรยากาศงามๆ ของฮาวายเป็นเบื้พลังสำคัญ แม้มันจะไม่ใช่ซีรี่ส์ที่สุดยอด แต่หากท่านจะดูแก้เหงา ดูเพลินๆ ผมว่ามันตอบโจทย์อยู่ครับ

สองดาวครึ่งกว่าๆ ครับ

Star22

(7.5/10)