Racket Boys

นสัปดาห์นี้ได้มีซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ประเดิมเดบิวต์ออนแอร์ออกมาเป็น 2 ตอนแรก จะถือได้ว่าเป็นซีรีส์ที่อยู่นอกสายตา…ของเธอตั้งไกล เพราะมาพร้อมกับภาพลักษณ์และหน้าซีรีส์ที่ไม่ได้มีนักแสดงตัวเป้งๆ มาดึงดูดใจ เนื้อหาก็ไม่ได้ตามกระแสนิยมในช่วงนี้ แต่พอได้สัมผัสกับเนื้อหาของซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่เริ่ม กลับพบว่า “Racket Boys” เป็นซีรีส์ที่มีเนื้อในแอบซ่อนอยู่อย่างคาดไม่ถึง ถึงขั้นอดไม่ได้ที่จะต้องออกมาบรรยายถึง…

null

ในขณะที่ซีรีส์เกาหลีในช่วงนี้เต็มไปด้วยหลากหลายความรักเพ้อฝันที่ทยอยปล่อยๆ ออกมา ทั้งรักระหว่างเทพเทวดา หรือรักยุกยิกกับคุณจิ้งจอกเก้าหาง(อีกตน) แต่ Racket Boys กลายเป็นซีรีส์แนววัยรุ่นวัยเรียนผสมเรื่องการแข่งขันกีฬา ที่น่าจะเพียงเรื่องเดียวที่ออกมาในช่วงนี้ และถือว่าส่งออกมาในจังหวะที่กำลังพอเหมาะพอดี เพราะเป็นการอุ่นเครื่องให้กับการกลับมาของมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนที่จะใกล้จะเริ่มต้นขึ้น

undefined

Racket Boys จะมีเนื้อหาตามชื่อเรื่องเลย เป็นเรื่องราวของทีมแบดมินตันประจำโรงเรียนมัธยมต้นที่เมืองแถบชนบทของเกาหลีใต้ สมาชิกเพียงแค่หยิบมือกับความฝันที่อยากจะภาคภูมิใจกับชัยชนะที่ห่างหายไปนาน ยุนฮยอนจง เป็นโค้ชตกอับที่ต้องย้ายสำมะโนครัวมาปักหลักอยู่ที่บ้านนอก กลายเป็นโค้ชกีฬาให้กับโรงเรียนเล็กๆ และเขาก็ยังพาลูกชาย ยุนแฮกัง เข้าทีมแบดมินตันด้วย โดยที่เด็กชายมีความมุ่งมั่นเป้าหมายเดียวก็คือ “จะต้องติดไวไฟที่บ้าน”

null

แม้ว่าซีรีส์จะดำเนินตามท้องเรื่องในรูปแบบสูตรสำเร็จของซีรีส์แนวกีฬาผสมผสานแนวครอบครัว แต่ปรากฏว่า Racket Boys ได้ให้อรรถรสที่เนื่องความคาดหมายถึงคนดูในหลายแง่มุมอยู่ไม่น้อย เพราะที่ไม่ใช่แค่ซีรีส์หวดลูกขนไก่กันไปมาเท่านั้น แต่ประเด็นหลักที่ว่าแข็งแรงแล้ว ยังมีประเด็นรองลงไปที่ค่อนข้างน่าสนใจและทัชหัวใจคนดูได้เป็นอย่างดีด้วย

หมายเหตุ ข้อความต่อจากนี้ไป อาจมีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของซีรีส์

Racket Boys อาจจะมีตัวละครหลักเป็นเด็กชั้นมัธยมต้นที่มีความฝันและความมุ่งมั่นในการเป็นนักกีฬาแบดมินตันเหมือนกัน แต่ซีรีส์สามารถขับคาแรกเตอร์ของตัวละครต่างๆ ออกมาได้ค่อนข้างแข็งแรง ทุกตัวละครมีความเป็นตัวของตัวเองอย่างเด่นชัด ไม่ใชแค่ตัวละครหลักเท่านั้น ตัวละครสมทบและตัวประกอบต่างๆ ก็ยังดูให้ความสำคัญเกลี่ยกันเป็นอย่างดี

null

ประเด็นการฟอร์มทีมแบดมินตันเป็นเส้นเรื่องหลักของซีรีส์เรื่องนี้ ทำออกมาได้ดี เป็นสูตรสำเร็จที่สนุกสนาน มีดราม่าคลุกเคล้ากับเสียงหัวเราะได้อยู่ตามสไตล์โครงเรื่องแบบ coming-of-age นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในปีนี้ “ทังจุนซัง” มารับบทเป็น “ยุนแฮกัง” ที่ต้องบอกเลยว่า…เด็กคนนี้มีของจริงๆ เพราะเขามักจะได้รับดีๆ และเรื่องนี้ก็ยังถ่ายทอดออกมาได้ดีอีกเช่นกัน

null

ยุนแฮกัง เป็นเด็กที่เกิดและเติบโตมากับครอบครัวสายกีฬา พ่อแม่ของเขาต่างก็มีประสบการณ์การเล่นกีฬา และปัจจุบันก็เป็นโค้ชทั้งคู่ เขารักกีฬาเบสบอลที่ฝังรากลึกอยู่ใต้จิตสำนึก แต่จำใจต้องเลิกเล่นไปเพราะต้องย้ายบ้าน และสถานะการเงินของที่บ้าน แต่นิสัยของยุนแฮกังเป็นคนที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขามีทักษะเล่นกีฬาได้ในหลายๆ ประเภท หนึ่งในนั้นก็คือแบดมินตัน ทำให้การกลับมาจับไม้แร็กเก็ตอีกครั้งของเขา…ไม่ใช่ปัญหา

null

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ทังจุนซัง เป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่สามารถแบกรับซีรีส์ทั้งเรื่องเอาไว้ได้อย่างน่าทึ่ง เขาเป็นตัวละครหลักที่ต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนเส้นเรื่องให้เดิมต่อไป และก็ทำได้ดี พร้อมๆ กับตัวละครสมทบคนอื่นๆ ที่มาช่วยเสริมและหล่อรวมเป็นส่วนประกอบที่ดี ทำให้การดูซีรีส์ Racket Boys ใน 2 ตอนแรกผ่านไปอย่างรวดเร็ว และน่าติดตามจนหยุดพักดูไม่ได้

แต่นอกจากประเด็นหลักของเรื่องที่ว่าด้วยเรื่องแบดมินตันแล้ว Racket Boys ยังแฝงด้วยประเด็นรองที่น่าสนใจ เพียงแค่ 2 ตอนแรกของซีรีส์ก็สามารถเข้าถึงประเด็นอื่นๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสะท้อนสังคมชีวิตในชนบท ในขณะที่ผู้คนแห่กันไปหางานทำในเมือง คนเฒ่าคนแก่ก็ยังต้องดิ้นรนมีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายที่บ้านนอก และทำให้พวกเขาก็มีทัศนคติที่มองคนเมืองในแง่ลบเอาไว้เสมอ

null

เหมือนกับตัวละคร คุณย่าในหมู่บ้าน ที่มักจะมีเฟิร์สอิมเพรสชั่นกับคนเมืองที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เหมือนๆ กัน คนแก่ที่แสดงท่าทีเป็นจองหอง เด็ดเดี่ยว และเกรี้ยวกราด แต่แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงการแสดงออกที่อยากให้คนเห็นถึงความจริงใจและแสดงน้ำใจ การที่คุณย่ามีทัศนคติเช่นนี้กับคนที่เพิ่งพบเจอกันครั้งแรก เป็นแค่เพียงเปลือกนอกที่เธอต้องการแสดงให้เห็นว่าเธอยืดหยัดด้วยตัวเองได้ แต่จริงๆ เธอก็อยากจะมีใครให้พึ่งพาได้ในยามชราเหมือนกัน

กับอีกประเด็นหนึ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะถูกใส่มาในซีรีส์เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรกๆ นั่นก็คือการมาของคู่สามีภรรยาที่ย้ายบ้านมาจากกรุงโซล พวกเขามาถามหาความสงบเงียบให้หมู่บ้านแถบชนบท แต่ก็ต้องมาเจอพิษสงของคนในหมู่บ้าน โดยเฉพาะกับคุณย่าเจ้าถิ่น นี่เป็นตัวละครลึกลับที่ไม่ได้มีการแนะนำให้คนดูรู้จักตั้งแต่เริ่มแรก แต่ปลาอยให้ค่อยๆ ซีบซับไปทีละนิด

null

กระทั่งคนดูเริ่มจะสงสัยและคลำทางหาเหตุผลของทั้งคู่มาได้สักพัก ก็มาถึงจุดไคลแม็กซ์ถึงสาเหตุที่ทั้งคู่มาอยู่ใหม่ที่หมู่บ้านนี้ กลายเป็นโมเมนต์ที่ทำให้คนดูต้องน้ำตาคลอ ความกลัวและความสิ้นหวังที่กำลังรายล้อมพวกเขาอยู่ แต่เหมือนภายนอกยังเต็มไปด้วยความอบอุ่นที่พร้อมจะกอดพวกเขา ซีรีส์ยังทัชใจคนดูได้อยู่หมัด เพียงแค่เสียงออดดังที่หน้าบ้าน…

ไม่เท่านั้น Racket Boys ยังถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับเกมการแข่งขันกีฬาแบดมินตันได้ค่อนข้างดีด้วย เข้าถึงและคลุกวงในวงการแบดมินตัน ไม่ว่าจะการแข่งขับระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับทัวร์นาเมนต์ ขณะที่มุมภาพมุมกล้องและการถ่ายทอดองค์ประกอบของเกมแบดมินตัน ถือว่าละครทำออกมาได้ดี และนักแสดงก็ยังแสดงออกได้ช่ำชอง ประหนึ่งเป็นนักกีฬาแบดมินตันเองประมาณนั้นเลย 

null

ทั้งนี้ เมื่อเหลือบมองดูคนเขียนบทก็พบว่าเขาคือ “จองโบฮุน” ที่สามารถไว้วางใจได้ เพราะเขาคือคนเขียนบทซีรีส์ดัง “Prison Playbook” ที่เคยเป็นซีรีส์นอกสายตาที่ทรงอิทธิพลมาแล้ว เมื่อ 3-4 ปีก่อน งานเขียนของเขามักจะลงรายละเอียดและสัมผัสเข้าถึงจิตใจของคนดูได้เป็นอย่างดี และนี่น่าจะใช้สูตรสำเร็จตามที่เขาถนัด และเป็นจุดดีในงานสร้างสรรค์งานของเขา

Racket Boys อาจจะไม่ใช่ซีรีส์ที่เป็นตัวเลือกแรกๆ ของผู้ชม เพราะเรตติ้งเปิดตัวก็วนๆ อยู่ที่ 4-5% ตามมาตรฐาน แต่หากว่าหลงเข้ามาดูแล้วก็น่าจะหลงใหลย้ายไปอยู่เมืองแฮนัมโดยไม่รู้ตัว นี่จึงเป็นซีรีส์ที่ออกแนวฟีลกู้ดผสมผสานความอบอุ่นของครอบครัว-ผู้คนแถบชนบท และสมัครสมานสามัคคีกับเกมแข่งขันกีฬา เป็นแนวซีรีส์ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยมากนักในหมู่ซีรีส์กระแสหลักในทุกวันนี้ เป็นเรื่องที่ดูได้ง่ายและย่อยง่าย…เพลินดีด้วย