Infinite Storm

นึ่งในโปรแกรมหนังเข้าใหม่ในสุดสัปดาห์นี้ที่หยิบขึ้นมารีวิวและแนะนำกันก็คือหนังดราม่าแนวฝ่าอุปสรรคหาหนทางเอาชีวิตรอดจากธรรมชาติอันโหดร้าย กลายออกมาเป็นหนังฟอร์มเล็ก ๆ แต่เต็มไปด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ อย่าง “Infinite Storm” หนังที่แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของอาสาสมัครหญิงหน่วยกู้ชีพประจำเขตอุทยานฯ กับวีกรรมเด็ดเดี่ยวของเธอ ที่แม้แต่พายุความหนาวลูกใหญ่ก็ไม่สามารถต่อกรกับจุดมุ่งหมายของเธอได้

Infinite Storm เป็นเรื่องราวของ แพม อาสาสมัครดูแลความเรียบร้อยและกู้ชีพประจำเขตอุทยานเทือกเขาวอชิงตัน เธอมีประสบการณ์ในการเดินป่าและปีนเขาเป็นอย่างดี และในครั้งนี้เธอก็เลือกออกเดินป่าในเส้นทางที่คุ้นเคย แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับพายุลมหนาวที่กำลังถาโถมเข้าใส่ระหว่างทาง

ณ ตอนนั้นทำให้เธอก้มลงไปเห็นรอยบนหิมะ เป็นรอยเท้าของคนที่ใส่เพียงรองเท้าผ้าใบธรรมดา ๆ เธอจึงได้เดินออกตามหาคนคนนั้น ก่อนจะได้มาพบกับชายหนุ่มที่เธอเรียกเขาว่า จอห์น ที่อยู่ในสภาพอิดโรยและอ่อนแรง แต่เธอเลือกที่จะพาเขาลงมาจากเขาและพากลับบ้านให้จงได้

คงต้องบอกว่า “นาโอมิ วัตต์ส” สามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างสบาย ๆ แม้ว่าคาแรกเตอร์และบทบาทของเธอแทบจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม เพราะหนังได้ใช้วิธีการเล่าแบบง่าย ๆ ดาด ๆ แบบฉบับสูตรสำเร็จที่ไม่มีความแปลกใหม่อะไรเลย แต่เพราะได้พลังการแสดงของเธอมาช่วยพยุงเอาไว้แท้ ๆ ทำให้ตลอดกว่า 90 นาทีของหนังเรื่องนี้ มีเพชรเม็ดงามเม็ดนี้ที่เจิดจรัสออกมาได้อย่างเปล่งประกาย

แอคติ้งของ นาโอมิ วัตต์ส แทบจะไม่ต้องออกแรงเลย แม้ว่าส่วนใหญ่ของหนังเรื่องนี้เธอจะต้องเล่นและแสดงเองเพียงลำพัง แต่การถ่ายทอดอารมณ์ก็ทำได้ออกมาได้อย่างมืออาชีพ และจุดนี้นี่เองทำให้ Infinite Strom แม้จะไม่จำเป็นต้องใช้นักแสดงสมทบเลย คงจะเป็นเพราะส่วนนี้ที่ทำให้นักแสดงคนอื่น ๆ ของเรื่องนี้กลายมาเป็นแค่ตัวประกอบ ด้วยการเล่าเรื่องที่โฟกัสอยู่แต่กับตัวละครเดียวเป็นหลัก “บิลลี่ ฮาวล์” ที่ร่วมแสดงด้วย กลับแทบไม่มีอะไรให้น่าจดใจในหนังเรื่องนี้เลย

คงอาจจะเป็นเพราะ Infinite Strom มีเนื้อหาที่ค่อนข้างมีความอิมแพคที่ไม่สักหน่อย จึงทำให้เมื่อหนังถ่ายทอดออกมาโดยรวมแล้ว กลับยังไม่สามารถสัมผัสได้ถึงใจผู้ชมได้อย่างหนักแน่นพอ อารมณ์เหมือนกับแค่หนังดูข่าววีรกรรมความดีงามของผู้หญิงคนหนึ่งที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนเดียวตามข่าวท้องถิ่น ที่ไม่ได้มีความยิ่งใหญ่ในท้องเรื่องที่เพียงพอ อีกทั้งการเล่าเรื่องที่กลั่นกรองออกมาก็ยังค่อนข้างจืดชืดไปอยู่สักหน่อย

องค์ประกอบงานสร้างของ Infinite Storm ถือว่าพอใช้ได้ ทำออกมาได้อย่างน่าพอใจ ไม่ถึงกับสมบูรณ์แบบ แต่ก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร แม้จะไม่ค่อยชอบมุมกล้องในหลาย ๆ ฉากกลางแจ้งของหนังเรื่องนี้ก็ตามที เพราะรู้สึกเหมือนกันหนังของมือสมัครเล่นชอบกล แต่กระนั้นเมื่อไปถึงฉากอินดอร์ต่าง ๆ และใส่รายละเอียดโยงเข้ากับอารมณ์ตัวละครนั้น ก็ยังถือว่าผู้กำกับหญิง “มัลกอร์ซาตา ซูมอวสกา” ยังทำออกมาได้ดี

เอาเป็นว่าโดยรวมแล้วนั้น Infinite Storm ก็ถือว่าเป็นหนังดราม่าเอาตัวรอดที่ถือว่าทำออกมาดีตามมาตรฐานสูตรสำเร็จของหนัง ไม่ได้มีอะไรหวือหวา น่าตื่นเต้นสักเท่าไหร่ การเล่าเรื่องยังค่อนข้างไร้ชั้นเชิงและไล่ระดับไม่ดีเท่าที่ควร แต่การแสดงของ นาโอมิ วัตต์ส ก็ช่วยพยุงตัวหนังเรื่องนี้เอาไว้ได้เยอะ ซ้ำยังข้อความในหนังเรื่องนี้ยังสะท้อนแง่คิดและมุมมองชีวิตกลับไปยังผู้ชมได้ดีในระดับหนึ่ง กับทัศนคติของคนที่ยังอยากจะมีชีวิต กับอีกคนที่เลือกอยากจะจากไป

“แต่ยังไงก็เถอะ มันก็ราคาถูกกว่าการไปเข้าบำบัด เพราะป่าเขายังเปิดรับฟังเรื่องของเราเสมอ และก็ไม่เคยตอบกลับมาเลยด้วย”

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Infinite Storm

• ประเภท: ดราม่า / ผจญภัย
• ผู้กำกับ: มัลกอร์ซาตา ซูมอวสกา
• นำแสดงโดย: นาโอมิ วัตต์ส
• ความยาว: 94 นาที
• กำหนดฉายในไทย: 16 มิถุนายน 2022 (ที่ TrueID)

Movie.TrueID METRIC: Infinite Storm

• ภาพรวม
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
• การเล่าเรื่อง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
• การแสดง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
• เทคนิคงานสร้าง
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)
• บทภาพยนตร์
  ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)

————————————-